Ryu ga Gotoku 5 [Yakuza 5]

                      บทสรุป - Ryu ga Gotoku 5: Yume Kanaeshi Mono      

                                     龍が如く5 夢、叶えし者

BY – Decibel per - oxide

ปี 2010  … [ 2 ปี หลังจากภาค 4 ] ได้เกิดความขัดแย้งอย่างหนักระหว่าง สมาคม เซกะ แห่ง อูเอโนะ กับ สมาคม โทโจ จนทำให้ สมาคม โทโจ ต้องปฏิวัติองค์กรด้วยการเข้าไปเจรจาเป็นพันธะมิตรกับ สหภาพ โอมิ องค์กรใหม่จากคันไซที่เติบโตและแข็งแกร่งขึ้นอย่างรวดเร็ว เพื่อความเป็นปึกแผ่นและสร้างเสริมกำลังให้เข้มแข็ง

 

แต่ต่อมา ..ในเดือน ธันวาคม ปี 2012 ประธานรุ่นที่ 7 แห่ง สหภาพ โอมิ ริวจิ โกดะ เกิดเสียชีวิตอย่างกระทันหัน ทำให้ความสัมพันธ์ที่ดีระหว่าง  สมาคม โทโจ และ สหภาพ โอมิ ก็ต้องสิ้นสุดลงไปด้วย และจากการขึ้นครองอำนาจของประธานรุ่นที่ 8 วาตาเสะ มาซารุ ชายที่แข็งแกร่งและบ้าอำนาจมากที่สุดในคันไซ กลับประกาศกร้าวที่จะทำลาบ สมาคม โทโจ ให้สิ้นซาก .. ทาง สมาคม โทโจ จึงจำเป็นต้องเร่งหากำลังเสริมด้วยการจับมือกับองค์กรต่างๆทั้งใน ออกไกโด , นาโงย่า และ ฟุกุโอกะ เพื่อยันอำนาจ 

                                Chapter 1      第一部・桐生一馬

                             

  บทที่ 1  第一章 漂泊の地
                               

ย่าน นางาสึ  , ฟุกุโอกะ

 

หลังจาก Daigo Dojima เข้าไปพุดคุยกับ Tadashi Madarame ผู้ก่อตั้งฝ่ายต่อต้านสหภาพโอมิ หัวหน้ากลุ่ม Yamakasa  ถึงปัญหาต่างๆที่เริ่มบานปลายจน เขาจึงคิดจะนั่งรถเล่นชมวิวคิดอะไรไปเรื่อยเปื่อยซักวันจึงเรียกแท็กซี่ที่จอดรออยู่ คนขับท่าทางประหลาดที่ใส่แว่นแล้วยังใช้ผ้าปิดปาก หลังจากพุดคุยบ่นเรื่องต่างๆผตามเรื่องทำให้ ไดโกะ รู้สึกคุ้นๆกับน้ำเสียงของคนขับขึ้นมาจึงเหลือบมองไปที่บัตรคนขับ Taiichi Suzuki ชื่อนี้ไม้คุ้นเอาเสียเลย หลังจากส่งถึงที่หมายถึงแม้รถแท็กซี่ขับออกไปแล้ว ไดโกะ ก็อดคิดไม่ได้ว่าเขารู้สึกคุ้นชินกับคนขับคนนี้เหลือเกิน

หลังจากคนขับแท็กซี่ส่งลูกค้าเสร็จก็จอดรถแวะกินอาหารที่ร้าน หลังจากถอดแว่นและผ้าปิดปากก็จะพบว่าเขาคือ Kazuma Kiryu  桐生 一馬ตำนานมังกรแห่งโดจิม่า ที่ต้องมาหลบซ่อนใช้ชื่อปลอมว่า Taiichi Suzuki ทำงานเป็นขับแท็กซี่ด้วยเหตุผลในจิตใจบางอย่าง เขาอดที่จะมองดูข่าวของไอดอลคนใหม่ ฮารูกะ ทางโทรทัศน์ เด็กสาวที่เหมือนน้องสาวที่ร่วมต่อสู้กันมาที่กำลังเดินตามเส้นทางของตัวเอง ด้วยความเป็นห่วง จนคิริวต้องเดินออกจากร้านเพราะทนฟังเม่าหัวงูขี้เหล้าพูดถึงเธอในทางที่ไม่ดีไม่ไหว จากนั้นคิริวจะขับเอารถแท็กซี่เป็นเก็บที่บริษัทแท็กซี่ 永洲タクシー Taxi Zhou Yongkang เข้าไปด้านในที่ทำงาน Youtarou Nakajima เจ้าของบริษัทแท็กซี่จะเข้ามาชื่นชมที่ Suzuki (ชื่อปลอมของ คิริว ) ทำงานอย่างขยันมาตลอด ใช้จุด Save แรกที่เครื่องตอกบัตร จากนั้นเมื่อออกมานอกตึกเรียนรู้การใช้งานเมนูหลักโดยการกด Start

เมนูหลัก

- マップ แผนที่ จะบอกถึงเนื้อเรื่องหลักที่ต้องทำเป็นจุดสีชมพู และ เควสย่อยเป็นรูป ?

-  アイテム ไอเทม

- 能力強化 / 確認  Ability / Skill

- 携帯 โทรศัพท์มือถือ ใช้รับข้อความและสั่งซื้อของได้

- 人物 Charecter Data ข้อมูลตัวละครต่างๆในเกม

-  アナザドラマ อนาเธอร์ดราม่า  ชีวิตประจำวันของแต่ละตัวละคร (สำหรับ คิริวจะเป็น แท็กซี่สเตตัส )

- サブ ストーリー Side Story  ข้อมูลเควสย่อยที่ได้ทำไปแล้ว

-   コンプリート Completion Lists  ข้อมูลต่างๆที่เก็บได้  รูปถ่าย ไอเทมที่เก็บตกต่างๆ

- 備忘録 Tips ต่างๆในการเล่น

 -  設定 Option 

ในแผนที่จะเห็นเนื้อเรื่องหลักที่ต้องทำเป็นจุดสีชมพูอยู่มากมายแต่จริงก้แค่ไปที่จุดไหนก็ได้เข้าไปซื้อของในร้านมา 1 อย่างอะไรก็ได้ แล้วเดินทางไปจุดเป้าหมายต่อไปในแผนที่เข้ามาที่อาคารเป้าหมาย เลือกคำสั่งล่าง แล้วเอาไอเทมที่ซื้อมาให้ไป จากนั้นกลับออกมา Nakajima เจ้าของบริษัทแท็กซี่จะจิดต่อมา ให้ไปที่ร้าน M – Store เข้าไปเรียนรู้การใช้ตู้ ATM กดใส่จำนวนเงินเท่าไหร์ก็ได้เข้าไป พอออกจากร้านก็จะพบพวกจิ๊กโก๋ (ดวงซวย ) ที่เข้ามาหาเรื่องหมายจะไถ่เงินคิริว คิริวจึงต้องสั่งสอนกันหน่อย

เรียนรู้การต่อสู้เบื้องต้น

สี่เหลี่ยม – โจมตีด้วยหมัด

สามเหลี่ยม –โจมตีด้วยเท้า / ใช้ท่า Heat

O – จับ ทุ่ม หยิบสิ่งของ

X -  แดช

L1 –การ์ด

L 2 –ตั้งหน้าจอตั้งตรง

R1 – ล็อกเป้าหมาย

R2 –ระบบพลังท่าไม้ตาย

** ภาคนี้จะมีการเติมโตด้วยระบบเลเวลที่ความสามารถและท่าต่างๆจะเพิ่มขึ้นมาเองในระดับเลเวลต่างๆโดยไม่ได้ไปซื้อมาใช้แบบภาคแรก และท่าต่างๆก็จะปลดล็อกแยกย่อยขึ้นอีกเมื่อเราใช้ท่านั้นจนเลเวลเพิ่มขึ้นแล้ว **

หลังจากอัดสั่งสอนมันเรียบร้อยแล้ว ก็เดินทางไปจุดหมายต่อไปในแผนที่หรือจะสำรวจเมืองเก็บเลเวลจากพวกจิ๊กโก๋ข้างถนน หรือจะไปทำเควสย่อยตามจุดเครื่องหมาย ? ในแผนที่ก็ได้ตามสะดวก เมื่อเข้าไปจุดเป้าหมายจะพบกับ คุณ Nakajima เจ้าของบริษัทแท็กซี่ที่มาชวนคิริวไปหาอะไรกินกัน เมื่อเข้าไปกินอาหารที่ร้านแรก เลือกสั่งได้ตามสะดวก (ฟรี เจ้านายเลี้ยง ) จากนั้นเมื่อออกมาจะพบพวกนักเลงกำลังรังแกผู้หญิง ทำให้คุณ Nakajima ทนไม่ไหวจนต้องเข้าไปช่วยแต่ก็โดนหมัดสวนกลับมาซะก่อน ก็ต้องเป็นหน้าที่ของคิริวที่ต้องไปจัดการกับพวกมันให้หมอบ ทำเอาคุณ Nakajima ต้องตะลึงในฝีไม้ร้ายมือของคิริวเป็นอย่างมาก และการวาดลวดลายของคิริวก็ทำให้เด็กหนุ่มผมทองคนนึงเฝ้ามองอยู่ห่างๆ หลังจากไปกินร้านที่ 2 กับ คุณ Nakajima จนเริ่มเมาได้ที่แล้ว คุณ Nakajima ก็เริ่มชวนไปที่ต่อที่ค็อกเทนเล๊าท์ต่อทันที

 

ที่ โอริวเอ้ คลับ คุณ Nakajima ไม่รีรอที่จะเรียกให้โฮสอันดับ 1 ของที่นี่ออกมายริการเขาทันที หลังจากโอสคนแรกออกมาต้อนรับได้ขี้เหร่สิ้นดีแต่ดูเหมือนคิริวจะไม่ค่อยชอบใจด้วยเหตุผลบางอย่างจนได้แต่นิ่งเงียบ จากนั้น มายูมิ โอสอันดับ 1 ของ โอริวเอ้ คลับ ก็ออกมาต้อนรับจน คุณ Nakajima เริ่มพอใจ แต่คิริวก็ยิ่งนิ่งเงียบเข้าไปใหญ่ จนแล้วจนรอดก็เกิดเรื่องขึ้นอีก เมื่อแขกโต๊ะข้างๆวางทางเป็นนักเลงทำร้ายบ๋อยและส่งเสียงดังโวยวาย จนที่สุด คุณ Nakajima ก็ต้องออกไปกร่างอีกครั้งจนดดนหมัดสวนกลับมาจนสลบไปอีก ทำให้คิริวก็ต้องเข้าไปจัดการพวกนักเลงจนหมอบไปด้วยฝีมือเขาอีกครั้ง แต่เมื่อ คุณ Nakajima ตื่นขึ้นมาคิริวก็เอาใขด้วยการบอกว่าที่พวกนักเลงสลบไปหมดเพราะฝีมือ คุณ Nakajima เองทำเอา คุณ Nakajima ยิ้นจนแก้มปริ หลังจากเอาใจหัวหน้าจบแล้วทั้งคู่ก็แยกย้ายกันกลับบ้าน ..

 

เดินไปที่จุดหมายที่ขึ้นมาในแผนที่ระหว่างทางคิริวจะพบกับเด็กหนุ่มผมทองที่แอบมองฝีมือของคิริวที่วิวาทไปเมื่อตอนหัวค่ำ เขาแนะนำตัวว่าขื่อ โคมากิ โซสุเกะ หลานของ โคมากิ โชท่าโร่ ครูฝึกของคิริวในภาคเก่า เขามาเพื่อสอนท่าในการต่อสู้ให้เพื่อหวังฝห้คิริวกลับมาเป็นนักสู้อีกครั้ง หลังจากการสอนจบลงก็จะได้ท่า Heat แบบระเบิดลังด้วยการกด R2 ทุกครั้งที่เกทวงกลมแดงเริ่มส่องแสง ซึ่งจะทำให้ความเร็วและรุนแรงในการโจมตีของคิริวเพิ่มมากขึ้น จากนั้นเดินทางต่อไปยังจุดเป้าหมายซึ่งก็คือ ซันโก้ อาพาร์ทเม็นท์ ที่พักของคิริวนั่นเอง หลังจากสำรวจที่เตียงแล้ว ขณะที่คิริวกำลังนั่งสูบบุหรี่คิดอะไรไปเรื่อยเปื่อย เสียงผู้หญิงคนนึงก็เดินเข้ามาในห้อง “ กลับมาแล้วค่ะ “ มายูมิ โฮสอันดับ 1 ของโอริวเอ้ คลับ กลับมาถึงห้องพัก คำตอบที่คิริวนั่งเงียบตลอดที่โอริวเอ้ คลับก็ถูกเฉลยออกมาตรงนี้ ….

