Latest: Download Free Desktop Wallpapers of Chef Loony! | Series: AuthorRank? | Download MBT eBooks!

บทสรุป Dead Space

บทสรุป Dead Space 


การควบคุม 
W, A , S , D = เดินหน้า ,เคลื่อนที่ไปทางซ้าย ,ถอยหลัง ,เคลื่อนที่ไปทางขวา ตามลำดับ 
E = สำรวจ , เปิดประตู ,ใส่คำสั่ง , เก็บไอเท็ม รวมไปถึงการใช้คีย์ไอเท็ม และ โต้ตอบศัตรูได้ถ้าโดนมันจับ 
Q = ใช้ยาเติมพลัง 
Shift + ปุ่มเคลื่อนที่ขึ้น,ลง,ซ้าย,ขวา = จะเป็นการเคลื่อนที่ด้วยการวิ่ง 
R = ใส่กระสุนปืน 
I = เปิดดูคลังไอเท็มที่เรานำติดตัวมา 
M = เปิดดูแผนที่ 
J = เปิดดูเป้าหมายที่เราต้องทำ 
L = เปิดดูข้อความย้อนหลัง 
Ctrl = เปิดลำแสงนำร่อง ซึ่งจะเป็นการบอกจุดที่เราจะต้องไปต่อ *สำคัญมากครับ หมั่นเปิดดูบ่อยๆ จะได้ไม่หลงทาง* 
ปุ่มเลข 1 , 2 ,3 , 4 = เปลี่ยนอาวุธที่ถือ 
Mouse 1 = โจมตีด้วยการเหวี่ยงหมัด (เวลาโจมตีลักษณะนี้ เราจะเสียพลังชีวิตเล็กน้อยด้วย) 
Mouse 2 = ทำการเล็งเป้าหมายด้วยอาวุธที่ถืออยู่ 
Mouse 2 + Mouse 1 = ทำการเล็งศัตรูด้วยอาวุธ จากนั้นกดคลิก Mouse 1 เพื่อยิง 
Mouse 2 + Mouse 3 (หรือ Spacebar) = จะเป็นการใช้การโจมตีรูปแบบที่ 2 ของอาวุธที่เราถืออยู่ ซึ่งปืนแต่ละชนิดจะมีท่าโจมตีรูปแบบที่ 2 ที่แตกต่างกัน 
Mouse 2 + ปุ่ม C = ใช้ Stasis ซึ่งเป็นความสามารถชะลอความเร็วของวัตถุ รวมไปถึงความเร็วของศัตรูอีกด้วย โดยวิธีใช้ต้องเล็งปืนไปยังเป้าหมาย จากนั้นกดปุ่ม C เพื่อยิง Stasis ใส่ศัตรู 
Mouse 2 + ปุ่ม F = ใช้ Kinesis ซึ่งเป็นความสามารถยึดจับวัตถุที่อยู่ห่างจากเราให้เข้ามาใกล้เราได้ หรือเคลื่อนที่วัตถุขนาดกลางเพื่อใช้สำหรับผ่านฉากครับ แต่เราสามารถประยุกต์ใช้เป็นอาวุธได้ ด้วยการใช้ Kinesis ยกพวก ถังระเบิด หรือ ใบพัด มาแล้ว กด Mouse 1 เพื่อยิงใส่ศัตรูได้ ซึ่งจะเป็นการประหยัดกระสุนปืนได้ดี 
Spacebar = ทำการเหยียบที่พื้น ใช้ทำลายกล่องไอเท็ม หรือ ทำการโจมตีมอนสเตอร์ 
Mouse 2 + ปุ่ม Ctrl จะเป็นการเล็งไปยังพื้นที่เป้าหมาย แล้วกระโดดไปยังจุดๆนั้น ใช้ได้เฉพาะพื้นที่ที่เป็น Zero- G หรือพื้นที่ไร้แรงโน้มถ่วง 

เริ่มเล่นตัวเอก Isaac Clarke ที่เป็นนักวิศวกร และเพื่อนๆ ได้แก่ Kendra Daniels (ผู้หญิงผมยาว) , Zach Hammond (พี่มืด) และเพื่อนอีก 2 คน (ขออภัย จำชื่อไม่ได้ครับ) ซึ่งทำงานให้กับบริษัท C.E.C ได้เดินทางมายังยานอวกาศ USG ISHIMURA ซึ่งเป็นยานสำหรับการจุดเจาะหินแร่อวกาศที่มีขนาดใหญ่ที่สุด(ถ้าจำไม่ผิด) ซึ่งสามารถบรรทุกลูกเรือได้หลายร้อยคน (ไม่แน่ใจ) ซึ่งหนึ่งในสมาชิกของยาน Ishimura นั้นมีแฟนสาวของ Issac ที่ชื่อNicole Brennan อยู่ด้วย ซึ่งทางบริษัท C.E.C. ได้รับสัญญาณผิดปกติจากยาน Ishimura จึงได้ส่งกลุ่มของ Issac มาตรวจสอบปัญหา แต่ระหว่างการทำยานเข้าเทียบท่า ยานของ Issac (คาดว่า) ถูกสนามพลังของ Ishimura ดูดเข้าไปที่ยาน Hammond เห็นว่าสนามพลังนี้อาจดึงให้ยานของพวกเขาไปชนเข้ากับผนังด้านนอกของ Ishimura ได้ จึงตัดสินใจ ให้นำยานพุ่งเข้าไปข้างในยาน Ishimura เมื่อพวกเขาสามารถลงจอดได้อย่างปลอดภัย จึงเริ่มออกสำรวจภายในยาน ishimura โดยหารู้ไม่ว่า มีสิ่งที่ไม่คาดฝันกำลังรอพวกเขาอยู่ 
ปล.ข้อมูลบางส่วนอ้างอิงจาก wikipedia + ความเข้าใจของตัวเอง ผิดพลาดประการใด เดี๋ยวแก้ให้ครับ 

Chapter 1 : New arrivals 
-เริ่มต้นเกม ให้เราทำการฝึกการบังคับตัวละครเสียก่อน เมื่อคิดว่าฝึกพอแล้วก็ให้ออกมาภายนอกยาน จากนั้นเดินมาตามเส้นทาง หรือเดินตามเพื่อนเราไปก็ได้ ก็จะมาหยุดที่หน้าประตู ให้กดปุ่ม E เพื่อเปิดประตู เราจะเข้ามาข้างในห้องรับรองของท่าจอดยาน จากนั้นพี่มืด Hammond จะบอกให้เราเข้าไปที่คอมพิวเตอร์ เพื่อตรวจสอบยาน Ishimura ให้เราใช้ Ctrl เพื่อฝึกเปิดแสงนำร่อง เมื่อเห็นแสงแล้วให้เดินไปตามแสง โดยคอมพิวเตอร์จะอยู่ในห้องที่มีกระจกกั้น 
 
ซึ่งเมื่อเดินเข้ามาจะพบประตู To Elevator จะล็อคอยู่ ให้จำประตูนี้ไว้ 
 
-จากนั้นให้เรากดสำรวจที่คอม จะพบว่าเกิดไฟดับ แล้วพวกเอเลี่ยนจะบุกเข้ามาโจมตีเพื่อนเรา ให้เรารีบวิ่งออกประตู To Elevator ทันที เพราะ เอเลี่ยนก็จะโผล่เข้ามาโจมตีเราเช่นกัน โดยวิ่งไปเรื่อยๆ จนพบลิฟต์ที่อยู่ปลายทาง ให้สำรวจเปิดประตูลิฟต์แล้ววิ่งเข้ามากดใช้ลิฟต์ซึ่งปุ่มจะอยู่ขวามือ ใกล้ประตูลิฟต์ 
-เมื่อผ่านมาได้เราจะลงลิฟต์มาด้านล่าง ให้เดินไปทางซ้ายมือ เราจะพบศพของชายคนหนึ่งซึ่งข้างๆกับศพจะมีปืน Plasma cutter ให้เก็บมาเสียจากนั้น เราจะได้ยินเสียงคนร้องขอความช่วยเหลือ ให้เดินออกมาแล้วหันไปทางซ้ายจะพบว่าประตูนั้นไม่สามารถเปิดได้ ให้เรารีบยิงสวิตซ์ที่อยู่ข้างๆประตูเสีย แล้วรีบเปิดประตูเพื่อช่วยเหลือ 
-แต่เอเลี่ยนจะโผล่มาให้เราใช้ปืนที่พึ่งได้ จัดการมันเสีย โดยศัตรูเกมนี้จะมีจุดอ่อนอยู่ที่แขนเป็นสำคัญและขารองลงมา ให้เราทำการยิงที่แขนทั้ง 2 ข้าง ก็จะสามารถปราบมันได้ง่ายขึ้น และเมื่อปราบมันได้พวกมันมักจะดรอปไอเทมด้วย อย่าลืมเก็บมานะครับ เมื่อสามารถกำจัดมันได้ก็ให้เดินตามทางมาเรื่อยๆ ถ้าหลงก็ใช้แสงนำร่องนะครับ ออ อย่าลืมสำรวจให้ทั่วๆนะครับ จะมีไอเทมให้เก็บเยอะมาก จงข่มความกลัว ด้วยการงัดความเค็มออกมาเสีย เก็บให้หมดฮ่าๆ 
- เมื่อเดินมาเรื่อยๆ เราจะพบห้อง Tram control room เมื่อเข้าไปข้างในได้ Hammond จะติดต่อมา บอกว่าเหลือเขาและ Kendra รอดเพียง 2 คน เขาจะขอให้เราไปซ่อมระบบการทำงานของรถไฟฟ้า เพื่อจะได้ใช้รถไฟฟ้าเดินทางไปมาภายในยาน Ishimura เมื่อฟังจบแล้วให้เราสำรวจตู้เก็บของเพื่อเก็บไอเทม แล้วเดินไปที่จุดเซฟซึ่งจะอยู่ติดผนัง ให้ทำการเซฟเสียจากนั้น เดินออกมาจากห้องนี้โดยผ่านประตูที่อยู่ทางซ้ายมือของห้องเมื่ออกมาแล้วสำรวจให้ทั่วเพื่อเก็บไอเทม โดยกล่องที่มีไฟสีเขียวกระพริบอยู่นั้นเราสามารถทำลายมันเพื่อเก็บไอเทมได้ 
-จากนั้นไปยังประตู Tram Tunnel เดินต่อไปเรื่อยๆ จะพบว่าเราโผล่ออกมาอยู่ภายในอุโมงค์ขนาดใหญ่ โดยทางซ้ายมือจะมีไอเทมให้เก็บด้วย จากนั้นเดินตรงขึ้นมาเรื่อยๆเราจะพบว่าประตู Tram station hall นั้นเกิดระบบรวน เปิดปิดเอง ทำให้เราไม่สามารถผ่านไปได้ ให้สำรวจบริเวณที่พื้นหน้าหน้าประตู เราจะพบไอเทมที่ชื่อ Stasis Module ให้เก็บซึ่งไอเทมนี้จะทำให้เราสามารถชะลอการเคลื่อนไหวของวัตถุได้ รวมไปถึงชะลอการเคลื่อนไหวของพวกเอเลี่ยนได้ ให้เราใช้มันเพื่อชะลอการเปิดปิดของประตูจากนั้นก็รีบวิ่งผ่านไป 
ปล.บริเวณใกล้กับประตูนี้จะมีเครื่องเติมพลังงาน Stasis อยู่ถ้าหมดเราสามารถเติมได้กับเจ้าเครื่องนี้ครับ ซึ่งจะมีอยู่ตามฉากต่างๆ แรกๆมีหลายจุดครับ แต่หลังๆไม่ค่อยมีแล้ว ยังไงก็ใช้อย่างระมัดระวังด้วย 
เดินไปตามทางเรื่อย หาประตูที่ชื่อ Tram repair room เมื่อเข้ามาแล้วเราอยู่ในห้องซ่อมบำรุง สิ่งที่ต้องการก็คือให้เราสำรวจสวิตซ์ ควบคุมแขนกล ซึ่งจะมีอยู่ 2 สวิตซ์ทั้งซ้ายและขวา เมื่อสำรวจแล้วจะพบว่าแขนกลจะยื่นไปจับรถไฟฟ้า 
 