                                    บทที่ 2 第二章 招かれざる客

หลังจากคริวตื่นขึ้นมาในตอนเช้าที่มีมายูมิกำลังทำอาหารเช้าให้ก่อนออกไปทำงาน ในขณะเปลี่ยนเสื้อผ้า มายูมิ ก็ยังไม่คุ้นชินกับรอยสักมังกรที่หลังของคิริวซะที ก่อนออกจากบ้านมายูมิแอบมองเห็นคิริวมองไปที่รูปของใครซกฃักคนที่ถูกคส่ำหน้าอยู่บนโต๊ะ เหมือนกับคิริวกำลังพยายามจะลืมใครคนนึงซึ่งเธอก็ไม่กล้าทที่เอ่ยถามออกมา จากนั้นเดินทางไปจุดหมายคือ บริษัทแท็กซี่ที่ด้านหน้าทางเข้าจะพบพวกแก็งค์ซิ่งที่เข้ามาป่วนที่นี่ซึ่งคิริวก็จัดการพวกมันจหนีไปตามเคย เมื่อเข้าไปด้านในบริษัทผุ้จัดการฝ่ายจะให้คิริวเข้าทำสอบการขับรถแท็กซี่ ซึ่งก็คือเรียนรู้ระบบการขับรถแท็กซี่อย่างถูกกฎหมายนั่นเอง

การขับขี่รถแท็กซี่ขั้นพื้นฐาน

R 2 – คันเร่ง

L2 –  เบรก

ปุ่มทิศทางซ้าย – ขวา – เปิดไฟเลี้ยวซ้าย ขวา 

** โดยการขับรถแท็กซี่ให้ผ่านเกณฑ์นั้นจำเป็นต้องขับขี่ตามกฎจราจรตามท้องถนนด้วย ทั้งการเปิดไฟเลี้ยวให้ถุกต้อง หยุดรถตรงทางม้าลายและรอสัญญาณไฟจราจรให้ถูกต้อง รวมทั้งการเฉี่ยวชนสิ่งต่างๆตามทาง เป้าหมายคือทำให้ผู้โดยสารนั้นถูกใจจนมีคะแนน + ขึ้นมาเรื่อยๆนั่นเอง แต่ถ้าขับไม่ดีผิดกฎจราจรจนทำให้ ผู้โดยสารนั้นไม่พอใจจนมีคะแนนติดลบไปเรื่อยๆก็จะส่งผู้ดดยสารไม่สำเร็จและจะไม่ผ่านการทดสอบด้วย **

เมื่อผ่านการทดสอบแล้วจะมีลูกค้าจริงๆมาขึ้นรถซึ่งระหว่างทางดันพบกับพวกแก็งค์ซิ่งที่เข้ามาก่อกวนเพื่อขอท้าแข่งจนคิริวต้องเร่งความเร็วตามไปสั่งสอนทั้งๆที่ผู้ดดยสารยังอยู่ในรถด้วยซ้ำ พยายามแข่งกับมันให้ชนให้ได้ ก็จะพบว่ามันเป็นคืดเจ้านักเลงที่เคยมีเรื่องด้วยที่หน้าบริษัทแท็กซี่นั่นเอง เมื่อมันหนีไปแล้วลูกค้าที่นั่งโดยสารมาจะเลี้ยงขอบคุณที่จัดการพวกกวนเมืองไปได้ จากนั้นกลับมาที่บริษัทแท็กซี่เพื่อรายงานเรื่องดังกล่าว ผู้จัดการก็จะเล่าถึงพวกแก็งค์ Devil Killer แห่งนางาสึ ที่ชอบเข้ามาก่อกวนการขับแท็กซี่จนเดือดร้อนกันไปทั่ว และคิริวเป้นคนขับแท็กซี่คนแรกที่โค่นพวกมันลงได้ คุณ Nakajima เลยบอกให้คิริวลุยกับพวกมันได้เต็มที่ได้เลย จากนี้เมื่อคุยกับป้าที่โตีะทำงานในบริษัทก็จะสามารถรับงานแท็กซี่รวมทั้งแข่งกับพวก แก็งค์ Devil Killer ได้แล้ว โดยจะประกอบไปด้วยคำสั่ง

- Mission – งานต่างของแท็กซี่ทั้งรับส่งคนปกติและแข่ง Race battle กับพวก  แก็งค์ Devil Killer ซึ่งทั้ง 2 Mission ก็จะให้ทั้งเงินและ Point มาเมื่อทำสำเร็จ 

- Costumes – การปรับแต่งรถแท็กซี่ โดยใช้ Point ที่ได้จากการทำภาระกิจต่างๆของแท็กซี่ ซึ่งสามารถปรับแต่งได้ทั้ง เครื่องยนต์ , ล้อ , สีรถ และสติ๊กเกอร์เพิ่มความเท่ได้มากมาย

เมื่อออกมาจากบริษัทแล้ว เข้าไปที่จุดเป้าหมายจะพบกับ ทัตซึยะ เซฟในรายการ TV ชื่อดังที่ชวนคิริวไปทานอาหรรเพื่อสอนการรัปทานอาหารในแต่ละท้องถิ่นให้มีประสิทธิภาพซึ่งการกินอาหารตามร้านต่างๆที่ถูกต้องจะทำให้ช่วยเพิ่มพลังกายและพลังโจมตีได้ด้วย หลังจากส่ง  ทัตซึยะ ที่ที่หมายเสร็จคิริวจะเอารถมาเก็บที่บริษัทก็จะพบกับ ยู โมรินากะ และ ไอซาว่า คนของกลุ่มโทโจ ที่รู้ตัวจริงของ Taiichi Suzuki ดีว่าคือ คาซุม่า คิริว มังกรในตำนานยากูซ่า เขาจึงมาขอความช่วยเหลือให้คิริวเข้าร่วมกับกลุ่ม โทโจ อีกครั้งเพื่อต้านอธิพลของพวกสหภาพ โอมิ แต่ดูเหมือนคิริวที่ดั่นด้นมาจนถึงที่นี่ย่อมไม่อยากเข้าไปในวังวนของยากูซ่าอีกแน่นอน เขาจึงปฏิเสธไป แต่ โมรินากะ ไม่ยอมจากไปแต่โดยดีเขาจึงขอท้าสู้กับคิริวแบบยากูซ่าเพื่อให้คิริวยอมทำตามถ้าพ่ายแพ้ Boss - โมรินากะ และ ไอซาว่า

ทั้ง 2 เป้นยากูซ่าระดับสูงไม่ใช่นักเลงกระจอกฉะนั้นพลังชีวิตจึงยาวเหยียดและมีความอึดที่มากกว่านักเลงธรรมดาอีกด้วย ผลการต่อสู้ออกมาที่คิริวเป็นฝ่ายชนะ ซึ่งคิริวก็ยืนยันเสียงแข็งไปตามเดิมว่าจะไม่ขอยุ่งกับเรื่องของยากูซ่าอีกแล้ว

จากนั้นไปที่จุดเป้าหมายเพื่อกลับห้องนอนพักผ่อนได้เลย วันนี้เงียบเหงาหน่อยน๊ะเพราะ มายูมิ ติดงาน ^^

                                       บทที่3 第三章 仕掛けられた絵図

…คิริวยังคงนึกถึงวันแรกที่เขากาวเดินออกมาจากสถานรับเลี้ยงเด็กที่โอกินาว่ากับฮารุกะ  หลังจากคิริวออกเดินทางมายัง ฟุกุโอกะ ด้วยปัญหาบางอย่าง ทำให้ฮารุกะเองก็อยากเดินตามทางความฝันของเธอเองบ้างนั่นก็คือการได้เป็น ไอดอล นั่นเองจน 1 ปี ผ่านไป ฮารุกะ ตัดสินใจออกจากโอกินาว่า เดินตามหาฝันมาสู่โอซาก้าเพียงลำพังเพื่อฝึกหัดที่จะเป็นนักร้องเช่นกัน นั่นเป้นความฝันที่เกิดขึ้นทุกคืนยามหลับและทุกครั้งก่อนออกจากบ้านไปทำงานคิริวก็ยังคงมองกรอบรูปที่คว่ำอยู่ทุกครั้ง ….

จากนั้นก็มุ่งหน้าไปที่จุดเป้าหมายที่บริษัทแท็กซี่ 永洲タクシー  ทำงานตามปกติ แต่วันนี้คิริวได้ลูกค้าที่เป็นพวกยากูซ่า 2 คนที่พูดถึงปัญหาของกลุ่มโทโจ จนคิริวอดไม่ได้ที่ต้องพูดคุยโต้ตอบกลับไป หลังจากส่งลูกค้าจนเลิกงานแล้ว คิริวจะพบ โมรินากะและ ไอซาว่า กำลังคุยกับใครคนนึงอยู่ จากนั้นจะเก็บเลเวลหรือทำเควสย่อยอะไรไปก็สุดแล้วแต่ ถ้าไม่ได้ทำอะไรแล้วก็กลับห้องพักได้เลย มายูมิรออยู่คิริวกับมายูมิจะทำอาหารเย็นกินกันอย่างมีความสุข ในขณะที่คิริวกำลังนั่งสูบบุหรี่อยู่อย่างวบายใจ เสียงเคสะประตูก็ดังขึ้น เมื่อไปดูจะพบ ไอซาว่า ที่พา โมรินากะ ที่บาดเจ็บสาหัสมาขอความช่วยเหลือ ในขณะที่มายูมิกำลังปฐมพยาบาลให้ คิริวก็ออกไปคุยกับไอซาว่าที่นอกห้อง ไอซาว่าจะบอกถึงข่าวร้ายว่าตอนนี้ ไดโกะ โดจิม่า ประธานของโทโจ เพื่อนเก่าของคิริวนั้นถูกจับตัวไปแล้ว ซึ่ง โมรินากะ เองก็เข้าไปช่วยจนบาดเจ็บสาหัสอย่างที่เห็น หลังจากที่ โมรินากะ เริ่มดีขึ้นทั้ง 3 คนก็จะคุยกันถึงเรื่องที่เกิดขึ้น ทั้ง โมรินากะและ ไอซาว่า ต่างก็ขอร้องคิริวให้ไปตามสืบหาไดโกะเพื่อเห็นแก่ความสัมพันธครั้งก่อน ซึ่งครั้งนี้ดูเหมือนคิริวจะปฏิเสธไม่ได้เสียแล้ว ในขณะที่คุยกันมายูมิก็พบกระดุมของกลุมโทดจในเสื้อของคิริวที่แขวนอยู่พอดีเหมือนกัน หลังจากทั้งคู่กลับออกไปแล้ว โมรินากะ จะขอร้องไม่ให้บอกเรื่องนี้กับมายูมิเด็กขาด ..

** เมื่อออกมาจากห้องจะพบเพื่อร่วมงานที่ขับแท็กซี่ปวดท้องอย่างหนักจนต้องฝากลูกค้าให้คิริวช่วยขับไปส่ง ซึ่งก็พบว่าเขาคือ Max ครูฝึกพิเศษอีกคนนั่นเอง โดย Max นั้นมีบทบาทในถาคเก่าๆมาตลอดซึ่งเขาจะส่งเมลระบุสถานที่มาให้แล้วเมื่อคิริวไปถ่ายรูปแปลกตรงนั้นมาได้ก็จะได้ท่าต่อสู้แบบแปลกมาใช้ด้วย **

** ที่จุดเครื่องหมาย ! เข้าไปจะพบกับเจ้าอ้วน โทริยาม่า โดนพวกนักเลงรังแกอยู่ เข้าไปคุยเลือกตอบข้อล่างเพื่อเข้าไปจัดการพวกนักเลงให้หมดแล้วโทริยาม่าจะพาไปที่รังลับของเขาที่เป็นร้านขายอาวุธเถื่อน แน่นอนถ้าจำกันได้เจ้าอ้วน โทริยาม่า ใส่เสื้อลายสก็อตพ่อค้าอาวุธเถื่อนในเมืองคนเดิมในภาคก่อนๆนั่นเอง ซึ่งในร้านของเขาจะมีอาวุธ เครื่องป้องกัน แปลกๆดีๆมากมาย แถมเขายังสามารถซ่อมแซมอาวุธได้ทุกชนิดอีกด้วย  จำร้านของเขาไว้ให้ดีด้วยน๊ะครับ **

 

จากนั้นมุ่งหน้าไปที่บริษัทแท็กซี่ 永洲タクシー  แล้วป้าเลขาจะบอกว่ามีตำรวจมาขอพบ จากนั้นไปที่พบที่จุดเป้าหมายในซอยจะพบชายคนนึงที่เขามาคุยเขาแนะนำตัวว่าชื่อ คาซูฮิโกะ เซริซาวะ เป็นตำรวจนักสืบจากโอซาก้าที่มาทำคดีเรื่องการหายตัวไปของ ไดโกะ เพราะกลัวจะเกิดสงครามแก็งค์บานปลาย และคนที่น่าจะรู้ข่าวดีที่สุดก็น่าจะเป็นคุณ …” คาซุม่า คิริว “ แน่นอนว่าคิริวไม่ญาติดีกับตำรวจมากนักแต่ด้วยความหนักแน่นของ เซริซาวะ คิริวจึงยอมบอกข้อมูลบางส่วนไป สุดท้าย เซริซาวะ จะบอกกับคิริวว่าเขาจะตามคิริวทุกฝีก้าว ก่อนที่เขาจะเดินจากไปเขาก็บอกเบาะแสเดียวที่มีอยู่คือชื่อ โอลิเวียร์ เพื่อให้คิริวลองไปตามสืบดูต่อ เมื่อคิริวลองคิดถึงชื่อโอลิเวียร์ ก็เลยจะลองไปหาข้อมูลที่ โอริวเอ้ คลับดู แต่เมื่อเข้ามาก็จะพบกับ คนของกลุ่มสหภาพ โอมิ อยู่คิริวจึงเข้าไปถามถึง ไดโกะทันที แต่แน่นอนว่าไม่ได้ง่ายอย่างนั้น หลังจากจัดการลูกน้องของมันจนหมดแล้ว คิริวก็จะเข้าไปพูดคุยกับ วาตาเสะ มาซารุ หัวหน้ากลุ่มสหภาพ โอมิ รุ่นที่ 8 ซึ่งกว่าที่มาซารุจะยอมเปิดปากบอกออกมาได้ก็กวนประสาทคิริวจนเกือบจะระเบิดไปอีกรอบ แต่สิ่งที่ มาซารุ นั้นน่าตกใจยิ่งกว่า มันบอกว่าคนที่วางแผนจับตัวไดโกะไปนั้นก็คือ อาโอยาม่า เลขาคนสนิทของไดโกะนั่นเอง โดยเป้าหมายจริงๆของมันก็คือทำลายความสัมพันธ์ระหว่างสมาคมโทโจ กับ กลุ่ม Yamakasa หนึ่งในฝ่ายต่อต้านสหภาพโอมิ  ทำให้คิริวตกใจเป็นอย่างมาก และถ้าที่เขาคิดไม่ผิด ทาเดชิ มาดาราเมะ หัวหน้าของ กลุ่ม Yamakasa ก็กำลังตกอยู่ในอันตรายแน่นอน

ไม่ว่าเพราะอะไรที่ วาตาเสะ มาซารุ  หัวหน้ากลุ่มสหภาพ โอมิ มันถึงยอมบอกความจริงออกมาง่ายๆก็ตาม คิริว ,ไอซาว่า และ โมรินากะ ก็จำต้องรีบเดินทางไปที่คฤหาสถ์ของ กลุ่ม Yamakasa ทันที แน่นอนพวกลูกน้องของแก็งค์นี้ยังไม่รู้เรื่องราวอะไรด้วยพวกมันจึงเข้ามาป้องกันอย่างเต็มที่ ทำให้คิริวต้องลุยขึ้นไปจนถึงชั้นบนในห้องด้านในจะพบ อาโอยาม่า ทำร้าย มาดาราเมะ จนบาดเจ็บและกำลังติดตั้งระเบิดเวลาเอาไว้หมายจะระเบิดที่นี่เพื่อป้ายความผิดว่าเป็นฝีมือของกลุ่มสมาคมโทโจ

เมื่อคิริว ,ไอซาว่า และ โมรินากะ เข้ามาถึง โมรินากะ จะแค้นใจมากที่อาโยาม่าทรยศแต่เขาก็เหนียวไกปืนยิงมันไม่ลงเพระาทำงานร่วมกันมาหลายปี แต่ อาโยาม่ากลับยิงใส่ โมรินากะ อย่างไม่รู้สึกอะไรจนเขาล้มลง คิริวจะบอกให้ ไอซาว่า พา โมรินากะ หนีออกไปก่อน จังหวะที่พวกลูกน้องของมาดาราเมะ กำลังจะบุกเข้ามาช่วยเจ้านายของมัน อาโยาม่า ก็แกล้งทำเป็นบาดเจ็บและป้ายความผิดให้กับคิริวว่าบุกเข้ามาหมายจะสังหาร มาดาราเมะ หัวหน้ากลุ่มของพวกมัน ทำให้ ยาฮาตะ หัวหน้ากลุ่มย่อยเข้ามาสู้กับคิริว  Boss ยาฮาตะ

 

คิริวก็ไม่มีทางเลือกเพราะไม่อยู่ในเวลาที่จะอธิบายได้จึงต้องสู้กับพวกมัน เมื่อจัดการได้แล้ว คิริวจะตาม อาโอยาม่าไปด้านหน้า และก็จะพบกับอาโยาม่าที่กำลังกำรีโมทจุดระเบิดในมือเตรียมจะระเบิดไม่ว่าคิริวพยายามจะโดดเข้าไปห้ามยังไงก็ไม่ทัน อาโอยาม่า กดระเบิดทำลายคฤหาสถ์ของกลุ่ม ยางาเสะ จนแหลกไม่เหลือก่อนที่มันจะนั่งรถหนีไปอย่างใจเย็น ทิ้งไว้แต่ความแค้นในใจของคิริวเท่านั้น ..

                                            บทที่ 4  第四章 男の行く先

เมื่อคิริวกลับถึงห้องพักเพื่อจะเล่าเรื่องราวทั้งหมดให้มายูมิฟัง แต่มายูมิก็กลับเข้าไปกอดคิริวด้วยร่างอันเปลือยเปล่าเพราะอยากให้คิริวอยู่กับเธอ ก่อนที่คิริวจะปฏิเสธด้วยการเอาเสื้อมาใส่ให้มายูมิ ในขณะที่คิริวกำลังจะเล่าความจริงต่างๆให้มายูมิฟัง แต่มายูมิก็พูดตัดหน้าขึ้นมาก่อนแล้วว่าเธอรู้ดีกว่า คาซูม่า คิริว เป็นใคร ทั้งคู่จึงเข้าไปเยี่ยมอาการของ มาดาราเมะ หัวหน้ากลุ่มYamakasa ซึ่งโชคยังดีที่อาการปลอดภัยดีแล้ว มาดาราเมะ จึงได้เล่าถึงการที่เขาได้พูดคุยกับ ไดโกะ เมื่อ 4 วันก่อน ถึงเรื่องความกังวลที่หลังจากสมาคม โทโจ และ สหภาพ โอมิ ตัดขาดความสัมพันธ์กันไป และการขึ้นครองอำนาจของประธานรุ่นที่ 8 วาตาเสะ มาซารุ ชายที่แข็งแกร่งและบ้าอำนาจมากที่สุดในคันไซ กลับประกาศกร้าวที่จะทำลาบ สมาคม โทโจ ให้สิ้นซาก .. ทาง สมาคม โทโจ จึงจำเป็นต้องเร่งหากำลังเสริมด้วยการจับมือกับองค์กรต่างๆทั้งใน ออกไกโด , นาโงย่า และ ฟุกุโอกะ เพื่อยันอำนาจกับมันจนเกิดเรื่องร้ายกับไดโกะอย่างที่เห็น …

หลังจากเล่าเรื่องราวทั้งหมดแล้ว มาดาราเมะ หัวหน้ากลุ่มYamakasa จะให้จดหมายมอบอำนาจทั้งหมดในแก็งค์ของเขาให้กับคิริวเพื่อเอาไปใช้จัดการกับ อาโอยาม่า คิริวเองไม่อยากจะรับเอาไว้ แต่ด้วยการต้องการกำลังพลจึงขัดไม่ได้แต่ก็บอกเอาไว้ว่า เมื่อเสร็จงานแล้วจะนำมาคืนให้แน่นอน ก่อนจะออกจากห้องคิริวได้แต่นิ่งเงียบที่ต้องลาจากมายูมิไปสู่อันตรายครั้งใหม่อีกครั้ง สิ่งเดียวที่ลูกผู้ชายชื่อคิริวไม่เคยทำตามสัญญาได้สำเร็จเลยซักครั้ง คิริวได้แค่มองตามายูมิก่อนจะออกจากห้องไป ทิ้งให้มายูมิต้องฟุบตัวร้องไห้ลงบนตักของ มาดาราเมะ พ่อของเธอด้วยความเสียใจ …

 

เมื่อออกมาที่ถนนในเมืองแล้วจะพบว่าไม่มีจุดเป้าหมายขึ้นมาเลย โดยสิ่งที่ต้องทำก็คือตามหาคนในแก็งค์ยางาเสะที่กระจัดการจายกันอยู่ เพื่อนำจดหมายมอบอำนาจไปให้ ยาฮาตะ หัวหน้าสาขาของพวกมัน จากนั้นก็เดินมองหากลุ่มยางาเสะซึ่งมันจะใส่ชุดวอร์มสีแดงยืนอยู่เป็นกลุ่มๆซึ่งต้องเข้าไปจัดการถามที่อยู่ของ ยาฮาตะ มา

- กลุ่มแรกอยู่ตรงถนนเส้นกลางด้านบนของเมือง

- กลุ่มที่สอง จะอยู่ที่ถนนฝั่งขวาแถวๆจุดเซฟ

- คนสุดท้ายจะอยู่ที่หัวมุมตึกทางขวาล่างของแผนที่

หลังจากจัดการทั้ง 3 จุดแล้วก็จะมีจุดเป้าหมายขึ้นมาซึ่งจะเป็นตึกที่หลบซ่อนของแก็งค์ยางาเสะนั่นเอง ลุยเข้าไปด้านในอาคารจนถึงห้องชั้นบนจะพบกับ ยาฮาตะ ที่บาดเจ็บหลบอยู่ที่นี่ เมื่อคิริวเอาจดหมายมอบอำนาจให้ดี แน่นอนว่า ยาฮาตะ มันไม่เชื่อแน่นอน คิริวจึงฉีกจดหมายทิ้งและเข้าไปสู้กับมันอย่างลูกผู้ชายตามวิถีแห่งยากูซ่า

ใครชนะก็จะได้สิ่งที่ตัวเองต้องการ หลังจากทั้งคู่ปะทะหมัดกันแล้วผมออกมา ยาฮาตะ ก็ต้องเจ็บซ้ำสอง แต่สุดท้าย ยาฮาตะ ก็ยอมตามที่คิริวบอกแล้วโทรไปหาอาโอยาม่าเพื่อใช้แผนตลบหลังมัน …

** ที่จุดเครื่องหมาย ! เข้าไปจะพบกับ เพรสรีย์ ฝรั่งที่เป็นครูฝึกพิเศษอีกคน ที่ต้องจัดการเขาจนชนะเพื่อทำสัญญา ซึ่งก็ตามหามันเอาเองในภายหลัง **

 

 

** ที่มุมตึกด้านซ้ายล่างของแผนที่จะพบกับ Dr.มินามิดะ ครูฝึกพิเศษอีกคนที่จะให้เล่นเกม IF8R (Inner fighter 8 Road Battle ) ซึ่งเป็นเกมเดินลุยด้านข้างที่เขาทำขึ้น เมื่อเล่นเกมจนผ่านสเตทแล้วคิริวก็จะได้ Skill Soul มาซึ่งทำให้เกทฮีทเพิ่มยาวขึ้นจากเดิมด้วย   **