-แต่เนื่องจากความเร็วที่มากเกินไปทำให้แขนกลจับไม่อยู่ ให้เรากดสำรวจสวิตช์แขนกลอีกครั้ง เมื่อแขนกลยื่นไป ให้ใช้ Stasis ชะลอความเร็วของแขนกล ถ้าทำได้พอดีแขนกลก็จะสามารถเกาะรถไฟฟ้าได้ ส่วนแขนกลอันที่ 2 นั้น เมื่อแขนกลเกาะรถไฟฟ้าแล้วเราต้องรีบวิ่งมาที่สวิตช์กลางเพื่อเปิดระบบทันที ไม่งั้นแขนกลอันที่ 2 จะถอยกลับมาเสียก่อน ถ้าทำได้เราก็จะสามารถนำรถไฟฟ้ากลับไปที่รางได้ แต่ขณะที่ทำต้องระวังเอเลี่ยนมาโจมตีด้วยนะครับ 
-เมื่อทำสำเร็จให้กลับมาที่อุโมงค์อีกครั้ง ฝ่าเอเลี่ยน 2 ตัว แล้วออกประตูไป หาประตูที่ชื่อ Maintenance bay ซึ่งจะเป็นลิฟต์ ให้ลงลิฟต์ไป เป้าหมายของเราคือ หากุญแจเพื่อไปเปิดการทำงานของรถไฟฟ้า ซึ่งตอนนี้เอเลี่ยนจะบุกเข้ามาโจมตีเราตลอด เอาชีวิจรอดให้ได้ พยายามสำรวจเพื่อเก็บไอเทมให้ทั่ว โดยให้เดินหาลิฟต์ที่ชื่อ Elevator to crane room เมื่อเจอแล้วก็ให้ลงลิฟท์ไป เมื่อออกมาให้เดินไปทางซ้าย แล้วหันขวาเราจะพบไอเทมที่อยู่ปลายสุดทาง เราจะพบกุญแจ Maintenance bay key ให้เก็บมา แล้วกลับขึ้นลิฟท์ไป ให้เราหาห้องที่ชื่อ Bay office ใช้กุญแจที่ได้ไขเข้าไป ที่นี่เราจะพบเครื่อง Bench ซึ่งเราสามารถอัพเกรดปืน ,แถบพลังชีวิต และ stasis ได้จากเครื่องนี้ ซึ่งต้องใช้ไอเทมที่ชื่อ Power Node ในการอัพเกรด ถ้าอัพเกรดแล้วหรือหมดธุระแล้ว ให้สำรวจที่โต๊ะที่อยู่ติดกับกระจกเราจะพบ Data board ให้เก็บมาเสียแล้วกลับไปที่ห้อง Tram control room ระวังเอเลี่ยนบุกจู่โจมด้วยนะครับ เมื่อมาถึง Tram control room แล้วให้ใช้ Data Board กับเครื่องที่อยู่มุมสุดของห้องจากนั้นมาที่แท่นควบคุมที่อยู่ใกล้กับกระจก สำรวจแล้วจะมีรถไฟฟ้ามารับ เพื่อนของเรา 
-ตอนนี้ให้เราหาทางกลับไปที่ยานของเราอีกครั้งเพื่อเตรียมหนีออกจากที่นี่ โดยใช้เส้นทางเดิมกับที่เรามาแหละครับ เมื่อมาถึงที่ยานของเรา ให้เข้ามาข้างในยานเพื่อเตรียมเดินเครื่อง แต่จะพบว่าพวกเอเลี่ยนได้เข้ามาทุบทำลายยานของเราจนเสียหายหนักมาก ให้รีบหนีออกมาก่อนที่ยานจะระเบิด 
-เมื่ออกมาได้เราจะต้องรับมือกับพวกเอเลี่ยนอีกจำนวนหนึ่ง กำจัดให้หมดแล้วเพื่อนเราจะติดต่อมาว่าจะทำการแฮคระบบเพื่อค้นหาทางหนีรอดออกจากที่นี่แต่ไม่สามารถทำได้ เพราะจะต้องได้รับรหัสจากตัวกัปตันยานก่อน จึงจะเข้าระบบได้ เพื่อนจะขอให้เราไปที่ศูนย์พยาบาล เพื่อตามหากัปตัน โดยจะส่งรถไฟฟ้ามารับเรา ให้เรากลับไปยังเส้นทางเดิม 
-เมื่อเข้ามาที่ห้องที่เราโดนพวกเอเลี่ยนโจมตีครั้งแรกให้มองหาประตูที่ชื่อ To tram station ให้เดินเข้าประตูนี้มาแล้ววิ่งหาลิฟท์ To tram station เมื่อเราลงลิฟท์มาถึง จะพบเครื่อง Store ซึ่งเราสามารถซื้อไอเทมฟื้นพลัง กระสุนปืน ปืนชนิดต่างๆ Power Node และอัพเกรดชุดที่เราใส่ รวมไปถึงการขายของที่เรามี และฝากของไว้ใน safe ได้ โดยชนิดของไอเทมต่างๆที่มีขายนั้นจะเพิ่มขึ้นได้ก็ต่อเมื่อเราเก็บไอเทมมาอัพเดทสินค้าใน Store เมื่อจัดการธุระเรียบร้อยแล้ว ให้มาขึ้นรถไฟฟ้าแล้วสำรวจจอที่อยู่ตรงข้ามกับประตูรถไฟฟ้า ก็จะเป็นการจบฉาก 

Chapter 2 : Intensive Care 
-เริ่มต้นฉากหลังจากที่เราลงรถไฟฟ้ามาแล้ว เราจะพบกับหน่วยพยาบาลหญิงคนหนึ่งซึ่งเธอจะมอบไอเทมให้กับเราจากนั้นเธอก็จะสิ้นใจ ให้เราเก็บไอเทมนั้นเสีย ซึ่งมันก็คือ Kinesis Module เป็นไอเทมที่ทำให้เราสามารถหยิบจับสิ่งของหรือวัตถุที่อยู่ไกลๆได้ ให้เราเดินต่อไปทางซ้ายจะพบว่ามีกล่องเหล็กขวางทางเราอยู่ ให้เราใช้ Kinesis ยกกล่องเหล่านี้ออกไป จากนั้นเดินทางต่อผ่านประตู Research Wing จะพบว่า Hammond ได้ติดต่อมาหาเรา เขาจะบอกว่าถูกพวกเอเลี่ยนโจมตี จนคลาดกันกับ Kendra แต่ว่าภารกิจยังคงต้องดำเนินต่อไป เขาจะให้เราไปตามหากัปตัน(คาดว่าจะเสียชีวิตแล้ว)ซึ่งจะมีรหัสที่ใช้เข้าไปในเครือข่ายคอมพิวเตอร์ โดยกัปตันจะอยู่ที่ห้องเก็บศพ (Morgue) ซึ่งตอนนี้ถูกปิดตายด้วยผนังเหล็ก เราต้องไปนำระเบิดมาทำลายเส้นทางที่ปิดอยู่นี้เสียก่อน 
ให้เก็บของในห้องนี้ จากนั้นเซฟเสีย แล้วให้ออกประตู Research Wing ไปครับแล้วให้ตรงไปถึง Main Lab 
ปล.ผมขอเรียกห้องที่เราอยู่ขณะนี้ว่าห้องเริ่มต้นนะครับ พอดีจำชื่อห้องไม่ได้ 
ปล. ด่านนี้เส้นทางไม่บังคับนะครับ เพราะเราต้องไปเอาตัวระเบิดกับชนวนระเบิดซึ่งไปทางไหนก่อนก็ได้ครับ แต่ต้องนำมารวมกันแล้วใช้ในห้องนี้อยู่ดี 
-เมื่อผ่านประตู Main Lab มาแล้วเตรียมตัวให้พร้อมนะครับ เพราะว่าประตูทั้งหมดจะปิดตาย แล้วพวกเอเลี่ยนจำนวนมากจะมารุมโจมตีเรา ให้กำจัดให้หมด ประตูก็จะเปิดออก ให้เราเก็บไอเทมให้หมดแล้วไปประตู Bio lab เมื่อเดินมาเรื่อยจะพบชายคนหนึ่งร้องขอความช่วยเหลือเรา แต่ไม่ทันการเขาได้ถูกเอเลี่ยนจัดการไปเสียแล้ว ให้เราเข้าประตูไปในห้องที่ชายคนนี้ถูกสังหาร เราจะพบเอเลี่ยนรูปแบบใหม่ที่ชื่อ Lurker ซึ่งมันจะเป็นเอเลี่ยนขนาดเล็กที่เคลื่อนที่ได้เร็ว จุดอ่อนอยู่ที่เมื่อมันจะโจมตีเรา มันจะปล่อยหนวด 3 เส้นออกมาจากลำตัว ให้เราทำลายหนวดเหล่านี้เสียก็จะสามารถจัดการมันโดยง่าย 
-จากนั้นให้เดินทางมาต่อจนถึงด้านในเราจะพบกับชนวนระเบิด(The Thermite)วางอยู่บนโต๊ะ เมื่อเก็บแล้วให้กลับมาห้องเริ่มต้น จากนั้นไปต่อที่ประตู Imaging Diagnostic Wing ตรงไปตามทางเรื่อยๆ จนเข้ามาถึงห้องๆหนึ่งที่มีหลอดทดลองขนาดใหญ่ขวางทางอยู่ ให้ใช้ Kinesis เคลื่อนมันออกไปจากทาง (ตอนที่เข้ามาห้องนี้ ให้เราหันไปทางซ้ายจะพบประตูที่ต้องใช้ Power Node เปิด ซึ่งภายในมีไอเทมให้เก็บ จะเปิดหรือไม่ก็ได้ครับ) แล้วเดินต่อไป จะพบลิฟต์ที่ไม่สามารถใช้การได้ ให้เราใช้ Kinesis ยกเอากล่องพลังงานเป็นลักษณะกล่องสี่เหลี่ยมๆ ไปเสียบใส่รูที่อยู่ข้างประตูเท่านี้ลิฟต์ก็จะสามารถกลับมาใช้งานได้อีกครั้ง แต่ก่อนที่ขึ้นลิฟต์อยากให้เข้าห้องที่อยู่ ใกล้ๆกับลิฟต์(ห้องที่ไม่ล็อค) ในนี้จะมี Power Node แล้วก็ไอเทมสำคัญที่ชื่อ Schematic ซึ่งเป็นไอเทมเอาไว้อัพเดทสินค้าใน Store ของเราครับ เมื่อเก็บได้แล้วให้ขึ้นลิฟต์ไป เราจะพบว่าเส้นทางไปต่อนั้นขาดหายไป ให้เราใช้ Kinesis กับหลอดทดลองเพื่อนำมันมาเป็นทางผ่านไป 
 
เมื่อผ่านไปได้แล้วตรงไปจะพบประตูที่ล็อคอยู่ให้เรายิงทำลายสวิตซ์ที่อยู่ข้างประตูก็จะเข้าไปได้ เมื่อเข้ามาตามทางเรื่อยเราจะพบห้องที่อยู่ในสภาพเสียหาย ซึ่งที่นี่จะไม่มีอากาศ ให้เรารีบเก็บไอเทมแล้วเข้าไปยังประตูถัดไป เมื่อผ่านห้องสุญญากาศมาได้เราจะอยู่ที่หน้าห้อง Zero-G Therapy Area ซึ่งเมื่อเข้ามาแล้วให้สำรวจสวิตซ์ที่อยู่ใกล้กับหน้าประตู ซึ่งจะทำให้ห้องนี้เป็นห้องไร้แรงโน้มถ่วง 
- เป้าหมายของเราคือห้องที่อยู่ตรงข้าม ให้เราใช้ Mouse 2 เล็งเป้าหมายไปที่บริเวณใกล้ประตู แล้วกด Ctrl เพื่อกระโดดไปยังฝั่งตรงข้าม จากนั้นใช้ Kinesis ดึงเอากล่องพลังงานที่อยู่ใกล้ที่สุดมาเสียบที่รูข้างประตู เมื่อเข้าประตูมาเราจะพบกับตัวเครื่องจุดระเบิด(Shock Pad) ให้เรากลับมายังห้องเริ่มต้นอีกครั้ง เมื่อมาถึงให้กดสำรวจที่กำแพงเหล็กที่กั้นประตูอยู่ คราวนี้เราจะสามารถเข้าไปยังพื้นที่ต่อไปได้แล้ว 
- ให้เข้าไปจนถึงห้อง Ishimura Clinic จากนั้นเข้าประตู Emergency Room จะพบพวกเอเลี่ยนอีกครั้ง ควรกำจัดให้หมดเพื่อจะได้เก็บของในห้องได้สะดวกยิ่งขึ้น 5+ จากนั้นจะสังเกตว่ามีประตูห้องที่ขาดกล่องพลังงานอยู่ ให้หากล่องพลังงานมาใส่เพื่อเปิดประตู จากนั้นเดินไปตามทางแล้วฝ่าดงเอเลี่ยนไปเรื่อยๆ ก็จะพบกับห้อง Morgue ซึ่งศพของกัปตันจะอยู่ในห้องตู้กระจก 
-เมื่อเดินเข้ามาเรื่อยๆ เราจะพบว่ามีเอเลี่ยนบุกเข้ามาจู่โจมใส่ศพของกัปตัน ซึ่งเอเลี่ยนตัวนี้ (Infector) สามารถทำให้ศพกลายเป็นพวกเอเลี่ยนได้ อีกทั้งเราจะพบว่าเอเลี่ยนมีลักษณะเป็นตัวสีดำ ซึ่งมันก็คือเอเลี่ยนที่แข็งแกร่งขึ้นแล้วนั่นเอง ให้เรารีบกำจัดมันโดยเร็วก่อนที่มันจะปลุกศพอื่นๆมาโจมตีเรา เมื่อเราสามารถจัดการมันและเอเลี่ยนกัปตันได้แล้วสำรวจไอเทมที่กัปตันเราก็จะได้ Captain ‘s AIG จากนั้นให้ขึ้นลิฟต์ที่อยู่ข้างห้องตู้กระจก แล้วหาทางกลับมาที่รถไฟฟ้าให้ได้ เมื่อเดินทางมาจนจะถึงห้องเริ่มต้น Hammond จะติดต่อมาหาเราแล้วบอกว่าคาดว่าเอเลี่ยนพวกนี้มาจากในช่วงที่ยาน Ishimura ได้ทำการขุดแร่หินมาจากดาว เมื่อฟังเสร็จให้เรากลับมาขึ้นรถไฟฟ้าก็จะเป็นการจบฉาก 