จากนั้นมุ่งหน้าไปที่บริษัทแท็กซี่ 永洲タクシー คุยกับหัวหน้าที่โต๊ะเพื่อร่ำลาไปตัดสินธุระส่วนตัวที่คิริวอาจจะไม่กลับมาอีกเลย ซึ่งคุณ Nakajima เองก็ชื่นชมการทำงานของคิริวที่ขยันทำงานและปกป้องพวกฟ้องมาโดยตลอดเช่นกัน  ตัดมาที่เหตุการ์ณปะทะกันระหว่าง สหภาพโอมิ และ แก็งค์ ยามากาสะ โดยมี วาตาเสะ และ อาโอยาม่า นั่งสังเกตการ์ณอยู่ในรถทั้งคู่ ด้วยจำนวนคนของสหภาพโอมิที่มีมากมายและอาวุธครบมือจึงดูเหมือนจะเป็นต่อในศึกครั้งนี้ จนเมื่อคิริวขับรถแท็กซี่บุกทะลวงเข้ามาถึงที่นี่และนำทัพ แก็งค์ ยามากาสะ รบด้วยตัวเอง ในขณะที่พวกของโอมิใช้กำลังพลทั้งหมดแต่คิริวกับบอกว่าเขาจะจัดการพวกมันด้วยตัวคนเดียว ทำเอาตกใจกันไปทั้ง 2 ฝ่ายรวมทั้ง วาตาเสะ ที่มองเข้าไปถึงจิตใจลูกผู้ชายมากกว่าใครเพื่อนถึงแม้ว่าจะเป็นศัตรูกัรก็ตาม แต่อาโอยาม่าไม่คิดแบบนั้นมันส่งลูกน้องเข้าลุยเต็มรูปแบบหวังจะเก็ยคิริวให้ราบคาบจนทำให้โดนวาตาเสะอัดเข้าไปหนึ่งหมัดสำหรับความน่าตัวเมียของมัน กองทัพของสหภาพโอมิก็บุกเข้าไปหาคิริวมากมายจนนับไปไหวซึ่งศึกนี้จะเป็นของคิริวแค่คนเดียว คิริว VS. สหภาพโอมิ

 

ถึงแม้พวกศัตรูจะยกขโยงกันมามากมายพร้อมอาวุธครบมือแต่ทั้งหมดก็โดนคิริวกระทืบติดดินไปกันจนหมด ทำเอาทุกคนถึงกับอ้าปากค้าง อาโอยาม่าไม่รอช้าที่จะหาจังหวะนี้ แต่ วาตาเสะที่เริ่มจะไม่ชอบขี้หน้าก็อัดมันจนไปกองกับพื้นรอให้คิริวเดินย่างสามขุมมันอัดแบบไม่ยั้งอีกหนึ่งสุดให้สมกับความสารเลวของมัน ในขณะที่คิริวกำลังเข้นความลับของมันมาเกี่ยวกับที่ซ่อนตัวของ ไดโกะ ที่พวกมันจับตัวไป แต่ยังไม่ทันจะพูดกระสุนปริศนาก็ยิงเข้ามาที่หัวของมันจนอาโอยาม่าลงไปกองกับพื้น คิริวต้องตกใจเมื่อพบว่าคนยิงคือ โมรินากะ นั่นเอง หลังจากที่ฆ่าอาโอยาม่าลงไปแล้ว โมรินากะ จะบอกว่าเรื่องทั้งหมดมันได้วางแผนซ้อนแผนที่จะให้คิริวเข้ามาทำงานให้ และสามารถกำจัดแก็งค์ ยามากาสะ พันธมิตรไปอย่าง่ายดาย คิริวถามไปว่า ไดโกะ และ  ไอซาว่า รู้เรื่องที่มันทรยศหรือเปล่ว โมรินากะ ไม่เปิดปากบอกอะไรแถมยังขู่จะยิงคิริวทิ้งถ้าเข้ามาใกล้มัน แต่มีหรือคิริวจะกลัวเขาวิ่งเข้าไปหวังจะอัด  โมรินากะ ซักหมัด จนเมื่อกระสุนนัดแรกดังขึ้นกระสุนทะลุเข้าที่ขาของคิริวจนแทบยืนไได้ วาตาเสะ  จึงรีบเข้าไปห้ามคิริวเอาไว้ไม่อยากให้ตาบเปล่า จนโมรินากะหนีไปได้ ทิ้งความแครงใจเกี่ยวกับ ไดโกะ และ สมาคมโทโจกับคิริวเป็นอย่างมาก …

 

2 วันต่อมา … นักสืบ เซริซาวะ คุยกับคิริวในเมืองถึงเรื่องที่เกิดขึ้นว่าไดโกะเกี่ยวข้องในแผนการ์ณนี้หรือไม่ ซึ่งแม้แต่คิริวเองก็นิ่งเงียบไม่กล้าตอบอะไรออกมา ก่อนนักสืบ เซริซาวะ จะไปเขาบอกกับคิริวว่าฟังข่าวสารบ้านเมืองบ้างก็ดีน๊ะช่วงนี้ จนก่อนคิริวจะออกรถไปเขาก็เปิดวิทยุฟังข่าวที่รานงานถึงชายที่ชื่อ มาจิม่า โกโร่ ที่ก่อเรื่องขึ้นที่โอซาก้า ฟังเท่านี้คิริวก็ทุบพวงมาลัยด้วยเสียงอันดังลั่นด้วยความโมโห คิริวรู้มาตลอดว่าในยุคที่สมาคมโทโจกำลังอ่อนแอ นั่นกลุ่มที่ไม่น่าไว้ใจที่สุดก็คงจะเป็น กลุ่มมาจิม่า ของเจ้า มาจิม่า โกโร่ นั่นแหละด้วยความเป็น เจ้าหมาบ้ามาจิม่า ที่ชอบความรุนแรง อำนาจ และเอาแน่เอานอนไม่ได้นั้น คิริวเองก็บอกไม่ได้ว่ามันจะมีแผนอะไรของมันต่อ มีอย่างเดียวที่เขาจะทำได้ก็คือไปดูให้เห็นกับตา  จนไม่กี่วันต่อมาคิริวต้องเก็บข้าวของออกจากห้องเพื่อออกเดินทางไปในเส้นทางที่เขาพยายามปฎิเสธมาโดยตลอด ชุดเดิมของยากูซ่าถูกใส่ขึ้นอีกครั้ง ก่อนออกจากห้องคิริวหงายกรอบรูปที่คว่ำเอาไว้ รูปของ ฮารูกะ เหล่าด็กกำพร้าทุกคนที่เขาจากมา เขาเพียงแค่เป็นห่วง ฮารูกะ อย่างสุดใจจนไม่อาจทนดูรูปเธอได้เท่านั้นเอง คิริวออกเดินทางมุ่งสู่โอซาก้าเพื่อหยุด มาจิม่า เพื่อนเก่า   คิริวเดินเข้าสู่เส้นทางยากูซ่าอีกครั้งกับศึกที่เขาไม่ได้ก่อแต่เขากำลังจะเป็นผู้จบมันด้วยตัวเอง ….

                                             Chapter 2   第二部・冴島大河

                                         

                                            Taiga Saejima  冴島 大河

             

โตเกียว  เมือง คามูโร่โจ …...มาจิม่า โกโร่ หัวหน้ากลุ่มมาจิม่าในเครือของสมาคมโทโจ นั่งกินหมูย่างกับ ซาเอจิม่า ไทงะ ในขณะที่ไทงะกินอย่างเอร็ดอร่อย มาจิม่ากลับได้แต่นิ่งเงียบปล่อยให้ไทงะแย่งกินจนหมด จนมาจิม่าบอกว่าไม่ว่าอะไรจะเกิดขึ้นมันก็ต้องเกิดแต่เราทั้งคู่จะเป็นเพื่อนกันตลอดไป เมื่อกินอิ่มกันแล้ว มาจิม่า จะให้ไทงะตามไปที่สนามซ้อมตีเบสบอลหน่อย เมื่อออกมานอกร้อนไทงะก็พบพวกนักเลงมาหาเรื่องพอดี ก็ถือว่าเป็นการออกกำลังกายย่อยอาหารก็แล้วกัน การต่อสู้ของไทงะนั้นจะเป็น Style อัดหนัก หักกระดูก ทุมด้วยของหนักชนิดที่คนธรรมดายกไม่ขึ้น แต่ก็มีคนด้อยตรงที่ระยะการโจมตีของเขานั้นค่อยข้างที่จะสั้นกว่าคิริวเยอะ หลังจากที่ไทงะอัดพวกนักเลงโชคร้ายจนน่วมแล้ว ก็เดินทางไปที่จุดเป้าหมายคือ สนามซ้อมตีเบสบอล

เมื่อมาถึงสนามซ้อมเบสบอลก็จะพบมาจิม่าซ้อมตีเบสบอลรออยู่ สำหรับมาจิม่า เบสบอลเป็นกีฬาที่เขาหลงไหลแต่ฝีมือไม่เอาไหนเท่านั้นเอง ในขณะที่คุยกันลูกน้องของมาจิม่าจำนวนมากก็ออกมาล้อมไทงะเอาไว้ ทำให้เขางงอย่างมาก มาจิม่าบอกว่านี่เป็นการเลี้ยงจบการศึกษาและเพื่อหยุดยั้งในสิ่งที่ไทงะกำลังจะทำ ซึ่งมาจิม่ารู้ดีว่าถึงแม้การต่อสู้ครั้งนี้จะหยุดไทงะไม่ได้ แต่การวิวาทชกต่อยนั้นถือว่าเป็นของหวานจานโปรดของไทงะเลยก็ว่าได้ ฉะนั้นก็ถือซะว่านี่คือการเลี่ยงอำลาก็แล้วกัน หลังจากไทงะอัดลูกน้องมาจิม่าจนนอนกองกับพื้นกันหมด มาจิม่าก็เข้ามาตบไหล่ร่ำลาเพื่อนของเขาในสิ่งที่เขาตัดสินใจจะทำ เสียงไซเรนรถตำรวจดังใกล้เข้ามาแต่ไม่ได้มาเพื่อจับการทะเลาะวิวาทแต่กำลังมาจับตัว ซาเอจิม่า ไทงะยากูซ่าในตำนานผู้ต้องหาในคดีฆาตกรรม โยชิฮารุ อุเอโนะ และลูกน้องรวม 18 ศพเพราะศัตรูมาฆ่าคนที่เขานับถือเมื่อในอดีตที่รอมอบตัวชดใช้กรรมอยู่ที่นั่นเอง ….

บทที่ 1 第一章 最果ての地

หลายเดือนต่อมา …ที่เรือนจำแห่งหนึ่งในฮอกไกโด ไทงะ ต้องโทษในห้องคุมขังรวมกับ เฮฮาชิโร่ โอชิม่า , ฮิมูระ และ ชิเคกิ บาบะ ซึ่งบาบะนั้นเป็นนักโทษที่อายุน้อยสุดแต่ก็ติดคุกนานที่สุดเหมือนกันด้วยระยะเวลา 10 ปีในข้อหาฆาตกรรม  และบาบะเองก็นับถือในตัวของไทงะเป็นอย่างมาก นักโทษทุกคนออกมาที่ลานกว้างตามปกติ คุยกับนักโทษทุกคนทั่วๆจนเป้าหมายออกมาคือชายที่ยืนที่รั้ว ชายที่นั่งที่เก้าอี้ แล้วเข้าไปคุยกับบาบะ ซักพักจะมีนักโทษกลุ่มนึงมาจับตัวไทงะไปในอาคารด้านในจะพบกับ ฮิโรชิ คูกิฮาร่า ขาใหญ่ประจำคุก มันสั่งให้ลูกน้องซ้อมไทงะจนน่วมซึ่งไทงะเองไม่ได้คิดจะตอบโต้เพียงเพราะเขาอยากจะหยุดความรุนแรงในตัวเองและบาปที่เขาก่อขึ้นมา

 หลังจากพวกของ ฮิโรชิ ไปแล้ว หัวหน้าผู้คุม เซย์จิ โคซากะ จะเข้ามาในที่เกิดเหตุเนื่องจากไม่มีคู่กรณีไทงะจึงถูกจับตัวไปขังเดี่ยวครเดียวฐานทะเลาะวิวาทซึ่งไทงะเองก็ยอมและไม่บอกแม้กระทั้งว่าเขาถูกรังแกก่อน หลังจากออกมาจากห้องขังเดี่ยว เซย์จิ จะเรียกไทงะเข้าไปพบ ซึ่งเซย์จินั้นอดีตเคยเป็นยากูซ่ามาก่อนและรู้จักในความเป็นลูกผู้ชายของไทงะดีพอที่จะบอกให้เขสยอมซักทอดไปที่พวกที่ซ้อมเขา แต่ที่จำต้องจับไทงะมาขังเดี่ยวก็เพราะตัวเซย์จินั้นเป็นคนที่รักความสื่อตรงในการทำงานมากๆนั่นเอง หลังจากกลับเข้าห้องควบคุมเพื่อนๆทุกคนต่งก็ดีใจที่ไทงะกลับมา ทั้งหมดคุยกับยาวถึงเรื่องที่ ฮิมูระ โม้ถึงเรื่องการเป็นเพลย์บอยนักเที่ยวของเขาก่อนโดนจับมา จนทำให้ไทงะเก็บไปฝันกันเลย ..

 

** เนื่องจากไทงะติดคุกอยู่ระบบเพลย์เกมในเมืองจึงเป็นแค่ในความฝันเท่านั้น ในฝันไทงะจะเจอกับฮิมูระที่มาพาเขาเที่ยวตามที่มันได้คุยโม้เอาไว้นั่นแหละ เมื่อเข้าไปในบาร์จะพบกับ คากุยะ โฮสสุดสวยที่มานั่งคริ๊งด้วยหลังจากสั่งเหล้าพุดคุยอย่างมีความสุขแล้ว ไทงะก็ไปเที่ยวต่อที่คาราโอเกะกับคากุยะ ซึ่งเราก็ต้องพาเจาไทงะร้องเพลงหรือไม่ก็ตบมือเชียร์ตอนเธอร้องเพลงไปตามเรื่อง จากนั้นก็ได้วิวาทกับพวกนักเลงเป็นขนมหวานต่อ จนทุกอย่างจบลงเมืองไทงะตื่นในตอนเช้า ..** 

วันต่อมาไทงะออกมาที่สนามตามปกติแต่วันนี้กลับไม่มีใครเห็นบาบะเลย หลังจากตามหาและถามนักโทษทุกคนในสนามจนทั่วแล้ว ทุกคนจะไปดูที่อาคารด้านในที่ไทงะเคยถูกซ้อมก็จะพบบาบะกำลังถือสิ่วเปื้อนเลือดอยู่ในมือแถมยังมีนักโทษนอนจมกองเลือดอยู่ตรงหน้าอีกด้วย จนหัวหน้าผู้คุม เซย์จิ เข้ามาบาบะจึงโดนจับไปขังเดี่ยวอีกตามระเบียบ หลังจากนั้นไทงะจะพยายามหาหลักฐานมายืนยันความถูกต้องให้บาบะให้ได้ ที่ลานกว้างไทงะต้องคุยกับนักโทษทุกๆคนจนทั่วจนรู้ตำแหน่งลุงคนนึงที่กว้างขวางอยู่ที่นี่ หลังจากคุยกับลุงที่นั่งอยู่แล้ว ต่อไปไทงะต้องเข้าไปล้วงกระเป๋าพวกนักโทษและผู้คุมเป๋าหมายมาให้หมด (ต้องกด L1 หรือ R1 เพื่อเดินด้วย) จากนั้นก็วิ่งล่อผู้คุมไปซักพักจนลุงสามารถลอบเข้าไปเอาสิ่วของกลางออกมาให้ได้ จนเจ้าบ้าฮิโรชิก็ดันออกมาพูดยั่วโมโหไทงะว่ามันเป็นคนแทงนักโทษคนนั้นเองแต่บาบะดันโง่เข้าหยิบสิ่วของกลางเองก้เลยซวยไป ทำเอาไทงะถึงกัลคุมอารมณ์ไม่ไหวถึงกับถอดเสือโชว์รอยสักกลางหลังเตรียมจะลุยอย่างเต็มที่ แต่หัวหน้าผู้คุม เซย์จิ ก็เข้ามาห้ามซะก่อนและพาไทงะเข้าไปขังเดี่ยวอีกรอบ ..

บทที่ 2 第二章 決意の道

 

หลังจากไทงะถูกควบคุมตัวไป ไทงะก้ได้บอกความจริงกับหัวหน้าผู้คุม เซย์จิพร้อมทั้งให้หลักฐานคือสิ่วของจริงที่เจ้าบ้า ฮิโรชิ เป็นแทงด้วย ถึงแม้หัวหน้าผู้คุม เซย์จิจะเชื่อในความสื่อตรงของไทงะแต่ด้วยหลักฐานที่อ่อนจึงไม่สามารถทำอะไรได้แต่เชาก็จับตาเจ้าฮิโรชิเป็นพิเศษมาตลอดอยู่แล้ว เมื่อไทงะถูกปล่อยตัวกลับมาที่ห้องขังขณะกำลังอ่านหนังสื่อพิมพ์ก็ได้เจอข่าวของ มาจิม่าที่กำลังก่อความวุ่นวายขึ้นใน ซัปโปะโระที่ ฮอกไกโด ทำให้ไทงะยิ่งของขึ้นเพราะเป็นห่วงเพื่อน หลังจากที่ข่าวนี้รับรู้ถึงหัวหน้าผู้คุม เซย์จิ เขาจึงเรียกไทงะออกไปคุยตามลำพังด้วยความที่เป็นลูกห้อมเก่าของโทโจ หัวหน้าผู้คุม เซย์จิจึงจะวางแผนให้ไทงะหลบหนีไปดวยกุญแจรถสโนว์โมบิลของเขาเพื่อให้กลับไปช่วยมาจม่า โดยให้หนีในกลางดึกของคืนนี้เลย ขณะที่ไทงะกลับไปนอนรอให้ถึงช่วงดึกเขาก็ฝันต่อถึงความสนุกในเมืองอีกครั้ง

**  คราวนี้เขาได้พาคากุยะไปเล่นสนุกตามร้านต่างๆในเมืองแล้วแต่เราเลือกทั้งเกมปาลูกดอกอีกมากมาย และได้วิวาทระบายอารมณ์อีกด้วย **

เมื่อตื่นขึ้นมากลางดึกไทงะกับบาบะจึงออกจากห้องเพื่อหนีออกจากที่นี่โดยที่ โอชิม่า และ ฮิมูระ ที่นอนข้างๆต่างก็เฝ้าดูอยู่ตลอดแต่ก็ไม่ได้ขัดขวางอะไร เมื่อทั้งคู่ออกไปจนถึงสนามแล้วในขณะกำลังจะหนีออกทางประตูเล็กด้านข้าวก็จะพบศพของผู้คุมอยู่กลางสนาม นั่นแปลว่ามีกลิ่นไม่ดีแล้วไทงะเริ่มรู้ตัว ยังไม่ทันขาดคำ หัวหน้าผู้คุม เซย์จิ ก็ตะโกนมาจากห้องทำงานชั้นบนว่ามีการก่อจารจลของนักโทษโดยมีเจ้าฮิโรชิเป็นแกนนำ ไม่ทันพุดจบเจ้าฮิโรชิก็เข้ามาแทงหัวหน้าผู้คุม เซย์จิจากด้านหลังจนตายคามือ เจ้าบ้าฮิโรชิก็นำลูกน้องของมันมาล้อมไทงะและบาละมากมายหวังจะกระทืบให้ตาย แต่ครั้งนี้ไทงะไม่ยอมแล้ว ศักดิ์ศรีของยากูซ่าในตัวเขาทนมาได้เท่านี้ เขาถอดเสื้อโชว์รอยสักพยัคฆ์คำรามให้เห็นก่อนลุยเข้าไปพร้อมกับบาบะโดยไม่แคร์เลยว่าพวกศัตรูมีจำนวนเท่าไหร์ จนจัดการพวกนักโทษจนหมอบไปจนหมด สุดท้ายฮิโรชิก็ออกมาสู้กับไทงะเป็นการตบท้าย

 

แต่ไทงะก็กระทืบเจ้าฮิโรชิจนจมดิน แถมยังกระทืบมือที่ทำเลวมามากมายของมันจนแหลกละเอียดไปอีกด้วย จากนั้นไทงะและบาบะกำลังจะหนีออกจากที่นี่แต่เจ้าฮิโรชิก็ลุกขึ้นมาอีกรอบพร้อมปืนในมือของมัน จนเสียงปืนดังขึ้นแต่คนที่ลงไปจมกองเลือดก็ดันเป็นเจ้าฮิโรชิที่โดน ฮิมูระ ที่ใช้ปืนของผู้คุมยิงมันจนตายคาทีหายบ้าไปซะที จากนั้นไทงะและบาบะก็ร่ำลา ฮิมูระ แล้วหนีออกจากที่นี่ด้วยสโนว์โมบิลได้สำเร็จ  ระหว่างทางต้องซิ่งสโนว์โมบิลหลบกสิ่งกีดขวางต่างๆรวมทั้งพวกผู้คุมที่ตามไล่ล่ามาด้วยจนสามารถหนีพ้นได้สำเร็จ แต่ด้วยพายุหิมะที่กำลังโหมกระหน่ำทำให้รถของทั้งไทงะและบาบะเกิดชนเข้ากับต้นไม้จนบาบะกระเด็นหายไปในพายุ ส่วนไทงะก็พยายามลุกขึ้นมาตามหาแต่ดันไปเจอกับหมียักษสีดำที่เข้ามาโจมตีใส่จนไทงะต้องสู้กับมันท่ามกลางพายุหิมะจนสามารถไล่มันไปได้  แต่สุดท้ายก็หมดแรงเพราะทนแรงของพายุไมไหวจนสลบไปกลางหิมะ  .. แต่ก็โชคดีที่มีพรานเฒ่าคนนึงที่มาเดินมาพบแล้วช่วยไทงะเอาไว้ ..

บทที่ 3 第三章 凍てつく咆哮

 

ไทงะตื่นขึ้นมาในกระท่อมกลางป่าแห่งหนึ่ง พรานเฒ่าที่ช่วยเขาไว้ทำซุปร้อนๆให้กิน ไทงะถามหาบาบะเพื่อนของเขาเมื่อไม่เห็นว่าอยู่ที่นี่ไทงะจึงจะลุกขึ้นตามไปช่วยทันที แต่พรานเฒ่าก้ห้ามเอาไว้แล้วบอกว่าเขาจะไปตามหาให้เองให้ไทงะนอนรักษาตัวที่นี่ก่อน เมื่อออกมาจากบ้านจะพบว่าอยู่ในหมู่บ้านเชิงภูเขาหิมะกลางป่าลึกแห่งนึง ที่นี่มีคนอาศัยอยู่ไม่มากแต่ก็รักไคร่กลมเกลียวกันดี ผู้ใหญ่บ้านของที่นี่จะเข้ามาคุยด้วยแล้วบอกถึงเรื่อง พรานเฒ่า โอคุเดระ ที่ช่วยชีวิตไทงะเอาไว้ ว่าเขาเป็นพรานที่เก่งที่สุดของทีนี่ แต่โชคร้ายที่ครอบครัวของแกโดนหมียักษ์ฆ่าตายจนหมด ซี่งการไล่ล่า หมียักษ์ ยามาโอโรจิ เป็นความฝันที่โอคุเดระ ทำมาตลอด 9 ปีแต่ก็ยังไม่สามารถฆ่ามันได้จน ซึ่งไทงะก็นึกขึ้นมาได้ว่าเขาเองก็เคยเจอมันมาแล้ว จากนั้นไทงะจึงทนรอไม่ไหวจึงถามทางพวกชาวบ้านเพื่อออกตามพรานเฒ่าไปเพื่อช่วยบาบะอีกคน เมื่อออกนอกหมู่บ้านแล้วเดินเลาะไปตามแม่น้ำจนพบ โอคุเดระ และ บาบะที่นอนสลบอยู่ ไทงะจึงช่วยแบกบาบะกลับไปที่หมู่บ้าน

 

เมื่อบาบะรู้สึกตัวทั้งหมดจะคุยกันกับพรานเฒ่า โอคุเดระและขอบคุณที่ช่วยพวกเขาเอาไว้ จากนั้นออกไปที่ในหมู่บ้านขึ้นไปคุยกับ นิชิน ที่บ้านบนเนินเธอจะให้กระสุนมา จากนั้นก็คุยกับชาวบ้านให้ทั่วๆจนได้ ปืน และ ชุดนายพรานมาใส่ จากนั้นก็ออกนอกหมู่บ้านจะพบพรานเฒ่า โอคุเดระ เขาจะสอนวิธีล่าสัตว์และเอาตัวรอดในภูเขาหิมะให้กับไทงะ

การยิงปืนและล่าสัตว์

- กดสี่เหลี่ยม ยิงปืน

-  กด L1 + สี่เหลี่ยม เล็งยิงปืนเป็นมุมมองบุคคลที่ 1

- R2 – รีโหลดกระสุน

- O – ก้มต่ำ

สิ่งจำเป็นที่ควรรู้ในตอนออกล่าสัตว์

- การออกล่าสัตว์แต่ละครั้งจะมีกระสุนให้ 50 นัดเท่านั้นหมดแล้วหมดเลย

- การออกล่าสัตว์นั้นในขณะเดินทางพลังชีวิตจะค่อยๆลดลงเรื่อยๆเพราะความหนาวจึงจำเป็นต้องกินอาหารที่ซื้อมาหรือยิงสัตว์เอาเนื้อมากินก็ได้เหมือน