Chapter 3 : Course Correction 

เริ่มต้นด่านมา Hammond ต้องการให้เราทำการเติมพลังงานให้กับยาน(หรือเปล่า) กับทำให้ Gravity Centrifuge ทำงาน เริ่มต้นให้เราเข้าประตู Control Room จนไปถึงห้อง Control Room จากนั้นไปประตูขวามือที่ชื่อ Machine Shop เมื่อเข้าไปก็ให้เก็บไอเทมให้หมดแล้วเข้าประตู Refueling Control Station เมื่อเดินมาตามทางเรื่อยๆเราจะพบกระเช้าข้ามฟากที่ค้างอยู่กลางทาง ให้เราใช้ Kinesis ดึงกระเช้าเข้าหาตัวเรา แต่อย่าพึ่งขึ้นไปนะครับ ให้เดินขึ้นต่อไปหน่อย มองทางขวามือจะพบแท่นสวิตซ์ที่ใช้สำหรับเดินเครื่องเติมพลังงาน ให้ใช้Kinesis ดึงมันลงประกบกับตัวสวิตซ์ที่อยู่ด้านล่างด้วย Kinesis 
-เมื่อทำสำเร็จให้เดินขึ้นไปที่กระเช้าแล้วกดสวิตซ์เพื่อข้ามฟากไป แต่ให้เตรียมตัวให้ดีเพราะจะมีเอเลี่ยนออกมาต้อนรับเราเป็นจำนวนมากกำจัดให้หมด แล้วเดินไปตามเส้นทางจะพบสวิตซ์เดินเครื่องเติมพลังงานอีกเครื่องหนึ่ง ให้ใช้วิธีเดิมกับครั้งที่แล้ว จากนั้นก็ให้ขึ้นกระเช้ากลับมาฟากเดิม ก่อนที่จะมาถึงเราจะพบว่ามีเอเลี่ยนวิ่งตัดหน้าเราไป ให้ตามมันขึ้นไปตามทาง แล้วออกประตู Control Room เราจะกลับมาห้อง Control Room จากนั้นให้ไปลงลิฟต์ Elevator To Centrifuge 
-เมื่อลงมาถึงให้เตรียมตัวให้พร้อม จากนั้นเข้าประตู Decontamination Room แล้วสำรวจสวิตซ์ที่อยู่ในห้อง ระบบจะทำการล็อคประตูทั้งหมด แล้วเอเลี่ยนจะบุกโจมตีเราจากทางด้านบน ให้กำจัดให้หมดแล้วประตูก็จะเปิด จากนั้นออกตามประตูไปตามทาง เข้าประตู To Centrifuge เราจะอยู่ในที่ที่เหมือนอุโมง ให้เดินไปทางซ้ายก่อนเพื่อเก็บ Power Node จากนั้นค่อยเดินกลับขึ้นมาประตู Centrifuge Access เมื่อเข้ามาแล้วเราจะพบห้องขนาดใหญ่ที่อยู่ในสภาพไร้แรงโน้มถ่วง เป้าหมายของเราคือเคลื่อนแท่นพลังงาน 2 ตัวให้จ่ายพลังงานไปที่แกนกลางของห้อง โดยให้กระโดดลงมาข้างล่าง มองหาแท่นพลังงาน ซึ่งตรงหัวแท่นพลังงานจะเคลื่อนที่ด้วยความเร็วสูง ให้เราใช้ Stasis ชะลอความเร็วก่อน จากนั้นใช้ Kinesis ลากมันเข้ามาที่แกนกลาง 
-เมื่อทำสำเร็จทั้ง 2 จุดแล้ว ให้กระโดดกลับขึ้นมาที่ชั้นลอย มองหาแท่นสวิตซ์จากนั้นสำรวจเสีย ห้องนี้จะกลับมามีแรงโน้มถ่วงอีกครั้ง 
-ให้กลับหลังหันมาลงลิฟต์ไปด้านล่าง แต่ข้างล่างนี้จะมีเครนขนาดใหญ่เคลื่อนที่เป็นวงกลมซึ่งถ้าเราโดนเพียงครั้งเดี๋ยวก็จะตายทันที ให้รอให้มันผ่านไปก่อนแล้วค่อยวิ่งไปหาจุดหลบที่อยู่ทางขวา ทำแบบนี้ไปเรื่อยๆจนพบจุดหลบที่มีลิฟต์ ให้ขึ้นลิฟต์แล้วออกจากห้องนี้ -ให้เราหาทางกลับมาที่ Control Room แต่ระหว่างที่ออกมาเราจะถูกหนวดเอเลี่ยนขนาดใหญ่ดึงจนเสียหลักล้มลง ให้เรารีบยิงไปที่ต่อมสีเหลืองทันที ก่อนที่มันจะลากเราเข้าไปในรู ซึ่งหากพลาดทำลายไม่ทันเราจะตายทันที 
 
-เมื่อรอดพ้นมาได้ก็เดินทางต่อจนมาถึง Control Room Kendra จะติดต่อมาหาเรา บอกว่าเธออยู่ที่ห้องคอมพิวเตอร์หลัก และจะพูดถึงสิ่งที่ยาน Ishimura ได้ค้นพบขณะที่จุดเจาะแร่ ซึ่งชื่อของมันก็คือ Marker เมื่อฟังเสร็จให้เราเข้าประตูที่ไม่มีชื่อซึ่งจะอยู่ก่อนประตู Refueling Control Room 
 
ซึ่งเมื่อผ่านประตูนี้ไปจะเป็นพื้นที่สุญญากาศและไม่มีแรงโน้มถ่วง ให้เราพยายามหาทางมาที่ประตู To Engine Room 
-เมื่อเข้ามาแล้วจะพบว่าพื้นที่บริเวณนี้จะปกคลุมไปด้วยเมือกเอเลี่ยน ให้เราสำรวจไอเทมให้หมดแล้วลงลิฟต์ไปชั้นล่างสุด จะพบประตู Exit To Engine Room ซึ่งระบบประตูจะรวนอยู่ ให้ใช้ Stasis ชะลอประตูแล้ววิ่งผ่านไปจนถึงจุดเซฟ ให้เซฟแล้วเตรียมตัวให้พร้อม จากนั้นเข้าประตูทางซ้าย Engine Control Room ไปจะพบเอเลี่ยนจำนวนมาก กำจัดให้หมด จากนั้นสำรวจสวิตซ์ที่อยู่ด้านบนของห้อง จากนั้นเตรียมรับมือกับเอเลี่ยนระลอก 2 กำจัดให้หมดแล้วสำรวจสวิตซ์อีกครั้ง เท่านี้ระบบก็จะทำงานได้แล้ว ให้เก็บไอเทมในห้องนี้ให้หมด แล้วออกประตูมาเข้าประตู Return To Control Room ระหว่างทางเราจะได้รับสัญญาณลึกลับที่ไม่ปรากฏผู้ส่ง เมื่อมาถึง Control Room แล้วให้กลับไปที่รถไฟฟ้า Hammond จะติดต่อมาหาเรา บอกว่าเขามีปัญหามากมายที่อยากให้เราช่วย ให้เรารีบมาหาเขาที่สะพานเดินเรือ จากนั้นก็ขึ้นรถไฟฟ้าไปก็จะจบฉาก 

Chapter 4 : Obliteration Imminent 
-เริ่มต้นเกม Kendra จะติดต่อมา ถาม Hammond ถึงเรื่อง Marker ซึ่ง Hammond นั้นบอกว่าไม่รู้เรื่องนี้ แต่ Kendra จะไม่เชื่อ Hammond บอกให้พักเรื่องนี้ก่อนแล้วให้รีบมาหาเขาทันทีที่สะพายเดินเรือ ให้เราเข้าประตู Main Atrium แล้วเดินไปตามทางจะพบสะพานเดินเรือขนาดใหญ่ -ให้เราเดินลงไปด้านล่างจะพบทางต่างระดับซึ่งภายในมีลิฟต์อยู่ ให้ลงลิฟต์มาที่ห้อง Captain ‘s Nest (ก่อนเข้าห้อง Captain ‘s Nest จะมี Schematic ของชุดระดับ 3 อยู่ด้วย อย่าลืมเก็บนะครับ) เมื่อเข้ามาห้อง Captain ‘s Nest เราจะพบ Hammond ซึ่งเขาจะขอให้เราเชื่อใจเขา แล้วจะให้เราไปช่วยเปิดระบบทำงานของปืนใหญ่ เพื่อทำลายสะเก็ดอุกกาบาต(มั้ง 5+) ให้เก็บไอเทมให้หมดแล้วกลับขึ้นมาด้านบน ก่อนไปเซฟเสียก่อนแล้วให้ไปทางประตู Security Room ซึ่งเป็นประตูที่อยู่ข้างๆประตูที่เราเข้ามาตอนแรก แต่ระหว่างที่กำลังจะเข้าประตู เราจะพบว่ามีเอเลี่ยนตัวใหญ่ ( Brute) ทำลายประตูออกมา 
ให้เรากำจัดมัน โดยจุดอ่อนของมันจะอยู่ด้านหลัง ซึ่งมีวิธีปราบหลายๆแบบครับ เช่น 
1.ใช้ Stasis ชะลอมันแล้ว อ้อมไปยิงด้านหลังมัน ดื้อๆเลย 
2.ให้ยิงมันจนกว่ามันจะหมอบลง ซึ่งต้อนนี้มันจะไม่ขยับไปไหน ให้เรารีบวิ่งอ้อมมายิงมันด้านหลัง 
3.วิธีนี้ค่อนข้างแปลกหน่อย คือใช้พื้นที่ปลอดภัยให้เป็นประโยชน์ อ๋อ...พื้นที่ปลอดภัย ที่ผมเขียนนั้นหมายถึงพื้นที่ที่พวกเอเลี่ยนจะไม่ยอมเข้ามาครับ เช่นพวกทางต่างระดับ หรือประตูแต่บางประตู ไม่รู้ว่าเป็นที่โปรแกรมสั่งไว้หรือว่าเป็นบั๊กของเกม ซึ่งเราควรใช้จุดนี้ให้เป็นประโยชน์ในการยิงฟรีครับ 
มาพูดถึงวิธีปราบมันต่อนะครับ 
-ให้เรามองหาพื้นที่ต่างระดับ ซึ่งในห้องนี้จะเป็นทางที่เราพึ่งเดินขึ้นมาจาก ลิฟต์ Captain ‘s Nest ก็ได้ครับ ลองล่อมันให้เดินมาหาเรา แล้วลองวิ่งกลับลงมาสิครับ จะพบว่ามันเดินหันหลังหนีไปไปหลบหลังลิฟต์ตะรางกลางห้องเฉยเลย ให้เรายิงหลังมันตอนที่มันเดินหนีนี่แหละครับ แต่วิธีนี้จะค่อนข้างช้าครับ 
-เมื่อชนะมันได้ให้เข้าประตูที่มันพังออกมา สำรวจสวิตซ์ข้างใน เราจะเปิดระบบการทำงานของลิฟต์ที่อยู่กลางห้องได้แล้ว ให้เราลงลิฟต์ Elevator to Ship Systems Level ไป เมื่อลงมาแล้วเข้าประตู To Ship System Room ให้เข้าไปเก็บไอเทมและเติมพลังงาน Stasis ที่ห้อง SS Storage ก่อนนะครับ จากนั้นวิ่งไปจนพบประตู Ship system ให้ระวังพื้นที่ที่มีแสงสีฟ้าพุ่งขึ้นมานะครับ เพราะโดนเข้าไปครั้งเดียวตายทั้งเราและเอเลี่ยน ให้เดินฝ่าพวกเอเลี่ยนเข้าไปตามทางเรื่อยๆ จนพบห้องที่มีสายไฟสะบัดไปมา ให้รอจนมันสะบัดมาทางซ้ายแล้วใช้ Stasis ชะลอมันแล้วรีบวิ่งไปกดสวิตซ์ที่อยู่ทางขวามือ 
-จากนั้นกลับมาที่สะพานเดินเรือ ก่อนหน้านั้นให้เตรียมตัวรับมือพวกเอเลี่ยนที่มารอต้อนรับเราด้วยนะครับ จากนั้นมาที่ลิฟต์ Elevator to Mining Admin and Comm Array Levels ให้ลงมาที่ชั้น 1 แล้วเข้าประตู To Mining admin Room จากนั้นเข้าประตู MA Hall Storage เพื่อเก็บไอเทม แล้วออกมาทางขวามือเข้าไปตามทางจนมาถึงห้อง Mining Admin Room 
-ที่ห้อง Mining Admin Room กำจัดเอเลี่ยนให้หมด แล้วเข้าไปเก็บไอเทมในห้อง MA Storage Room ที่อยู่ทางซ้าย และห้อง MA Storage Room C ที่อยู่ทางขวา จากนั้นเข้ามาข้างในสุดของห้อง สำรวจสวิตซ์ Re Route ADS Power จากนั้นกลับมาขึ้นลิฟต์อีกครั้งแล้วเลือกไปที่ชั้น 3 
- เมื่อเข้ามาจะพบชายคนหนึ่งวิ่งหนีหายไป ให้ตามเค้าเข้ามาข้างใน จัดการเอเลี่ยนแล้วสำรวจสวิตซ์ Re Route ADS Power จากนั้นเข้าประตู Ship Exterior Access ให้เข้ามาด้านในเก็บไอเทมให้หมดแล้วขึ้นลิฟต์ Ship Exterior Access Hammond จะติดต่อมาหาเราบอกว่าให้รีบไปที่ห้องควบคุมปืนใหญ่โดยเร็ว ให้หาที่เซฟเตรียมตัวให้พร้อม จากนั้นเข้าประตู Ship Exterior Access Airlock 
- เมื่อเข้ามาจะพบทางเดินที่อยู่นอกตัวยานที่สภาพเป็นสุญญากาศและไร้แรงโน้มถ่วง ซึ่งจะมีเศษอุกกาบาตตกลงมาเป็นระยะ วิธีผ่านคือให้มองขึ้นด้านบนอวกาศ ถ้าเราพบว่าเริ่มมีภาพเศษอุกกาบาตลอยขึ้นมา ให้รีบหาที่กำบังโดยเร็วก็จะปลอดภัยครับ ออ..แล้วอย่าลืมมองหาที่กำบังที่มีแท็งก์เติมอากาศด้วยนะครับ ให้ใช้วิธีนี้ผ่านไปจนถึงประตูที่อยู่ด้านในสุด 
-เมื่อเข้ามาแล้ว จะเก็บไอเทมก่อนหรือหลังก็ได้ ให้เซฟแล้วสำรวจตรงที่นั่ง Hammond จะขอให้เราใช้ปืนใหญ่ทำลายเศษอุกกาบาตเพื่อซื้อเวลาให้ได้นานที่สุด เพื่อที่เค้าจะหาทางแก้ระบบให้ปืนใหญ่ทำการยิงแบบอัตโนมัติ ตอนนี้เราต้องยิงปืนสกัดเศษอุกกาบาตให้ได้มากที่สุด แต่ไม่จำเป็นต้องยิงทุกก้อนนะครับ เน้นยิงลูกใหญ่กับลูกที่มีเคลื่อนที่เร็วๆก็พอ อย่ายิงมั่วนะครับ เพราะปืนจะต้องได้พักด้วย ไม่งั้นปืนจะโอเวอร์ฮีท 
-ให้ยิงจนกว่า Hammond จะแก้ระบบได้ เมื่อเสร็จแล้วให้เรากลับมาที่สะพานเดินเรืออีกครั้ง ระหว่างทาง Kendra จะติดต่อมาบอกว่า ระดับออกซิเจนภายในยานเริ่มลดต่ำลง และมีแนวโน้มที่จะเป็นพิษอีกด้วย คาดว่าจะมีอะไร(หรือตัวอะไร)บางอย่างเป็นตัวการก่อให้เกิดพิษในอากาศ ซึ่ง Kendra ได้ค้นข้อมูลในระบบจนพบยาพิษที่จะเอาไว้กำจัดมันได้ เธอจะให้เรากลับไปที่ศูนย์พยาบาลอีกครั้ง เพื่อไปทำยาพิษนี้ ให้เรากลับมาขึ้นรถไฟฟ้าก็จะจบฉาก 

Chapter 5 : Lethal Devotion 
-เริ่มต้นให้วิ่งมาประตู Security Station จะพบว่าประตูหลายบานถูกล็อคอยู่ Kendra จะบอกเราว่ามีคนแอคเซสเข้ามาควบคุมระบบล็อคประตู คิดว่าน่าจะมีคนอื่นนอกจากพวกเราอยู่บนยานลำนี้ด้วย ฟังเสร็จให้เข้าประตู Imaging Diagnostic Wing เมื่อเดินเข้ามาเรื่อยๆจะพบกับเอเลี่ยนรูปแบบใหม่ (Guardians) ซึ่งถ้าเราอยู่ห่างจากตัวมัน ก็จะไม่เป็นอันตรายมากนัก ท่าโจมตีมันคือยิงตัวอื่นออกมาซึ่งตัวอ่อนนี้จะยิงหนามใส่เรา วิธีกำจัดมันคือตัดสายรยางค์ที่อยู่รอบๆตัวมัน หรือว่าใช้การโจมตีทางกายภาพแรงๆ ซึ่งบริเวณนี้จะมีถังระเบิดอยู่ให้ใช้ Kinesis ยกมายิงใส่มันก็จะสามารถกำจัดมันได้ 
- จากนั้นให้ขึ้นลิฟต์มา จะพบว่าหลอดทดลองนั้นเสียการควบคุมทำให้เคลื่อนที่ไปมา ให้เราใช้ Stasis ชะลอมันแล้ววิ่งข้ามไป จากนั้นเดินผ่านประตู Zero-G Therapy Area จากนั้นเข้าประตูทางขวา Chemical Research Lab ลงลิฟต์ไปแล้วเข้าห้อง Chemical Research Labให้ทำการเก็บไอเทมให้หมดก่อน แล้วไปสำรวจที่โต๊ะคอมพิวเตอร์เพื่อเก็บ Chemical Capsule จากนั้นประตูจะถูกล็อค
-เราจะพบกับ ดร.Challus เค้าจะขอให้เราหยุดการกระทำของเราเสีย เพราะมันเป็นการขัดขวางการทำงานของเขา แล้วเค้าจะปล่อยเอเลี่ยนที่เค้าทำการสร้างขึ้นมา Hunter ซึ่งเป็นเอเลี่ยนที่สามารถฟื้นฟูตัวเองได้และเราไม่สามารถฆ่ามันได้เลย ให้พยายามหยุดการเคลื่อนที่ของมันด้วยการตัดขาของมันเสีย รอให้ Kendra การเปิดประตูให้เรา จากนั้นก็ให้รีบออกมาทันที 
-เมื่ออกมาแล้วให้เข้าประตู Diagnostics Room ที่อยู่ตรงข้าม แล้วหาทางกลับมาที่ห้อง Security Station จากนั้นเข้าประตู Ishimura Clinic เมื่อเข้ามาแล้วจะพบ ดร.Challus อีกครั้ง เมื่อเขาพูดจบให้เตรียมตัวให้พร้อมแล้วเข้าประตู Emergency Room เมื่อเข้ามาจะพบว่าประตูถูกล็อคอีกครั้ง แล้ว Hunter จะเข้ามาพร้อมกับลูกน้อง ให้เรากำจัดลูกน้องมันให้หมด แล้ว Kendra จะปลดล็อคประตูให้ ให้เข้าประตู ER Hallway A 
-ระหว่างให้เก็บไอเทมระหว่างทางให้หมด แล้วเข้ามาด้านในสุดจนจะพบจุดเซฟและพบห้อง Dr.Mercer ‘s Office ให้เซฟก่อน เมื่อเข้ามาแล้วสำรวจที่คอมพิวเตอร์เราจะได้ Chemical capsule W/DNA แล้ว Kendra จะให้เรากลับไปที่ ห้อง Chemical Research Lab อีกครั้ง (ห้องที่เราเก็บ Chemical Capsule และพบ Hunter ครั้งแรก) แต่ ดร. Challus จะแทรกแทรงสัญญาณเข้ามาแล้วปิดระบบอากาศ ให้เราฝ่าฝูงเอเลี่ยนรีบกลับไปที่ Security Station อีกครั้ง เมื่อเข้ามาถึงให้สำรวจสวิตซ์ O2 ในห้องที่มีกระจกกันก็จะทำให้ออกซิเจนกลับมาอีกครั้ง 
-จากนั้นให้ไปที่ห้อง Chemical Research Lab เพื่อผสมยาขั้นสุดท้าย เราจะได้ Poison Capsule มา 
Kendra จะติดต่อมาบอกให้เรารีบกลับไปขึ้นรถไฟฟ้าเพื่อนำยามากำจัดตัวที่สร้างอากาศพิษ แต่ ดร. Challus จะติดต่อเข้ามาอีกครั้ง เขาจะขอแสดงความนับถือกับความพยายามของเรา และเชิญเราไปดูผลงานของเขาในห้องลับ 
-ให้ออกประตูที่ไม่ได้ล็อคมา เก็บไอเทมให้หมด ทำการเซฟแล้วเตรียมตัวให้พร้อม เข้าห้อง Cryogenics Lab มา เราจะพบ ดร. Challus ยืนพูดอยู่ในห้องกระจก เค้าจะบอกว่าเอเลี่ยนเหล่านี้คือสิ่งที่จะกลายเป็นวิวัฒนาการขั้นสูงสุดของมนุษย์และเขาจะนำพวกมันกลับไปที่โลกด้วย 
จากนั้นเค้าจะปล่อย Hunter กับลูกน้องออกมา จะกำจัดลูกน้องของมันหรือไม่ก็ได้ แต่ให้เราพยายามล่อมันมาตรงกลางห้องซึ่งตรงนี้จะมีไอสีขาวของน้ำแข็งปกคลุม แล้วให้ยิงขาของมันทั้ง 2 ข้าง พร้อมกับ Stasis ชะลอมันไว้ จากนั้นให้รีบวิ่งเข้าไปในห้องกระจกที่ ดร. Challus เคยยืนคุยกับเรา ให้เรารีบกดสวิตซ์ที่อยู่ในห้องนี้ทันที ถ้าทันเวลา เราจะทำการแช่แข็งเจ้า Hunter นี้เสีย ซึ่งจะเป็นการจัดการมันขั้นเด็ดขาด คราวนี้มันไม่สามารถไล่ตามเราได้อีกแล้ว ให้เก็บไอเทมให้หมด แล้วเข้าประตู Tram Station ไป แล้วขึ้นรถไฟฟ้าก็จะจบฉาก 