 - การยิงสัตว์นั้นความเสียหายนั้นขึ้นอยู่กับระยะการยิงด้วย ซึ่งถ้ายิงในระยะใกล้และโดนหัวจะๆมันจะตายได้ทันที แม้กระทั้งหมีตัวโตๆก็ตายได้ง่ายได้เลย

- ในพื้นที่ล่าสัตว์จะมีอาหารที่พังอยู่ตามจุดต่างๆซึ่งจะสามารถใช้อุปกรณ์ช่างที่ซื้อที่ร้านมาสร้างเป็นที่พักชั่วคราวได้ด้วย โดยเอาไว้ฝากไอเทม , พักรักษาตัวได้ และเป็น Check Point ด้วย 

- การซื้อไอเทม ก่อนออกล่าสัตว์ จำเป็นต้องซื้อไอเทมสำคัญ ๆที่จำเป็นต่อการอยู่รอดเช่น อาหารแห้ง , กับดัก , อุปกรณ์การช่างต่างๆ  

- ไอเทมต่างๆที่ได้จากสัตว์ที่ล่ามาได้สามารถนำไปขายทำเงินได้ที่ร้านค้าได้หลังกลับมาอย่างปลอดภัยแล้ว

 

ตามรอยเท้ากวางไปจนพบตัวมันแล้วยิงมันเอาชิ้นส่วนของมันมาจากนั้นก็กลับออกจากพื้นที่ ในวันต่อมาพรานเฒ่า โอคุเดระ จะสอนวิธีใช้กับดัก โดยกับดักจะมีทั้งขนาดเล็กจนถึงขนาดใหญ่ซึ่งหาซื้อได้ในร้านค้าแล้วนำมาใช้ตรงพื้นที่ที่มีจุดเรืองแสงขึ้นมา  เมื่อทิ้งเอสาไว้จนคราวหน้ากลับมาใหม่ถ้ามีสัตว์มาติดกับดักมันก็สามารถมาเก็บไปขายได้เลย จากนั้นทั้งคู่ก็จะพบกับเจ้าหมียักษ์ ยามาโอโรจิ โดนบังเอิญไทงะพยายามยิงไปเรื่อยๆจน โอคุเดระ จะถูกทำร้ายจนบาดเจ็บไทงะจึงต้องพากลับไปรักษาที่หมู่บ้าน

วันต่อมาเมื่อออกมาในหมู่บ้านจะเริ่มมีคนเอาของใส่รถมาขายที่หน้าทางเข้าแล้ว เมื่อสำรวจทั่วๆจะพบบ้านแปลกๆหลังนึงที่ลานท้ายหมู่บ้าน เมื่อเอาไอเทม แครอท (ซื้อจากร้านค้า) ไปให้หลายๆครั้งเขาจะแสดงตัวออกมา อาจารย์ เท็นโด ซึ่งเขาจะสอนท่าไม้ตายใหม่ให้เมื่อสามารถเอาชนะเข้าได้แล้ว จากนั้นในครั้งต่อไปนั้นไอเทมที่เขาต้องการก็จะเปลี่ยนไปเรื่อยๆ ซึ่งถ้าเราไปตามหามาให้เขาที่บ้านเขาก็จะสอนวิชาใหม่ๆเพิ่มให้อีก

จากนั้นเมื่อคุยกับชาวบ้านจนทั่วๆแล้วก็จะได้เควสย่อยของพวกเขามาด้วยซึ่งจะขึ้นเป้นจุดเขียวขึ้นมาในแผนที่นั้นเอง ซึ่งตอนนี้จะมีจุดแดงของเนื้อเรื่องหลักและจุดเขียวของเควสย่อยขึ้นพร้อมกันที่พรานเฒ่า โอคุเดระทั้งหมด นั้นแปลว่าเราสามารถทำเควสย่อยจากที่นี่รวมทั้งเควสหลักด้วยนั่นเอง ซึ่งเมื่อคุยกับ พรานเฒ่า โอคุเดระ ก็จะมีคำสั่งต่างๆขึ้นมาคือ

1. Mission หลัก ( ซึ่งในที่นี้ก็คือ การลงจากภูเขาแล้วจบบทที่ 3 ทันที )

2. Mission เสริม

เมื่อเลือกคำสั่งนี้จะเข้าสู้เมนูของเควสย่อย ซึ่งเควสย่อยหลักๆก็คือการหาทางไล่ล่าจัดการกับ หมียักษ์ ยามาโอโรจิ  นั่นเอง ส่วนเควสย่อยอื่นๆนั้นสามารถทำร่วมไปได้เลยเมื่อเข้าเขตล่าสัตว์ไปแล้ว

- ก่อนอื่นกดคำสั่งทางเมนูล่างทางซ้ายเพื่อเลือกเอาไอเทมที่จำเป็นไปใช้ในการล่าสัตว์ ทั้งอาหารแห้งและกับดักต่างๆ

- จากนั้นก่อนอื่นกดคำสั่งทางเมนูล่างทางขวาเพื่อเลือกตกลง

- ย้อนกลับมาที่เมนูแรกกดคำสั่งบนสุดจะเข้าไปที่ภูเขาในเขตล่าสัตว์ทันที

3. สถิติการล่าสัตว์ของไทงะ

4. ยกเลิก

** ตรงนี้ถ้าเลือกคำสั่งบรรทัดแรกตอนคุยกับพรานเฒ่า โอคุเดระ ก็จะตัดเข้าสู่การที่ทั้งคู่ลาพรานเฒ่า โอคุเดระ ลงจากเขาแล้วจะจบ บทที่ 3 ทันที **

   แต่ถ้าอยากจะจัดการเจ้าหมียักษ์ ยามาโอโรจิ ให้ได้เพื่อทำตามความฝันของ เจ้าหมียักษ์ ยามาโอโรจิ เพื่อทดแทนบุญคุณเขาที่ช่วยพวกไทงะเอาไว้ก็ต้องทำเควสย่อยต่างๆให้หมด ซึ่งก็คือการหารวิธีล่าเจ้าหมียักษ์ ยามาโอโรจิ ซึ่งแต่ละครั้งก็เกิดความสูญเสียมากมายแต่ก็ไม่สามารถฆ่ามันได้เลย (แม้จะยิงหัวจะจนหมดกระสุน 50 นัดแล้วก็ตาม ) แม้กระทั้งแผนสดท้ายที่จะจัดการให้มันตกสะพานตายก็ไม่ได้ผลสำเร็จ จนสุดท้ายไทงะก็ต้องใช้กำลังทั้งหมดของตนเข้าไปจัดการเจ้าหมียักษ์ ยามาโอโรจิ ด้วยหมัดล้วนๆจนสามารถเเอาชนะและกำจัดมันลงได้ในที่สุด เท่านี้ก็เป็นการทดแทนบุญคุณ พรานเฒ่า โอคุเดระ ได้แล้ว จากนั้นค่อยกลับลงเขาก็จะลงเขาไปอย่างสบายใจแล้ว …

บทที่ 4  第四章 無謀なる闘い

เมือง ทสีกิมิโนะ (Tsukimino) ,  ซัปโปะโระ จังหวัด ฮอกไกโด

เมื่อไทงะและบาบะเดินทางมาถึงซัปโปะโระ ในเมือง ทสีกิมิโนะ ก็จะเห็นประกาศจับไทงะอยู่ในทีวีจอยักษ์ของเมืองทันที แต่ไทงะก็อดแปลกใจไม่ได้ที่มีประกาศจับแค่เขาเพียงคนเดียว จากนั้นบาบะจำวิ่งนำทางไปที่ที่พักเก่าของเขา ในระหว่างทางนั้นไทงะก็ยังกังวลใจกับตำรวจมากมายที่มารวมอยู่ที่นี่เพราะกำลังจะมีเทศกาลหิมะในอีกไม่กี่วันนั่นเอง เมื่อเดินทางมาถึงที่จุดหมายแล้วก็จะพบว่าเป็นบาร์เก่าของครอบครัวบาบะ ซึ่งที่นี่ก็จะเป็นที่พักและที่เซฟของไทงะอีกด้วย เมื่อได้ที่หลบซ่อนตัวแล้วเป้าหมายต่อไปคือหาข่าวให้ได้ว่าเป้าหมายของมาจิม่ามันคืออะไร เดินทางต่อไปที่จุดหมายที่ขึ้นมาที่บาร์ Ambitious เข้าไปข้างในจะเป็นสนุ๊กเกอร์คลับ ซึ่งจะมีมินิเกมส์ปาลูกดอกและสนุ๊กเกอร์ให้เล่นด้วย จากนั้นมองหาชายใส่แว่นที่ยืนข้างๆห้องน้ำซึ่งไทงะจะหาข่าวจากเขา โดยถ้าคิดว่าแน่ก็แข่งตีสนุ๊กเกอร์กับเขาให้ชนะแต่ถ้าขี้เกียจก็จ่ายค่าข่าวให้มันไป 5 แสน (คำสั่งบรรทัดที่ 2 ) ได้เลย จากนั้นกลับออกมานอกร้านตอนนี้จะไม่มีเป้าหมายขึ้นมาในแผนที่

                                       

จากนั้นเดินไปที่ถนนเส้นที่ 2 ทางฝั่งซ้ายของเมืองมองหาลุง คิโยทากะ ที่ใส่เสื้อแดงนั่งอยู่ (รูปวงกลมแดงในแผนที่)  คุยกับลุงคนนั้นแล้วเลือกบอกรหัสตัวเลข 71 (ถามเอาจากผู้ชายเสื้อขาวที่ยืนอยู่สุดซอยด้านซ้าย) แล้วจะได้รูปของตู้โทรศัพท์มาให้เดินไปที่ตู้นั้น โดยมันจะอยู่ในถนนเส้นแรกของฝั่งขวาบนของแผนที่นั่นเอง (รูปดาวแดงในแผนที่) จากนั้นเข้าไปรับโทรศัพท์ที่ดังขึ้นมาแล้วไปที่ร้านขายโดนัทเป้าหมายเลือกซื้อของโดยเลือกตอบเรียงดังนี้ [ บรรทัดที่ 2 - บรรทัดที่ 3 - บรรทัดที่ 1  ] (ดูที่เขียนไว้ในรูปตู้โทรศัพท์ ) ก็จะได้คูปองมา แล้วกลับไปที่บาร์ Ambitious อีกครั้งเอาคูปองให้บาร์เทนเดอร์แล้วคุยกับคนเฝ้าประตูห้อง VIP ด้านในก็จะเข้าไปในห้องได้ จะพบกับคนในกลุ่มของมาจิม่าอยู่ จัดการมันให้หมดแล้วไทงะจะบังคับให้มันบอกแผนของมาจิม่ามาซึ่งทำให้รู้ว่าเป้าหมายของมันคือเก็บ Taizou Kitagata นั่นเอง จากนั้นกลับไปหาบาบะที่บาร์ที่พัก บาบะจะบอกว่า คิทากาตะ นั้นจะมาเป็นประธานเปิดงานเทศกาลหิมะประจำปีที่จะมีพิธีเปิดในวันพรุ่งนี้แล้ว จากนั้นพักผ่อนหนึ่งคืน ตอนเช้าไทงะจะออกไปดูลาดเลาที่งาน เทศกาลหิมะ ซึ่งจะพบว่ามีท่อระบายน้ำอยู่ตรงหน้าเวทีด้วย เขาจึงคิดแผนการออกว่าจะมุดท่อมาโผล่หน้างานแล้วพาตัว คิทาคาตะ หนีไปก่อนถูกเก็บ แต่ก็จะพบว่ามีตำรวจมากมายที่มาลาดตระเวณอยู่ด้วย   