Chapter 6 : Environmental Hazard 
-เริ่มต้นให้ไปตามทางเรื่อยๆ เก็บของในห้องน้ำแล้วลงลิฟต์ Elevator to Grow Deck เมื่อมาเข้าประตู To Growth Areas จะพบ Hammond ที่อาการไม่ค่อยดีนัก เค้าจะบอกว่าที่ห้องเก็บอาหารมีอะไรบางอย่างที่ใหญ่โตมาก และคาดว่ามันเป็นตัวสร้างก๊าซพิษในอากาศ ซึ่งผลจากก๊าซพิษนี้ทำให้ลูกเรือบางส่วนกลายพันธุ์กลายเป็นตัวแพร่อากาศพิษ เราจะต้องกำจัดพวกนี้ให้หมด 
-เมื่อคุยเสร็จให้เดินเข้ามาห้อง Atmosphere Control ให้ดูที่จอมอนิเตอร์ใหญ่เราจะพบว่าพื้นที่นี้จะแบ่งเป็น 2 โซน โดยทั้ง2 จะเต็มไปด้วยอากาศพิษ ให้เรามาทางซ้ายมือเข้าประตู West Grow Chamber เก็บไอเทมให้หมดแล้วขึ้นลิฟต์มา เมื่อเข้าในห้องจะพบเอเลี่ยนจำนวนมาก(ต้องเดินเข้าไปข้างในก่อนนะครับ) ให้กำจัดให้หมด จากนั้นเดินสำรวจบริเวณนี้ทั้งหมดเราจะพบตัวแพร่ก๊าซพิษ 2 ตัว กำจัด จากนั้นขึ้นลิฟต์ที่อยู่ในบริเวณนี้มาที่ชั้น 3 เพื่อเก็บไอเทม แล้วลงมาชั้น 2 เข้าห้อง Hydroponics Control (ก่อนเข้าห้องนี้ให้สังเกตทางซ้ายมือ จะมีเงินให้เก็บด้วยนะครับ) เมื่อเข้ามาแล้วจะพบตัวแพร่ก๊าซพิษอยู่ด้านในกำจัดเสีย แล้วออกไปเข้าประตู To Refrigeration 
-เมื่อเข้ามาจนพบทางเดินยาว เมื่อเข้ามาเราจะเจอเอเลี่ยนแบบใหม่ Exploder ซึ่งจุดอ่อนของมันอยู่ที่แขนที่มีต่อมสีเหลืองซึ่งสามารถระเบิดได้ ให้ยิงต่อมนี้เสียก็จัดการมันได้ง่ายขึ้น จากนั้นเดินเข้ามาจนพบพื้นที่ไร้แรงโน้มถ่วง ให้กระโดดเข้าไปพื้นที่ข้างในสุด ถ้าพบประตูเหล็กขวางก็ใช้ Kinesis เลื่อนให้เปิดออก -เมื่อพ้นพื้นที่ไร้แรงโน้มถ่วง ให้เข้าประตู Air Filtration Room เราจะพบห้องที่เปลวไฟวิ่งอยู่ด้านล่าง ให้ลงลิฟต์มาข้างล่าง จะพบเส้นทางที่มีประตูเหล็กขวางอยู่ให้เรายิงแผงไฟฟ้าสีแดง ประตูก็จะเปิดออก แต่ทางข้างหน้าก็มีเปลวไฟพุ่งผ่านอยู่เป็นระยะๆ ควรเคลียเส้นทางวิ่งก่อนยิงแผงไฟฟ้าที่อยู่ทางข้างหน้าให้หมดเท่าที่จะทำได้ จากนั้นกะจังหวะที่เปลวไฟมอดให้รีบวิ่งผ่านไป โดนพื้นที่ตรงกลางนี้จะไม่มีเปลวไฟ เราสามารถพักที่ตรงนี้ได้ เมื่อผ่านเข้ามาด้านในสุดจะพบตัวแพร่ก๊าซพิษอีก จัดการมันเสียแล้วขึ้นลิฟต์มา ให้เดินมาทางขวาเพื่อเก็บไอเทมภายในห้องก่อนจากนั้นค่อยวิ่งไปขึ้นลิฟต์ Exit to West Grow Chamber 
-เมื่อออกจากลิฟต์มาแล้วให้กลับมาที่ห้อง Atmosphere Control หากเราสามารถกำจัดได้หมดจะพบว่าพื้นที่โซนทางซ้ายจะเป็นสีเขียว ให้เรามาประตู East Grow Chamber กำจัดเอเลี่ยนแล้วเก็บไอเทมให้หมด 
-ขึ้นลิฟต์มาแล้วเข้าประตู East Grow Chamber จะพบเอเลี่ยนตัวใหญ่ให้กำจัดมัน แล้วสำรวจบริเวณนี้เพื่อกำจัดตัวปล่อยก๊าซพิษให้หมด โดยตัวหนึ่งจะอยู่ในห้องเล็ก ส่วนอีกตัวจะหลบอยู่ในช่องด้านหลังลิฟต์ ให้เรากดสวิตซ์เพื่อเปิดประตูกระจกก่อนแล้วค่อยจัดการมัน 
-จากนั้นขึ้นลิฟต์มาที่ชั้น 3 กำจัดตัวแพร่ก๊าซพิษแล้วลงไปที่ชั้น 2 เข้าประตู To Refrigeration East ไปเรื่อยจนเข้ามาถึงห้องที่มีสภาพไร้แรงโน้มถ่วง (ลองสังเกตตรงผนังขวามือด้วยนะครับ จะพบภาษาต่างดาวพร้อมคำแปลภาษาอังกฤษด้วย 
 
-เมื่อกระโดดขึ้นมาให้สังเกตด้านบนจะพบเครื่องกำเนิดไฟฟ้า ให้รอใช้ Stasis หยุดการทำงานของมันแล้ว กระโดดเข้ามาด้านใน -ภายในบริเวณนี้จะมีสวิตซ์ปิดระบบเครื่องกำเนิดไฟฟ้า ให้ปิดมันเสีย จากนั้นกระโดเข้ามาด้านในจะพบตัวแพร่ก๊าซพิษตัวสุดท้ายอยู่ที่มุมบนของห้อง กำจัดมันเสียแล้วกลับไปที่ห้อง Atmosphere Control 
-เมื่อมาถึงให้สำรวจสวิตซ์ที่จอมอนิเตอร์ ระบบจะทำการปรับอากาศให้ดีขึ้น และประตูห้อง Primary Food Storage ที่อยู่หลังจอมอนิเตอร์นี้จะปลดล็อคได้แล้ว ให้เตรียมตัวให้พร้อม เซฟแล้วเข้าประตูนี้มา เดินไปตามทางเรื่อยๆจนพบประตูที่มีรากไม้ขวางทางอยู่ ให้สำรวจที่สวิตซ์เพื่อใช้ยาพิษกับตัวที่อยู่ภายในห้องนี้ แต่ Kendra จะบอกว่าพิษนั้นอ่อนเกินกว่าที่จะทำลายมันได้ ให้เรารีบเข้าไปจัดการมันเสียก่อนที่จะรุกลามไปทั่วทั้งยาน ให้เราเข้าประตูมา เราจะพบกับเอเลี่ยนขนาดยักษ์ Leviathan 
 
ซึ่งวิธีปราบมันผมขอแบ่งเป็นข้อๆเลยนะครับ 
1. ช่วงแรก การโจมตีของ Leviathan จะเป็นการใช้แขน(หนวด) ซึ่งมีทั้ง 3 ข้าง(เส้น) โดยจะมันโจมตีที่ละข้าง ซึ่งถ้ามันจะใช้ข้างไหนโจมตี มันจะเก็บแขนของมันเข้าไปแล้วค่อยยื่นออกมา ซึ่งตรงนี้เราจะมองเห็นต่อมสีเหลืองซึ่งเป็นจุดอ่อนของมัน แต่ผมไม่แนะนำให้ยิงตอนนี้ เพราะแขนมันจะบัง(ความจริงหลบไปยิงทางด้านข้างออกข้างก็ได้นะ พึ่งนึกออก 5+ แต่ผมยังไม่ได้ลองนะครับ ) การโจมตีของมันคือจะกวาดแขนไปพื้นที่รอบๆที่เราอยู่ ให้กระโดดหลบไปด้านบน เมื่อหันกับมาเราจะมองเห็นจุดอ่อนมันชัดเจนมาก ให้ยิงตอนนี้แหละครับ โดยทำแบบนี้กับแขนทั้ง 3 ข้าง 
2.ช่วงที่สอง เมื่อทำลายแขนของมันหมดแล้ว มันจะเปิดแกนกลางออกมาซึ่งจะมีจุดอ่อนของมันอยู่ข้างใน ซึ่งช่วงที่มันเปิดแกนกลางนั้น มันจะยิงลูกระเบิดมาใส่เราด้วย มีวิธีจัดการดังนี้ครับ 
-ใช้ปืนแรงๆ ยิงรัวๆเข้าไปที่แกนกลางของมันเลย เพราะความเร็วของลูกปืนจะทำลายลูกระเบิดพร้อมกับโจมตีจุดอ่อนไปพร้อมกัน 
-หรือเทคนิคเหนือชั้นขึ้นมาหน่อย คือช่วงที่มันยิงลูกระเบิดมาใส่เรา ให้ใช้ Kinesis ดึงเข้ามาแล้วยิงส่วนเข้าไปที่แกนกลางของมันเลย ซึ่งวิธีนี้จะช่วยประหยัดกระสุนดีครับ ตอนผมเล่นผมใช้วิธีนี้ 
-วิธีนี้ไม่เคยลองนะครับ คิดว่าถ้าเอาถังระเบิดยิงใส่แกนกลางมัน น่าจะแรงพอที่จะทำให้แกนกลางมันปิดก่อนที่จะปล่อยลูกระเบิดได้ แต่คิดว่ายากครับ เพราะต้องมองถังระบิดตลอด 
3.ช่วงที่สามนี้ มันจะใช้รูปแบบวิธีโจมตีเหมือนกับทั้ง 2 ช่วง แต่จะไม่โจมตีพร้อมกัน ให้เราใช้ความพยายามเอาชนะมันให้ได้ จากนั้นให้ออกจากห้องแล้วกลับมาขึ้นรถไฟฟ้า ก็จะเป็นอันจบฉาก 

Chapter 7 : Into the Void 
เมื่อออกจากรถไฟฟ้ามา Kendra จะติดต่อมาบอกว่าเธอมีแผนที่จะช่วยพวกเราออกจากที่นี่ โดยการนำเครื่องส่งสัญญาณขอความช่วยเหลือไปติดตั้งกับก้อนอุกกาบาตที่ยาน Ishimura ได้ขุดขึ้นมา แล้วส่งเจ้าก้อนอุกกาบาตนี้ออกไปนอกบริเวณคลื่นรบกวน 
-เริ่มต้นให้เรามาทาง Mining Operation แล้วเข้าประตู RIG Room ให้ทำการเซฟแล้วจัดเตรียมไอเทมให้พร้อม จากนั้นลงลิฟต์ Elevator to Mining Area มา โดยให้เลือกชั้น Deck B : Processing ระหว่างที่ลงลิฟต์นั้นระวังการถูกจู่โจมจากพวกเอเลี่ยนด้วยนะครับ 
-เมื่อลงมาถึงก็ต้องเหนื่อยอีกหนเพราะบริเวณนี้ก็มีพวกเอเลี่ยนอยู่เช่นกัน ให้กำจัดให้หมดแล้วแล้วมาเข้าประตู Mineral Processing Area ให้เดินมาจนพบรูโหว่ที่ผนัง เมื่อเข้ามาเราจะพบห้องไร้แรงโน้มถ่วง เป้าหมายของเราคือกุญแจที่อยู่ในห้อง Mineral Processing Control แต่ว่ามันจะล็อค เพราะมีเศษอุกกาบาตอยู่ภายในห้องนี้ ให้เรากำจัดพวกเศษอุกกาบาตนี้ โดยให้ใช้ Kinesis ลากมันไปเผาที่ช่องลำแสงเพลิงที่อยู่ตรงกลางห้อง 
 
-เมื่อทำลายครบ ให้มาสำรวจสวิตซ์ที่อยู่ใกล้ๆกับจอมอนิเตอร์ขนาดใหญ่เพื่อเปิดระบบแรงโน้มถ่วง จากนั้นเตรียมรับมือกับเหล่าเอเลี่ยนจำนวนมาก 
*ถ้าหาดพก Power Node มาด้วย ผมแนะนำว่าให้เปิดห้องที่อยู่หลังสวิตซ์นี้แล้วรีบเข้าไปหลบด้านใน โดยในห้องนี้จะมีช่องระบายอากาศอยู่จุดเดียวที่บริเวณประตูทางเข้า ให้วิ่งเข้ามาเก็บกระสุนปืนที่อยู่ด้านใน แล้วตั้งป้อมรอโจมตีพวกเอเลี่ยนที่จะเข้ามาให้ห้องผ่านช่องระบายอากาศ ซึ่งผมว่าตรงนี้เราจะได้เปรียบค่อนข้างมาก 
- เมื่อกำจัดได้หมด (หรือไม่หมดก็ได้) ให้เรามาเข้าประตู Mineral Processing Control เก็บ Mining Access Key จากนั้นกลับมาที่ลิฟต์ใหญ่ แล้วไปชั้น Deck D : Maintenance 
-เมื่อมาถึงก็ให้เข้าประตู Equipment Maintenance Bay เราจะพบกระเช้าข้ามฟากที่นี้ ให้เซฟก่อนแล้วขึ้นกระเช้าไป ระหว่างทางจะมีเอเลี่ยนคอยโจมตีเราจากระยะไกลให้พยายามเอาตัวรอดให้ได้ เมื่อมาถึงปลายทางเราจะพบกับคนที่เราเฝ้าตามหามานาน Nicole ..... 
-ให้ตามเธอเข้าไปข้างใน เธอจะบอกว่าเครื่องส่งสัญญาณนั้นจะอยู่ในห้อง Maintenance Storage Room ซึ่งห้องจะล็อคอยู่ เธอจะทำการปลดล็อคให้ แต่ระหว่างที่เธอปลดล็อคประตูอยู่ พวกเอเลี่ยนจะเข้ามาทำร้ายเธอ ให้เรากำจัดมันให้หมดจนกว่า Nicole จะปลดล็อคประตูให้เรา 
- เมื่อเธอทำเสร็จก็จะเดินหายไป ให้เราเก็บไอเทมที่อยู่อีกฟากด้วย Kinesis แล้วเข้าประตู Maintenance Storage Room ไป เก็บ SOS Beacon จากนั้นให้กลับไปขึ้นกระเช้าแล้วข้ามฟากกลับไปที่ลิฟต์ใหญ่ เมื่อมาถึงจะพบว่า Deck C สามารถไปได้แล้ว ให้กดลิฟต์ไป Deck C : Mining เมื่อมาถึงให้เดินไปทางขวา จะพบว่าลิฟต์เล็กจะไม่มีพลังงานจากกล่องพลังงาน ให้เราไปเอากล่องพลังงานที่อยู่ห้องตรงข้ามกันมาใส่ แล้วลงลิฟต์ Elevator to Mining Bayไป เมื่อลงมาถึงให้เก็บไอเทมแล้วเติมพลังงาน Stasis ให้พร้อมแล้วเข้าประตูด้านซ้ายหรือขวาไหนก็ได้ เมื่อเข้ามาถึงเราจะพบห้องขุดเจาะอุกกาบาตขนาดใหญ่ 
เป้าหมายของเรา คือ 
1.ทำลายตัวยึดก้อนอุกกาบาตซึ่งจะมีทั้งหมด 4 ตัวด้วยกัน โดยแบ่งเป็นอยู่ภายในห้องนี้ 2 เครื่องทั้งด้านบนและด้านล่างของห้อง ส่วนอีก 2 เครื่องที่เหลือจะอยู่ภายนอกยาน โดยเราจะต้องยิงแกนกลางของเครื่อง ซึ่งจะมีแถบเหล็กที่หมุนอยู่ตลอดเวลาคอยปิดบังแกนกลางอยู่ ให้รอจังหวะดีๆหรือใช้ Stasis ชะลอความเร็วของการหมุนของแถบเหล็กก็ได้ 
 
2.เราต้องนำ SOS Beacon ไปติดตั้งที่ก้อนอุกกาบาตครับ ซึ่งการติดตั้งบนพื้นผิวภายของอุกกาบาตที่อยู่ในยานนั้นจะอันตรายมาก เพราะ จะมีแขนกลเคลื่อนที่ไปมาอยู่เสมอซึ่งถ้าเราโดนแขนกลนี้จะตายทันที ให้เราอาศัยช่องว่างเมื่อแขนกลเลื่อนไปทางอื่น ให้กระโดดขึ้นไปบนก้อนอุกกาบาตแล้วรีบวิ่งออกไปนอกยาน ซึ่งนอกยานนี้จะไม่มีแขนกลคอยรบกวน ให้เราติดตั้ง SOS Beacon ที่นี่ 
 
 
-เมื่อทำทั้ง 2 อย่างเสร็จ ให้กลับมาขึ้นลิฟต์เล็กอีกครั้ง เมื่อขึ้นมาแล้วจะพบว่าบริเวณนี้มีเปลวไฟอยู่เต็มไปหมด ให้นำกล่องพลังงานกลับไปใส่ที่ลิฟต์ที่อยู่ในห้องตรงข้าม แล้วขึ้นลิฟต์ Elevator to Asteroid Mining Control มา 
-เราจะพบห้อง Mining Control ให้มาสำรวจสวิตซ์ที่อยู่ใกล้กับกระจก เราจะทำการส่งก้อนอุกกาบาตออกไปนอกยาน จากนั้นหาทางกลับมาที่ลิฟต์ใหญ่ แล้วขึ้นลิฟต์ใหญ่มาข้างบนสุด แล้วกลับมาที่รถไฟฟ้า เมื่อมาขึ้นรถไฟฟ้าก็จะเป็นการจบด่านนี้ 


Chapter 8 : Search and Rescue 
เริ่มต้นมา Kendra จะบอกว่าเธอตรวจพบว่ามียานของกองทัพอยู่ไม่ห่างจากเรามากนัก แต่ว่าไม่สามารถติดต่อได้เพราะ ระดับสัญญาณไม่แรงพอ เธอต้องการให้เราซ่อมระบบส่งสัญญาณ เพื่อจะได้ติดต่อให้ยานของกองทัพมาช่วยเราได้ 
-เริ่มเกมมาให้วิ่งมาจนถึงประตู Main Atrium เมื่อมาถึงสะพานเดินเรือ จะพบเอเลี่ยนจำนวนหนึ่ง ให้เรากำจัดพวกมัน แล้วลงลิฟต์ Elevator to Mining Admin and Comm Array Levels เลือกไปที่ชั้น 3 
-เมื่อเข้ามาเรื่อยๆจะพบ เอเลี่ยน Guardian 2 ตัว กำจัดมันแล้วเข้าประตู To Comm Array เมื่อเข้ามาเราจะพบเอเลี่ยนแบบใหม่(ที่เคยเจอแล้ว 55+) Divider ซึ่งเป็นเอเลี่ยนที่เมื่อเรากำจัดมันได้ มันจะแตกตัวกลายเป็นเอเลี่ยนตัวเล็กๆอีกที ให้กำจัดมัน แล้ว เข้าไปตามทางเรื่อยๆ จนพบกระเช้าไฟฟ้า 
-ให้เราขึ้นกระเช้าไฟฟ้ามาที่ห้องควบคุมสัญญาณ เมื่อมาถึงให้เราเข้าไปข้างในห้องไร้แรงโน้มถ่วง ใช้ Kinesis นำเอาจานส่งสัญญาณมาเรียงให้อยู่ในลักษณะเป็นวงกลม (ไม่จำเป็นต้องเหมือนในภาพก็ได้นะครับ ขอแค่เป็นวงกลมอยู่ในแนวระนาบเดียวกัน) จากนั้นกลับเข้ามาในห้อง แล้วกดสวิตซ์ที่อยู่ใกล้กับกระจก ถ้าทำสำเร็จ เราจะได้รับข้อความจากยานของกองทัพ ว่าพวกเค้าได้ทำการเก็บกู้ยานช่วยชีวิตที่มาจากยานของเรา และกำลังมุ่งหน้ามาหาเรา Kendra คาดว่ายานช่วยชีวิตนั้นจะต้องมีเอเลี่ยนอยู่ข้างในแน่ๆ เธอจะส่งสัญญาณไปเตือนพวกทหาร แต่ไม่สามารถทำได้เพราะ มีตัวอะไรบางอย่างมาปิดกั้นเครื่องส่งสัญญาณ 
-ให้เราขึ้นกระเช้ากลับมา แล้วขึ้นลิฟต์ To ADS Cannon 48 เมื่อเข้ามาถึงห้องปืนใหญ่แล้วให้เซฟ จากนั้นเข้าไปนั่งตรงแท่นบังคับ เราจะพบเอเลี่ยนขนาดยักษ์อยู่ภายนอกยาน ให้เรายิงมันไปหลายๆนัด มันจะยื่นหนวดออกมาหยิบของมาขว้างใส่เรา ซึ่งตอนนี้เราจะเห็นต่อมสีเหลืองที่เป็นจุดอ่อนมัน ให้ยิงทำลายหนวดของมันให้หมด 
 
-เมื่อทำสำเร็จ Kendra จะส่งสัญญาณอีกครั้ง คราวนี้ได้ผล แต่ไม่ทันการเสียแล้ว พวกเอเลี่ยนได้ทำการโจมตียานของพวกทหารเป็นที่เรียบร้อย ส่งผลให้ยานเสียการควบคุมจนมาชนยานของเราอย่างแรง จน Issac สลบไป 
-เมื่อฟื้นขึ้นมาจะพบว่า Hammond ได้ติดต่อเข้ามา เขาบอกว่าเขารอดมาได้เพราะไปพบเครื่องประถมพยาบาลโดยบังเอิญ ซึ่งหลังจากที่เขารอดมาได้เขาพยายามติดต่อเราหลายครั้ง แต่ว่าสัญญาณของเค้าถูกใครบางคนบล็อกไว้ คาดว่าแรงกระแทกจากการชนจะทำให้การบล็อกสัญญาณหายไป เขาจะบอกเราว่าเค้าค้นพบยานที่ยังสามารถใช้การได้อยู่ แต่ว่ายานลำนี้ขาด Singularly Core ซึ่งคาดว่าที่ยานของกองทัพน่าจะมี ให้เราไปเจอเค้าที่ยานของกองทัพ โดยเขาจะล่วงหน้าไปก่อน ให้เราหาทางกลับมาที่สถานีรถไฟฟ้าอีกครั้ง เมื่อมาขึ้นรถไฟฟ้าได้ก็จะเป็นการจบฉาก 

Chapter 9 : Dead on Arrival 
เมื่อมาถึง Hammond จะติดต่อมาบอกเราว่า เขาได้เข้ามาภายในยานของกองทัพแล้ว และตรวจสอบข้อมูลของยานลำนี้พบว่า พวกเขาขนอาวุธมาเป็นจำนวนมาก คาดว่าการที่ยานของกองทัพมาอยู่แถวนี้คงไม่ใช่เรื่องบังเอิญอาจจะเป็นไปได้ว่ายานลำนี้ได้รับคำสั่งมาทำลายยาน Ishimura ก็เป็นได้ 
-เมื่อฟังจบให้เรามาตามเส้นทาง To Zero – G Ore Storage มาตามทางเรื่อยๆจนถึงประตูห้อง Zero – G Ore Storage เมื่อเข้ามาด้านในเราจะพบกับตัวยาน Valor ที่ยานของกองทัพ ให้สังเกตบริเวณนี้จะพบลูกบอลสีเขียวลอยอยู่ภายในห้อง Kendra จะบอกเราว่ามันเป็นอาวุธของทางกองทัพที่คาดว่าจะหลุดออกมาตอนที่ยานพุ่งเข้ามาชนยานของเรา ซึ่งเจ้าลูกบอลสีเขียวนี้ ทำให้ยานของกองทัพทำการเปิดระบบป้องกันตนเองด้วยการล็อคประตูทางเข้า ดังนั้นเราจะต้องเอาเจ้าลูกบอลสีเขียวนี้ออกไปจากพื้นที่นี้ 
- ให้เราลองมองลงมาข้างล่าง จะพบประตูเหล็กขนาดใหญ่ที่ปิดอยู่ ให้กระโดดลงมาทำลายตัวล็อคทั้ง 6 จุดที่อยู่รอบๆ ประตู เมื่อทำลายหมดประตูก็จะเปิดออก ให้เราใช้ Kinesis ดึงลกบอลสีเขียวมายิงออกไปนอกยาน เมื่อครบหมดแล้วประตูยาน Valor ก็จะสามารถเปิดได้ ให้เรากระโดดเข้าประตูยาน Valor ไป 
- เมื่อเข้ามาแล้วเราจะพบว่ายานอยู่ในสภาพที่เสียหายหนักมาก และเมื่อเดินเข้ามาเรื่อยๆ เราจะพบกับเงาของอะไรบางอย่างวิ่งหนีเข้าไปในความมืด ให้ตามเข้าไปจนถึง Cargo Room ที่นี่เราจะพบลังสินค้าขวางทางอยู่ แล้ว Hammond จะติดต่อมาหาเรา บอกว่าเป็นเพราะทหารเหล่านี้ใส่ชุดสูทพิเศษของทางกองทัพที่ติดตั้งระบบ Stasis เข้าไป เมื่อร่างของพวกเขาเปลี่ยนไปเป็นเอเลี่ยนจึงเกิดการกลายพันธุ์ทำให้เคลื่อนที่ได้ไวมาก ให้เราระวังตัวด้วย ให้เราเตรียมตัวให้พร้อม จากนั้นใช้ Kinesis เลื่อนลังสินค้า เพื่อเปิดทางไปต่อ เมื่อผ่านมาได้ เราจะพบกับเอเลี่ยนรูปแบบใหม่ Twitcher ซึ่งเป็นเอเลี่ยนที่มีการเคลื่อนที่ได้เร็วมาก แต่แลกมาด้วยร่างกายที่เปราะบางยิ่งขึ้น ให้เรากำจัดพวกมันให้หมด แล้วออกประตู Torpedo Room มา 
-จากนั้นไปประตู To Elevator to Upper Deck จะพบจุดเซฟ ให้เซฟแล้ว มาเข้าประตูลิฟต์ Elevator to Upper Deck แต่ว่างระหว่างที่จะเปิดประตู กล่องพลังงานของลิฟต์ได้ระเบิดออก ทำให้ลิฟต์ไม่สามารถใช้การได้ และพวกเอเลี่ยนจะบุกเข้ามา ให้กำจัดให้หมด แล้วนำกล่องพลังงานที่อยู่ในละแวกนี้มาใส่แทน จากนั้นก็ขึ้นลิฟต์มา 
-ระหว่างที่ขึ้นลิฟต์ จะมีคนติดต่อมาหาเรา เขาจะบอกว่าเค้าชื่อ ดร.Kyne และเขาต้องการความช่วยเหลือจากเรา เมื่อลิฟต์มาถึงให้เข้าประตู To Armory ให้กำจัดเอเลี่ยนให้หมด ในห้องนี้จะมีที่ซ้อมยิงปืนด้วยนะครับ ถ้าทำคะแนนได้เต็มก็จะได้ของตอบแทน ถ้าเล่นจนพอใจแล้วก็ให้ออกประตู To Infirmary เมื่อออกประตู To Infirmary และเติม Stasis ให้เต็มจากนั้นเข้าประตู Infirmary มา เราจะพบว่าเครื่องฉายเลเซอร์จะรวนจนควบคุมไม่ได้ ให้เราสังเกตการเคลื่อนไหวของมัน แล้วใช้ Stasis ชะลอมัน จากนั้นก็วิ่งผ่านมาเข้าประตู To Barracks กำจัดเอเลี่ยนให้หมด 
-เมื่อมาถึงหน้าห้อง Barracks ให้เราทำการเซฟและเตรียมตัวให้พร้อม เมื่อเข้ามาด้านในเราจะพบกับเอเลี่ยนจำนวนมากแห่กันมาต้อนรับเรา กำจัดให้หมด แล้วออกประตู Exit มา จากนั้นมาตามทางเรื่อยๆ จนถึงประตู To Engine Room จากนั้นประตู Access to Lower Engine Room จากนั้นขึ้นลิฟต์เล็กมา เราจะมาอยู่ที่ห้องเครื่องยนต์ที่มีเปลวเพลิงเป็นระยะๆ 
- เป้าหมายของเราคือต้องทำลายแผงสวิตซ์สีแดงทั้งหมด 6 ตัว ซึ่งจะติดอยู่กับเสา ที่อยู่บริเวณกลางห้อง เสาละ 1 ตัว อยู่ทั้งด้านซ้ายและขวา ให้เราใช้ Kinesis ดึงท่อขนาดใหญ่ มาใช้เป็นโล่กันไฟ โดยให้ดันท่อนี้ไปพลาง ทำลายแผงสวิตซ์ไฟไปพลาง เมื่อทำลายครบหมด ให้เดินไปด้านในสุดของห้อง เราจะพบ Singularity Core ที่นี่ ให้เก็บมาแล้วจะพบว่ายานได้รับความเสียหายมากจนกำลังใกล้ที่จะระเบิด ให้เราเข้าประตู Access to Lower Engine Room เก็บไอเทมแล้วเตรียมตัวให้พร้อม 
- เมื่อเราวิ่งมาเรื่อยๆ เราจะพบ Hammond ที่อยู่อีกฟากของกระจก เค้าจะให้เรารีบหนีออกไป ไม่ต้องห่วงเค้า แต่แล้วจะมีเจ้าเอเลี่ยนตัวใหญ่ Brute จะเข้ามา Hammond ที่ไม่มีทางหนี จึงทำได้เพียงสู้ตายกับมัน สุดท้ายก็ถูกมันสังหาร และเหยื่อรายต่อไปของมันก็คือเรา ให้เรากำจัดมัน 
 