จากนั้นเดินไปที่ในซอยหลังบาร์ที่พักจะสุดทางจะมีท่อระบายน้ำที่เชื่อมต่อกันอยู่ แต่กลับพบกับลูกน้องของมาจิม่ามาขัดขวางจำนวนมาก ซึ่งไทงะต้องลุยจัดการพวกมมันให้หมดโดยต้องระวังพวกตัวรวจอีกด้วย หลังจากจัดการพวกมันหมดแล้ว ไทงะและบาบะจะมุดลงท่อไปโผล่ที่หน้าเวทีและจับตัว คิทากาตะ ลงท่อได้สำเร็จ ไทงะจะพา คิทากาตะ มาหลบซ่อนบนตึกแห่งหนึ่ง ซึ่งบาบะจะขอตัวไปดูแลด้านนอกให้ ในขณะที่ไทงะกำลังคุยกับ คิทากาตะ จู่ก็มีนักฆ่าลึกลับยิงเข้าไปทางหน้าตาเก็บคิทากาตะลงอย่าง่ายดายเหมือนมันจะรู้ที่ซ่อนดี ไทงะจึงออกจากตึกและวิ่งไล่มือปืนที่กำลังหนีไปจนมันจนมุมที่ซอยแห่งนึง แต่ไทงะก็ต้องตกใจว่า ผู้ร้ายที่เป็นคนยิงก็คือ บาบะ นั่นเอง ทำให้บาบะสารภาพว่าการหนีออกมาจากคุกนั้นเป็นแผนอำนวยความสะดวกของกลุ่มาจิม่าอยู่แล้ว และบาบะเองก็ทำงานให้มาจิม่ามานานแล้ว ทำให้ไทงะตกใจมาก บาบะยกปืนขึ้นมาจ่อจะยิงไทงะแต่กลับไม่ทำให้ไทงะกลัวเลยแม้แต่น้อย เขาบอกไม่กลัวที่จะโดนยิงตายแต่ก็อยากจะรู้ว่า บาบะ เนลูกผู้ชายพอที่จะสู้กับคนที่บาบะเรียกว่า ลูกพี่ ที่ชื่อไทงะคนนี้หรือเปล่าจนทำให้บาบะต้องยอมที่สู้ตัวต่อตัวเพื่อตัดสินกับไทงะ Boss ชิเคกิ บาบะ

 

บาบะเข้าสู้ แบบเต็มรูปแบบที่เก่งขึ้นทั้งเร็วและโจมตีแรงขึ้นอย่างน่ากลัว แต่ก็ไม่พอมือไทงะอยู่ดี (หมีมันยังอัดจนหมอบมาแล้ว) หลังจากชนะแล้วไทงะจะบอกกับบาบะว่าไม่ว่าผ่านมาเป็นยังไงก็ตามก็อยากให้บาบะมาสู้ร่วมกับเขาอีกครั้ง นายอยากเป็นลูกน้องชั้นมาตลอดไม่ใช่หรือ ? และโอกาศนั้นมาแล้วน๊ะ ไทงะพูดก่อนจะยื่นมือให้บาบะลุกขึ้นมา ทำเอาบาบะยิ้นทั้งน้ำตาแต่เขาก็ต้องไปแก้ไขบางอย่างก่อนจึงวิ่งหนีออกไป ในขณะที่ไทงะกำลังไปเก็บปืนของบาบะที่ทำตกเอาไว้ จู่ๆ ตำรวจนอกเครื่องแบบก็เข้ามาปิดล้อมพื้นที่โดยการนำของ นักสืบ เซริซาวะ ตำรวจจากโอซาก้า ซึ่งบอกให้ไทงะมอบตัวแต่โดยดี

 

… ไทงะถูกจับตัวอีกครั้ง ในรถขนนักโทษ  นักสืบ เซริซาวะ ก็มีโอกาศคุยกับไทงะแบบ 2 ต่อ 2 เขาเล่าเรื่องทั้งหมดทั้งเรื่องการทรยศของ อาโอยาม่า ของโทโจ การเคลื่อนไหวของคิริว แต่สิ่งที่เขายังไม่รู้ก็คือแผนการของ มาจิม่า โกโร่ เพื่อนของนายนั่นแหละ ว่าแต่ชั้นบอกนายจนหมดทุกเรื่องแล้วน๊ะ แล้วนายจะไม่บอกอะไรชั้นบางเป็นการแลกเปลี่ยนกันบ้างหรอ ไทงะ ? …นักสืบ เซริซาวะ ถามด้วยรอยยิ้ม ….

                                    Chapter 3 第三部・澤村遥&秋山駿

                  

                            

ที่สถานรับเลี้ยงเด็กที่โอกินา หนึ่งปีก่อนหน้านี้ …ก่อนก้าวแรกของ ฮารูกะ ที่เพิ่งจะครบรอบ 16 ปีเต็ม เธอได้ถ่านโฆษณาบะหมี่เพื่อช่วยคิริวด้วยการเต้นที่สุดแสนน่ารัก จนไปต้องตาต้องใจ Mirei Paku เจ้าของบริษัทแมวมองปั้นดารานักร้องชื่อดัง Dyna Chair (dych) ที่เห็นในพรสวรรค์ของฮารูกะที่ไม่ใช่แค่เรื่องเต้นแต่ด้วยพรสวรรค์ด้านดึงดูดจิคใจคนต่างหากที่เจ๊ Paku เธอสนใจ ถึงขนาดดั่นดั้นมาจากโอซาก้ามาจนถึง โอกินาว่าเลย เธอพยายมพูดทุกอย่างตั้งแต่ขอร้อง เหตุผล จนถึงข้อกฎหมายกับคิริวจนคิริวเองกลับพูดไม่ออก ด้วยความเป็นห่วงแต่คิริวก็จำยอมให้ฮารูกะได้เดินตามความฝันของตัวเองเมื่อเวลามาถึง จนเขายอมให้อารูกะไปกับ Paku เพื่อไปฝึกฝนการเป็นไอดอลที่โอซาก้า และนั้นก็เป็นเหตุผลว่าทำไมคิริวเองก็จากที่นี่ไปในเวาลาต่อมาเช่นกัน …

บทที่ 1 第一章 夢の舞台裏

เมือง โชเต็นโบริ , โอซาก้า

 ฮารูกะ ในฐานะไอดอล ดาวดวงใหม่แห่งวงการที่บริษัท Dyna Chair  กำลังปั้นเพื่อเข้าแข่งขันชิงความเป็นหนึ่งในรายการ Princess League TV idol contest.  เพื่อเป็นใบเบิกทางให้ความเป็นไอดอลหน้าใหม่ซึ่งถือว่าเป็นก้าวแรกสู่ความฝันที่สำคัยที่สุดของเธเลย และฮารูกะก็กำลังซ้อมหนักในการเต้นของเธอ อยู่แทบทุกวันโดยการควบคุมของครูฝึกสอนการเต้น เค็น โอคิตะ ที่ค่อนข้างอารมณ์ร้อนและเอาแต่ใจและมักจะทะเลาะกับ Mirei Paku ประธานบริษัทอยู่บ่อยๆในเรื่องแนวทางการสอนของเขา  หลังจากซ้อมเต้นเสร็จกลับออกจากตึกแล้วจะพบกับ อาคาริ สาวนักเต้นสตีทแดนซ์ที่มาท้าฮารูกะแข่งเต้นอย่างตรงไปตรงมาซึ่งฮารูกะเองก็เต็มใจแข่งด้วยทันที

** เนื้อเรื่องและเส้นทางของ ฮารูกะ นั้นจะแตกต่างกับตัวละครอื่นอย่างสิ้นเชิง การต่อสู้ของเธอไม่ใช่กลุ่มยากูว่าบนถนนแต่เป็นการต่อสู้ในแบบเต้นแข่งกันบนท้องถนนที่เรียกกันว่า Street Battle ซึ่งระบบการเล่นก็คือ เกมเต้น นั่นเอง โดยหลักๆก็คือกดปุ่มตามปุ่มที่เรียงขึ้นมาให้ทันและตรงจังหวะ โดยจะต้องใช้ปุ่มทิศทางเปลี่ยนตำแหน่งตามปุ่มที่เลื่อนออกมาจากทั้ง 4 ทิศทางด้วย ส่วนเกท Heat ของฮารูกะเธอเองก็มีเหมือนกัน แต่เป็น Idol Heat เมื่อกด L1 ก็จะสามารถโพสท่าเต้นพิเศษๆออกมาได้ด้วย    โดยจะแบ่งเป็นการเต้นออกเป็น

- Street Battle คือ การเต้นแข่งประชันกับคู่แข่ง โดยมีผลแพ้ชนะ คือ ระหว่างการเต้นประชันจะมีเกทลูกระเบิดเลื่อนไปมา ถ้าฝ่ายไหนเต้นได้ดีกว่าเกทลูกระเบิด

ก็จะถูกดันไปอีกฝ่ายนึงและเมื่อมันระเบิดขึ้นค่าพลังความเหนื่อย (พลังชีวิตนั่นแหละ) ก็จะลดลงไปด้วย และเมื่อพลังชีวิตหมดลงไปก็จะแพ้ทันที หรือ อีกทางหนึ่งก็คือตัดสินกันตามคะแนนเสียงเชียร์ที่ขึ้นมา ว่าใครจะมากกว่ากัน นั่นเอง

- Live Battle  คือ การเต้นเดี่ยว เพื่อใช้ในการแข่งขันการประกวดต่างๆ และ เต้นโชว์ตาม Event งานโปรโมทต่างๆ ตัดสินกันตามคะแนนเสียงเชียร์ที่ขึ้นมาเพียงอย่างเดียว ตั้งแต่ระดับ D - S

หลังจากเอาชนะอาคาริลงได้ทั้ง 2 คนก็จะเป็นเพื่อนซี้กัน และจากนี้ทุกครั้งที่เห็นนักเต้นที่มีเครื่องหมาย ! อยู่แปลว่าฮารูกะสามารถเข้าไปแข่งกันกับพวกนั้นได้ ซึ่งก็เพื่อเพิ่มระดับเลเวลและเงินเหมือนกับตัวละครอื่นๆนั่นเอง  จากนั้นกลับบ้านพักผ่อนหนึ่งคืน ตอนเช้า เดินทางมาที่บริษัทไดน่าแชร์ เข้าไปพบกับ ฮิโรชิ โฮเรย์ ซึ่งเขาเป็นผู้จัดการส่วนตัวของฮารูกะที่จัดการตารางงานทุกๆอย่างให้ โดยเขาจะสอนวิธีดูตารางงานให้ฮารูกะด้วย

การใช้ Monthly Schedule

ตารางงานของฮารูกะที่จะต้องออกไปทำโดยมีเป้าหมายคือ ระดับความนิยม และ จำนวนแฟนคลับที่เพิ่มขึ้นด้วย โดยจะแบ่งออกเป็น

Story Mission – งานหลักตามเนื้อเรื่องซึ่งก็คือการแข่งขัน Princess League รวมทั้งงานอีเว้นท์ที่ได้เจอกับตัวละครสำคัญๆตามเนื้อเรื่อง 

Sub Mission -  งานย่อยที่ต้องออกไปแสดงและพบปะแฟนเพลงตามที่ต่างเพื่อโปรโมทตัวเอง เพิ่มระดับความนิยม และเพิ่มจำนวนแฟนคลับที่เพิ่มอีกด้วย ซึ่งก็จะมีให้เลือกทำมากมาย ทั้ง

- การพบปะแฟนคลับ โดยต้องกดปุ่มสี่เหลี่ยมค้างเอาไว้แล้วรอให้แฟนเพลงทักทายมา ดูว่าเขาพูดออกเป็นสีอะไรก็เลือกประโยคตอบให้ตรงกับสีที่ถามมา ซึ่งยิ่งจับมือนานแค่ไหน เกทความชื่นชอบก็จะขึ้นมากเท่านั้น แต่ถ้านานไปการ์ดจะมาจับตัวแฟนเพลงไปทำให้เราอดได้ความชื่นชอบไปด้วย (ฮารูกะ มีแฟนคลับที่เป็นโอทาคุหื่นๆเยอะเลยล่ะจะบอกให้ )

- ถ่ายรูปกับแฟนเพลง ที่ต้องกะจังหวะโพสท่าให้ทันกับชัตเตอร์กล้องที่กดด้วย

- เต้นโปรโมทตามถนน

- เต้นโปรโมทกับพวกนักข่าว

- ออกโทรทัศน์ในรายการกีฬา , รายการสารคดีพาชมเมือง และมินิเกมส์ต่างๆอีกมากมาย

- ออกรายการเกมโชว์ ตอบปัญหาต่างๆ

-  ให้สัมภาษณ์กับพวกสื่อต่างๆ

โดยเควสย่อยเหล่านี้จะค่อยๆเพิ่มขึ้นมาตามระดับเลเวลความเป็น Idol ของฮารูกะที่เพิ่มมากขึ่นนั่นเอง ซึ่งจะตันแค่เลเวล 12 เท่านั้น โดยเมื่อระดับความนิยมเพิ่มากขึ้นแล้วก็จะเริ่มมีของขัวญมากมายส่งมากองที่โต๊ะของฮารูกะให้เลือกใช้ด้วย หลังจากทำเควสต่างๆจนพอใจกับระบบเลเวลของตัวเองแล้วก็เลือกเข้าแข่ง Princess League รอบแรกในตาราง Story Mission ได้เลย