-จากนั้นวิ่งออกมาตามทางเรื่อยๆ จนถึงพบลิฟต์ Elevator to Lower Desk ที่ขาดกล่องพลังงาน ให้เราหยิบกล่องพลังงานมาใส่เสีย จากนั้นลงลิฟต์ไป เราจะมาถึงบริเวณเกือบถึงทางออกพอดี ให้เรารีบออกนอกยานทันทีก็จะรอดมาได้ จากนั้นให้กลับมารถไฟฟ้า เมื่อเข้ารถไฟฟ้าไปก็จะจบฉาก 

Chapter 10 : End of Days 

เริ่มต้น Kendra ติดต่อมาหาเรา เธอจะบอกว่ามีคนมาแอบถอดระบบนำร่องของยานที่พวกเราจะใช้สำหรับหนีออกจากที่นี่ โดยเธอจะพบว่าระบบนำร่องนี้ถูกแบ่งไว้อยู่ 3 จุด ให้เราไปตามเก็บกลับมาให้หมด 
-เริ่มต้นให้เดินเข้ามาที่ห้อง Commons เราจะพบว่าที่นี่ศพอยู่เป็นจำนวนมาก คาดว่าพวกเขาอาจจะฆ่าตัวตายก็เป็นได้ จากนั้นให้ขึ้นลิฟต์เล็กมา จากนั้นเข้าประตู Residential Hall เราจะพบ ดร.Challus อีกครั้ง เค้าจะทำการสังหารผู้ที่ยังรอดชีวิตอยู่ เพื่อคิดว่าจะเป็นการนำพาพวกเขาไปสู่การวิวัฒนาการ จากนั้นเขาจะลงลิฟต์ไป 
-ให้เราเข้ามาที่ประตู Mess Hall แล้วลงลิฟต์เล็กมาด่านล่าง กำจัดเอเลี่ยนเสีย แล้วเดินไปที่มุมขวาบนของห้อง สำรวจในกล่องเราจะพบ Crew Key .ให้เก็บมา จากนั้นออกมานอกห้องนี้ระหว่างที่เดินออกมา ดร.Kyne จะติดต่อมาอีกครั้ง เขาจะขอให้เรารวบรวมระบบนำร่องของยานมาให้ครบ แล้วมาหาเค้าที่ห้องรักษาความปลอดภัย ถ้าทำได้ เค้าจะอธิบายเรื่องทุกอย่างที่เกิดขึ้นให้เราฟัง 
- เมื่ออกมาแล้วให้เข้าประตู Residential Lobby จากนั้นขึ้นลิฟต์เล็ก Sleep Block A (ใช้ Crew Key ปลดล็อค)เมื่อออกจากลิฟต์มาให้เข้าประตู Sleep Block A Common จากนั้นก็ประตู Sleep Block A Bunk เมื่อเข้ามาเราจะโดนหนวดเอเลี่ยนลากไปอีกครั้ง จัดการมันเสียแล้วเข้าประตู Storage Room ให้สับสวิตซ์ลงมาเพื่อปลดล็อคประตูบางส่วน จากนั้นกลับออกมา ไปที่เข้าประตู To Sleep Block B 
-เมื่อเข้ามาถึงในห้องเราจะพบว่าภายในห้องนี้จะเป็นสุญญากาศ ให้กำจัดเอเลี่ยนให้หมดแล้วไปที่ประตู Sleep Block B Bunks สำรวจให้ทั่วจะพบ Nav Card อยู่ที่นี่ เก็บแล้วรีบออกมาจากพื้นที่นี้ จากนั้นกลับมาที่ห้อง Common (ห้องเริ่มแรกของด่าน) 
-เมื่อมาถึงห้อง Commons แล้ว มาเข้าประตู Sleep Block C และประตู Zero – G Basketball Court ที่นี่จะมี Nav Card ให้เก็บอีก จากนั้นให้กลับออกมา 
*ที่ห้อง Zero – G Basketball Court นี้ เมื่อเราเก็บ Nav Card และกำขัดเอเลี่ยนหมดแล้วจะมีมินิเกมชู๊ตลูกบาสให้เล่นด้วย โดยถ้าทำแต้มได้ถึงกำหนดจะมีไอเทมให้เก็บ ซึ่งจะอยู่ในล็อคเกอร์ นอกห้องบาส 
- เมื่อออกมาจนถึงบริเวณทาง 3 แยก ให้เดินไปทางขวา มาขึ้นลิฟต์ Sleep Block C (ใช้ Crew Key ปลดล็อค) เมื่อมาถึงเราให้เข้าประตู Block C Common จะพบห้องที่ฉายการปราสัยของ ดร. Challus จากนั้นให้เข้าประตู Sleep Block C Bunks 
-เมื่อเข้ามาเราจะพบว่ามีเตียงนอนเรียงต่อกันจนปิดทางเราอยู่ ให้ใช้ Kinesis เลื่อนมันออกมา แล้วไปต่อไปข้างใน จะพบกับผู้ที่ยังรอดชีวิตอยู่ แต่ว่าเขาจะยิงตัวตาย ให้สำรวจเก็บไอเทมที่อยู่บริเวณนี้ และเตรียมตัวให้พร้อมจากนั้นเดินไปเก็บ Nav Card อันสุดท้าย 
-เมื่อเก็บ Nav Card แล้ว ดร.Challus จะติดต่อมาหาเรา แล้วเค้าจะส่ง Hunter มาจัดการเราอีก ให้ขัดขามันแล้วรีบออกจากห้องนี้ให้เร็วที่สุด เมื่อกลับออกมาห้องที่มีจอภาพอีกครั้ง เราจะพบว่าห้องถูกล็อคและพวกเอเลี่ยนจะเข้ามาเต็มไปหมด ให้เราถ่วงเวลาไว้จนกว่า Kendra จะเปิดประตูให้เรา จากนั้นให้ออกจากห้องนี้ ขึ้นลิฟต์ Return to Main Commons เพื่อกลับมาที่ห้อง Commons จากนั้นขึ้นลิฟต์เล็กมาแล้วเข้าประตู Executive Security Hall ต่อด้วย Executive Security Room 
-เมื่อเข้ามาถึง เราจะพบ ดร.Kyne ที่นี่ เขาจะขอให้เราช่วยเขา ด้วยการนำ Marker กลับไปคืนที่เดิมที่มันจากมา แล้วเขาจะเปิดประตู Elevator to Executive Block 
-ให้เราลงลิฟต์มาแล้วเข้าห้อง Executive Sleep Block กำจัดพวกเอเลี่ยนให้หมดแล้วเข้าประตู Executive Shuttle Hall ตามด้วย Executive Shuttle Bay เราจะพบยานอวกาศที่ยังใช้การได้อยู่ ให้เราเข้าไปข้างในยานลำนี้แล้วนำ Nav Card ทั้งหมดใส่เข้าไปในช่องที่อยู่ทางซ้ายมือจากนั้นให้เดินไปที่ห้อง Control Room เตรียมตัวให้พร้อม แล้วสำรวจสวิตซ์ทางซ้ายมือ เพื่อทดสอบการเดินเครื่องของยาน ถ้ามีไฟออกมาแปลว่าสำเร็จ 
-เมื่อกดสวิตซ์ทดสอบเดินเครื่องของยานแล้ว เจ้า Hunter พร้อมลูกน้องจะบุกเข้ามาที่นี่ ให้เรารีบออกมาจากห้อง Control Room ให้พยายามล่อเจ้า Hunter มาที่บริเวณไอพ่นท้ายยาน จากนั้นให้ตัดขาของมัน พร้อม Stasis ใส่มันเสียเพื่อหยุดการเคลื่อนที่ของมัน แล้วรีบกลับมาที่ห้อง Control Room แล้วรีบกดสวิตซ์เดินเครื่องยนต์ของยานทันที ถ้าทำสำเร็จ Hunter จะถูกไอพ่นของยานเผาจนเป็นจุล ซึ่งนี่คงเป็นครั้งสุดท้ายที่เราจะพบกับมัน 
-เมื่อกำจัด Hunter ได้ ดร. Kyne จะวิ่งมาที่ยาน เขาจะให้เรากดสวิตซ์เพื่อเปิดทางให้นำยานออก ให้เราสำรวจสวิตซ์ทางขวาในห้อง Control Room ดร. Kyne จะเข้าไปในยาน แล้วเขาจะบอกเราว่าเขาจะไปรอที่ท่าจอดยาน ให้เรารีบไปนำ Marker ที่อยู่ในคลังสินค้าออกมา เมื่อฟังเสร็จให้เรากลับออกมาที่ห้อง Commons ห้องเริ่มต้น มาขึ้นรถฟ้าก็จะเป็นอันจบฉากนี้ครับ 


Chapter 11 : Alternate Solution 

เริ่มต้น ดร. Kyne จะบอกให้เราไปนำ Marker ออกมาจากคลังเก็บสินค้า ซึ่งเขาจะนำยานไปจอดรอที่ท่าจอดยาน 
-ให้เราเข้าประตู Tram Station Hall ให้เซฟแล้วเตรียมตัวให้พร้อม จากนั้นเข้าประตู Cargo Room เราจะพบว่าเรามาอยู่ที่ห้องเก็บสินค้าขนาดใหญ่ 
-ให้ลงลิฟต์เล็กไป กำจัดพวกเอเลี่ยนให้หมด จากนั้นเดินมาทางซ้ายมือจะพบสวิตซ์เรียกสินค้า ให้เรากดสวิตซ์เสีย แล้วเครื่องจะทำการนำ Marker ขึ้นมา ช่วงนี้เป้าหมายของเราคือใช้ Kinesis ลาก Marker ไปยังปลายสุดของทางที่อยู่ตรงหน้าเรา ซึ่งจะมีพวกเอเลี่ยนเข้ามาโจมตีเราเป็นจำนวนมาก และมาหลายรอบ พร้อมทั้งมีหนวดเอเลี่ยนมาโจมตีตามทางด้วย ให้เราจัดการพวกมันให้หมด 
-เมื่อทำสำเร็จแล้ว ให้ออกจากห้องนี้ไป ไปที่ห้องที่เราออกมาจากรถไฟฟ้าตอนเริ่มด่าน แล้วลงลิฟต์ To Flight Lounge แล้วเข้าประตู Flight Lounge เราจะมาอยู่ห้องที่เราแยกทางกับพวก Hammond ในด่านแรก ให้เซฟแล้วไปที่ประตูทางออก จะพบว่าประตูถูกปิด แล้วเอเลี่ยนจะบุกเข้ามาโจมตีเรา ให้กำจัดพวกมันให้หมดแล้ว ออกประตู To Flight Hanger 
-เมื่อเดินเข้ามาเราจะพบว่า ยานของ ดร.Kyne กำลังเข้ามาจอดเทียบท่า (ตรงนี้จะมีไอเทมลับที่ชื่อว่า Peng วางอยู่ตรงช่องว่างระหว่างทางเดินยาวๆด้วยนะครับ ใช้ Kinesis เก็บมา ไม่รู้ว่าเอาไว้ทำอะไรเหมือนกัน แต่ขายได้ราคาดีทีเดียว) 
-ให้เรามาที่ประตู Runway 2 ต่อด้วยประตู To Control Room วิ่งไปตามทาง ออกประตูมาเราจะมาอยู่ที่บริเวณสวิตซ์ควบคุมแรงโน้มถ่วง ให้เราทำการเปิดระบบเป็นสภาพไร้แรงโน้มถ่วง จากนั้นกระโดดลงมาด้านล่าง (ตอนที่ห้องนี้เป็นสภาพไร้แรงโน้มถ่วง เราสามารถกระโดดมาทางซ้ายสุดของห้อง เพื่อเก็บไอเทมได้นะครับ) 
-เมื่อลงมาแล้วให้วิ่งไปเรื่อยๆ จะพบช่องที่มี Marker วางอยู่ ให้เราใช้ Kinesis ลากมันมาที่บริเวณข้างใต้(ห้องบังคับ)ยานอวกาศ ซึ่งตรงนี้จะมีพวกเอเลี่ยนมาขวางด้วย กำจัดให้หมด 
-เมื่อทำสำเร็จ ดร. Kyne จะให้เราทำให้ห้องนี้กลับมามีแรงโน้มถ่วงอีกครั้ง ให้เรากระโดดกลับขึ้นมาสำรวจสวิตซ์ควบคุมแรงโน้มถ่วง จากนั้นให้วิ่งมาขึ้นยาน เมื่อมาถึงเราจะพบว่า ดร.Kyne ถูกใครบางสังหาร และยานที่บรรทุก Marker ก็จะบินออกไปนอกยาน Ishimura นี่มันเป็นฝีมือของใครกัน? 
-ความจริงทั้งหมดถูกเปิดเผย Kendra จะติดต่อมาว่า เธอเป็นคนหลอกใช้เรามาตลอด ซึ่งเป้าหมายของเธอ คือ Marker และเธอจะนำมันกลับไปที่โลก โดยเธอจะทิ้งเราไว้ที่นี่ ดูเหมือนว่าเราจะหมดหวังเสียแล้ว แต่ Nicole จะติดต่อมาหาเรา เธอจะให้เรามาหาเธอที่ห้องควบคุม 
-ให้เราวิ่งมาที่ประตู To Control Room แล้วเข้าประตู To Control Room อีกบานที่อยู่ใกล้สวิตซ์ควบคุมแรงโน้มถ่วง มาตามทางเรื่อยๆจนมาถึงห้อง Control Room B ที่นี่เราจะพบ Nicole อีกครั้ง รอจนเธอพูดจบและมีแผงสวิตซ์สีฟ้ามาขึ้นมาจากจอคอมพิวเตอร์ที่อยู่บริเวณทางซ้ายมือของเธอ ให้เราสำรวจสวิตซ์นี้ 
-เมื่อทำสำเร็จยาน Ishimura จะทำการดึงยานที่บรรทุก Marker กลับมาอีกครั้ง เมื่อยานลงจอดแล้วให้เรา กลับมาขึ้นยานนี้ โดยเมื่อเราเข้าไปที่ห้องนักบินก็จะเป็นการจบฉากนี้ครับ 

Final Chapter 
Chapter 12 : Dead Space 

เริ่มต้นฉาก เมื่อเราลงจากยาน Nicole จะบอกให้เราไปนำรถลากมาขน Marker ให้เราใช้ Kinesis นำรถลากมาที่บริเวณด้านหน้ายานที่เรานั่งมา จากนั้นกดสวิตซ์ใกล้ๆเพื่อนำ Marker ลงมาวางบนรถลาก จากนั้นให้ลากกลับไปทางเดิม 
-เมื่อมาจนสุดทาง เราจะไม่สามารถลากไปต่อได้ เพราะ บริเวณนี้ขาดกล่องพลังงาน ให้เราเข้าประตู Control Room Barracks ให้เข้าห้อง Gravity Tether Computer Room ที่อยู่ทางขวามือ ใช้ Kinesis หยิบกล่องพลังงานมาใส่ช่องสวิตซ์เสีย 
- ตอนนี้ประตู 2 บาน ที่อยู่ด้านหน้า Marker ที่ล็อคอยู่จะเปิดออกแล้ว ให้เซฟเกมและเตรียมตัวให้พร้อม แล้วให้ลาก Marker มาตามทางเรื่อยๆ เมื่อเราผ่านประตู Gravity Tether Operation A เราจะไม่สามารถกลับออกไปไม่ได้แล้ว ให้ลากมาถึงห้องที่มีสะพานขวางเส้นทางอยู่ จะมีเอเลี่ยนจำนวนมากแห่ออกมาต้อนรับเรา ซึ่งบริเวณนี้จะมีแท่นเติม Stasis อยู่หลายแห่งใช้ให้เป็นประโยชน์นะครับ 
- เมื่อกำจัดพวกเอเลี่ยนหมดแล้ว มากดสวิตซ์ที่อยู่ใกล้ๆ สะพาน เพื่อยกสะพานขึ้น จากนั้นก็ลาก Marker ผ่านสะพานมา (ใช้ Stasis ชะลอให้สะพานเลื่อนลงมาช้าๆได้นะครับ) ลากมาถึงผ่านประตู Gravity Tether Core จะมีสะพานขวางอีก แต่คราวนี้เราไม่สามารถเปิดได้ ให้เราไปประตูที่มีเอเลี่ยน Guardian 2 ขวางอยู่ กำจัดมันเสียแล้วเข้าประตูไป 
-เมื่อเราเข้ามาแล้ว เราจะมาอยู่ในสถานที่ที่เหมือนกับช่องระบายอากาศขนาดใหญ่ ให้เดินเข้าไปข้างในสุด จะพบแท่นสวิตซ์พลังงาน ให้สับสวิตซ์แล้วกระโดดกลับขึ้นมา โดยระหว่างทางจะพบว่ามีพัดลมหมุนปิดทางเราอยู่ ให้ใช้ Kinesis ชะลอมันแล้ววิ่งผ่านไป 
-เมื่ออกมาได้จะพบเอเลี่ยน Brute ให้กำจัดมันแล้ว ให้เตรียมตัวให้พร้อม เซฟเกม แล้วมาเปิดสะพาน เพื่อลาก Marker ไปต่อ ให้ลากมาเรื่อยๆ จนสามารถออกมาจากภายในอาคารได้ เราจะพบว่าเรามาอยู่บริเวณหน้าหลุมขนาดใหญ่ ซึ่งตอนนี้พวกเอเลี่ยนจะแห่กันมาจัดการเราอีก พร้อมทั้งหนวดเอเลี่ยนด้วย ให้กำจัดพวกมันให้หมด จากนั้นลาก Marker ไปจนสุดทาง สำรวจสวิตซ์เพื่อนำ Marker ไปตั้งไว้ที่หน้าหลุม 
- เมื่อสามารถนำ Marker ไปคืนที่เดิมได้สำเร็จ ให้เดินเข้าไปห้องกระจก Return to Landing Pad ที่อยู่ทางขวามือ เพื่อเตรียมที่จะหนีออกไปจากที่นี่ แต่เรื่องมันคงไม่จบง่ายเช่นนั้น 
- Kendra จะปรากฏตัวอีกครั้ง เธอจะบอกความจริงเกี่ยวกับเรื่องของ Nicole ให้เราฟัง และเธอจะนำ Marker กลับไปที่ยานของเรา เพื่อนำมันกลับไป ด้วย ให้เราเดินเข้าประตูไป เก็บไอเทมตามทางให้หมดแล้วออกมาประตู Control Room Barracks ซึ่งจะเป็นห้องที่เราเข้ามาเอากล่องพลังงานในตอนแรก ให้เตรียมตัวให้พร้อมที่สุด เซฟเกม แล้วออกจากห้องนี้ไป เราจะพบกับหัวหน้าใหญ่ของพวกเอเลี่ยนทั้งหมด Big Boss Hive Mind 

วิธีปราบมันดังนี้ครับ 
1.ในช่วงแรกจุดอ่อนของ Hive Mind จะอยู่ที่ต่อมสีเหลือง ที่มีทั้งหมด 5 จุด โดยการโจมตีตอนแรกของมันไม่ค่อยมีอะไรมาก มันจะฟาดหนวดของมันลงมาที่ตัวเรา โดยสลับซ้ายขวา ซึ่งแต่ละครั้งกินระยะเวลาพอสมควร ดังนั้นควรยิงสักพักแล้วรีบวิ่งออกห่างจากจุดเดิม ก็จะรอดพ้นจากการโจมตีของมันแล้วครับ 

2.ช่วงที่สอง เมื่อเราทำลายต่อมสีเหลืองของมันได้ประมาณ 3 อัน มันจะใช้ท่าเผด็จศึกเรา คือเอาหนวดมายกตัวเราลอยขึ้นไป ซึ่งให้เรารีบยิง ต่อมสีเหลืองที่เหลืออยู่ให้หมดโดยเร็ว ถ้าไม่ทันเวลาเราจะถูกมันฆ่าตายอย่างสยดสยอง 

3.ช่วงสุดท้ายจุดอ่อนของ Hive Mind จะอยู่ตรงช่องท้องของมัน ซึ่งจะผนังคอยเปิดปิดเป็นช่วงๆ การโจมตีของมันจะเหมือนช่วงแรก แต่ว่ามันจะปล่อยเอเลี่ยนออกมาโจมตีเราด้วย ให้เราใช้ความสามารถทั้งหมดจัดการมันให้ได้ เมื่อมันตายแล้วให้เราวิ่งมาขึ้นยานของเรา เมื่อปราบมันได้ก็ให้วิ่งไปขึ้นยานก็จะจบเกม 

---------------------- THE END ------------------------------------------------ 

สิ่งที่ได้รับเมื่อจบเกม 

1.Military Suit ชุดระดับ 6 
2.Backstory Logs อันนี้ไม่แน่ใจครับ 
3.50000 Credits เงิน 50000 
4.10 Power Nodes 
5.Impossible Mode โหมดระดับความยากสูงสุด ศัตรูอึดขึ้นมาก จำนวนเพิ่มขึ้น โจมตีแรงขึ้น และเท่าที่ได้ยินมา ศัตรูบางตัวมีท่าโจมตครั้งเดียวตาย ไม่ว่าพลังชีวิตจะเต็มอยู่ก็ตาม 

ไม่มีความคิดเห็น:

  • MBT Icons and buttons

    Icons and Buttons

    Our resources have been successfully downloaded over 10K times and found almost every where. Get yours!

  • choosing webhost for a blog

    Why HostGator?

    Learn Why we chose HostGator as our Web Host and find discount coupons to kick start your blog today!

  • SEO Settings for blogger

    ALL IN ONE SEO PACK 2012

    Learn every single SEO tip that will boost your blog's ranking and organic traffic. We got them all!

  • Blogger widgets and plugins

    Visit MBT's Blogger LAB

    Why not take a tour of all great Blogger widgets published so far? You Name it we have it!

  • become a six figure blogger!

    Become a SIX FIGURE BLOGGER

    Learn what it takes to become a successful entrepreneur and build a living online!