Princess League TV idol contest.2012

เด็กสาวบ้านนอกอย่างฮารูกะกำลังจะเข้าไปแข่งในงานใหญ่ระดับประเทศก็ย่อมถูกดูถูกจากทุกคนเป็นธรรมดา ไม่เว้นแม้กับคู่แข่งของเธอ T – Set  สองสาวคู่ดูโอ 2 นักเต้นที่กำลังได้รับความนิยมสูงสุดอยู่ในขณะนี้ที่อยู่ภายใต้ต้นสังกัด บริษัท Osaka Geinou บริษัทยักษ์ใหญ่ในวงการบันเทิงของโอซาก้าที่งัดข้อกับทาง บริษัท Dyna Chair มาโดยตลอด จนฮารูกะเจอ 2 สาว T – Set แกล้งจนเกือบหน้าแตก ซึ่งผู้จัดการอย่าง ฮิโรชิ ก็ไม่กล้าที่จะแหย่มกับผู้จัดการสายยากูซ่าอย่าง นาไก ของ T – Set แน่นอน แต่สุดท้ายความขยันและความมุ่งมั่นของฮารูกะก็ทำให้เธอชนะ T – Set ในรอบแรกไปได้อย่างพลิกความคาดหมาย ที่เหลือก็อีกแค่ 2 รอบที่ฮารูกะต้องฝ่าฝันต่อไป แม้จะโดนแม่ 2 สาว T – Set ดูถูกยังไงก็ตาม

 

เมื่อได้รับชัยชนะแล้วเดินทางกลับ บริษัท Dyna Chair จะพบกับ ยามาระ รองบริษัทที่เขามาคุยแสดงความยินดี แต่เมื่อเข้าไปในห้องของเจ๊ มิเร ก็จะพบกำลังทะเลาะอยู่กับ โอคิตะ อย่างรุนแรงจน โอคิตะ ผลัก เจ๊ มิเร จนล้มก่อนออกจากห้องไปด้วยความโกรธ เมื่อเข้าไปคุยกับ มิเร เธอจะบอกว่าได้ไล่ โอคิตะ ออกจากทีมไปแล้วเพราะทำผลงานได้ต่ำกว่ามาตฐานในการสอน ซึ่งเธอจะบอกให้ฮารูกะไปหาครูคนใหม่ที่ชื่อ Christine ให้มาที่บริษัท จากนั้นไปที่บาร์ไหนก็ได้จากทั้งหมดที่มีจุดหมายขึ้นมา โดยเข้าไปคุยกับบาร์เทนเดอร์แล้วเลือกตอบ [ 1 – 3 – 2  ] เมื่อออกมาจากร้านจะพบกับ อาคาริ อีกครั้ง ซึ่งเธอจะพาไปหา Christine เอง

ซึ่งเมื่อเข้าไปพบแล้วเขาจะให้ทั้งคู่แข่งกันและเขาจะสอนให้กับคนชนะเท่านั้น เต้นประชันกับ อาคาริ ให้ชนะแล้ว Christine จะตกลงจะสอนให้ฮารูกะ ทำให้อาคาริวิ่งหนีไปด้วยความเสียใจ จากนั้นเมื่อกลับไปที่บริษัทก็จะพบ Christine มาเป็นครูสอนเต้นที่นี่แล้ว ทำเอาทุกคนดีใจกันมากๆ  จากนั้นลงไปคุยกับผู้จัดการ อิโรชิ ทั้งคู่จะเข้าไปคุยกับ มิเร ซึ่งเธอจะสอนให้ฮารูกะแต่งหน้าด้วย จากนั้นออกไปขึ้นแท็กซี่มาที่สตูดิโอพบกับ มาดะซัง สุดยอกโปรดิวเซอร์รายการ Princess League ซึ่งเขาจะให้ฮารูกะเล่นเกมโชว์ เลิฟ ควิซ โดยจะตอบคำถามต่างๆที่พิธีกรถามมาว่าถูกหรือผิดเท่านั้น  เลือกตอบ ..[ X X X O X O X X O X  ] เมื่อแข่งเสร็จแล้ว ก็กลับบ้านพักผ่อนได้เลย

บทที่ 2 第二章 託された想い

เมื่อตื่นมาตอนเช้า ออกจากห้องไปที่บริษัทเพื่อซ้อมเต้นกับครู Christine จนเสร็จแล้วก็ลงไปหาผู้จัดการอิโรชิ ซึ่งเขาจะพามาที่ตลาดเพื่อหาซื้อของขวัญวันเกิดให้ มิเร เมื่อฮารูกะเลือกซื้อจนเจอเข็มกลัดที่ต้องการแต่ดูเหมือนจะแพงเกินไป เธอจะคิดว่าจะขโมย ( แค่คิดเท่านั้นน๊ะ ) แต่พวก T – Set ดันเข้ามาเห็นเข้าจึงเป็นเรื่อง พวก T – Set จะขู่ว่าจะโทรไปแจ้งตำรวจถ้าไม่ยอมคุกเข่าขอร้องพวกเธอ แต่ฮารูกะไม่กลัวเพราะเธอไม่ได้ตั้งใจจะขโมยจริงๆ แต่ T – Set กลับบอกว่าถ้าตำรวจมาจับแล้วบริษัทของ มิเร จะเสียหายแค่ไหน ทำเอาฮารูกะต้องยอมคุกเข่าเพื่อขอร้องกลางตลาดตามใจ 2 สาว T – Set แต่แล้ว มิเร และ ฮิโรชิ ที่ตามมาทัน มิเร ก็แพร่รังสีอำมหิตใส่ 2 สาว T – Set ไปว่า ทำเหมือนเธอ 2 คนประวัติดีนักนี่ ถ้าจะสู้ก็สู้ มิเร ก็จะแฉเรื่องฉาวโฉ่ของ 2 สาว T – Set ด้วยเช่นกัน ทำเอา T – Set ต้องเดินหนีไปอย่างเร็วทันที มิเรเข้าไปปลอบฮารูกะ และขอบคุณที่ซื้อเข็มกลัดให้ ถึงแม้จะโดนพวก T – Set ทำแตก แต่เธอก็จะขอรับไว้ด้วยความเต็มใจ ทำเอาฮารูกะดีใจอย่างมาก 

จากนั้นกลับไปที่บริษัทเพื่อซ้อมเต้นกับครู Christine ตามปกติจนหมดคอส แล้วลงไปหามิเร เธอจะพาฮารูกะไปเลือกเสื้อผ้าที่จะใช้ในการแข่งขันรอบตัดสิน ซึ่ง มิเร เธอเชื่อเสมอว่าฮารูกะจะเข้าไปจนถึงรอบตัดสินได้แน่นอน เมื่อเดินมาถึงร้าน Le marche มิเรจะให้ฮรูกะเลือกซื้อเสื้อผ้าได้ตามสะดวก (ฟรี) เมื่อเลือกซื้อจนครบแล้วทั้ง 2 ยังได้เล่นเกมไทโกะด้วยกันและยังถ่ายรูปกันอย่างสนุกสนานอีกด้วย ระหว่างทางที่ขึ้นรถกลับ มิเร ที่ดูจะกังวลใจกับเรื่องๆต่างๆมากมายจึงบ่นให้ฮารูกะฟังซึ่งฮารูกะเองก็ให้กำลังใจตอบกลับไปจน มิเร รู้สึกสบายใจขึ้นอย่างมาก มิเร พูดถึงบันทึกของเธอที่เธอเขียนเอาไว้และสักวันจะให้ฮารูกะได้อ่าน ก่อนที่จะมอบปากกาให้เป็นขงขวัญในวันที่ฮารูกะชนะการแข่งขัน ทำเอาฮารูกะแปลกใจอย่างมาก ฮารูกะเท่านั้นที่รู้ถึงความรู้สึกของมิเร ว่าเป็นคนดีแต่แสดงออกมาแบบขวานผ่าซากทำให้คนอื่นคิดว่าเธอเป็นคนใจร้ายกันไปต่างๆนานา ซึ่งไม่ว่ามิเรจะเป็นยังไงในสายตาคนอื่น แต่สำหรับฮารูกะ คืนนี้ที่ได้จับมือเดินเลนซื้อของอย่างมีความสุขกับมิเรนั้น มิเร ก็เสมือนเป็นแม่คนที่สองของเธอแล้ว  หลังจากส่งฮารูกะที่ห้องพัก มิเรก็นั่งรถกลับไปพร้อมใบหน้าที่ซึมเศร้า ซึ่งก็บังเอิญที่ฮารูกะก็ไม่ทันสังเกตเห็นเสียด้วย ..

ตอนเช้าฮารูกะต้องตกใจตื่นเพราะเสียงโทรศัพท์ที่ดังขึ้นมาแต่เช้า ผู้จัดการฮิโรชิโทรมาบอกถึงข่าวร้ายว่าเขามาเจอ มิเร นอนบาดเจ็บอยู่ที่ข้างบริษัทให้ฮารูกะรีบมาดูโดยด่วน เมื่อฮารูกะเดินมาถึงบริษัทไดน่าแชร์จะพบตำรวจเข้ามาตรวจสอบมากมาย ถึงแม้จะไม่ได้รับอนุญาตให้เขาไปในที่เกิดเหตุแต่ ฮารูกะก็ไม่สนเธอวิ่งหลบเข้าไปในตึกจนได้ เธอรีบเข้าไปสอบถามกับผู้จัดการด้านใน ก็จะรู้เรื่องราวจากตำรวจที่เข้ามาทำคดีว่า มิเร เธอตกลงมาจากชั้นดาดฟ้า อาจด้วยอุบัติเหตุหรืออะไรต้องรอการตรวจสอบอีกครั้งนึง ฮารูกะรีบวิ่งไปดูที่เกิดเหตุ ซึ่งก็ทำเอา

หัวใจเธอก็สลายเมื่อเจอภาพศพของ มิเร ที่ถูกตำรวจนำใส่แปลออกไปต่อหน้าต่อตา เหลือทิ้งไว้แค่ เข็มกลัดที่ฮารูกะให้ไว้ที่ตกอยู่เท่านั้นเอง ….

… ในขณะที่ อากิยาม่า ชุน กำลังเดินกลับจากซื้อของ เขาจามเสียงดังลั่นไม่รู้ว่าด้วยความหนาวแหน็บของโอซาก้า หรือ เพราะเรื่องร้ายๆที่กำลังมาเยือนตัวเขากันแน่ ….

บทที่ 3 第三章 接近

 

 

อากิยาม่า ชุน เจ้าของบริษัทปล่อยเงินกู้ สกายไฟแนนซ์ แห่งคามูโรโจว ที่เคยหมดตัวในตอนเกิดเรื่องในคดีเงินร้อนล้านที่สูญหายไปในภาค 4 ซึ่งตอนนี้เขาเสียเงินไปเกือบร้ยล้านและธุระกิจที่คามูโร่โจวก็อยู่แทบไม่ไหวจึงตัดสินใจย้ายมาทำมาหากินที่ เมือง โชเต็นโบริ ในโอซาก้านี้ โดยทำธุระกิจให้เงินทุนกับบริษัทบันเทิงต่างๆที่มีมากมายในโอซาก้า ทำให้เขาค่อนข้างกว้างขวางและรู้เบื้องลึกในวงการบันเทิงที่มีการแข่งขันกันสูงเป็นอย่างดี แต่ไม่ได้มีคนชอบกันทุกคน เมื่อกลับมาถึง ที่บริษัทของเขาที่เพิ่งจะย้ายเข้ามาที่นี่ได้แค่ 2 วัน ยังไม่ได้ทันได้จัดข้าวของ พวกยากูซ่าของกลุ่มเจ้าหนีเก่าก็ตามาทวงถึงที่นี่ จึงเกิดการต่อสู้ขึ้น

 การต่อสู้ใน Style อากิยาม่า ชุน นั้นเป็นการต่อสู้โดยใช้การเตะเป็นหลักที่ทั้งรุนแรงและรวดเร็วกว่าตัวละครทุกตัวแม้แต่ คิริว เองก็ช้ากว่าเขา ทำให้เกท Heat ขึ้นง่ายมากๆ ส่งผมให้ใช้ท่าต่อเนื่องได้อย่างตลอด เป็นตัวละครที่ใช้ง่ายที่สุด ถึงแม้เขาจะไม่ใช่ยากูซ่าเป็นแค่พ่อค้านักธุรกิจแต่ก็อัดยากูซ่ากระเด็นมานักต่อนักแล้ว … 

หลังจากจัดการพวกทวงหนี้เสร็จ ฮานะเลขาอ้วนจอมยุ่งก็โทรมาบอกถึงข่าวฆาตกรรมที่บริษัท ไดน่าแชร์ ซึ่งบังเอิญที่ชุนเองก็เคยปล่อยเงินกู้ให้บริษัทนี้ด้วย และบังเอิญขึ้นไปอีกเมื่อ ชุน เคยมีสัมพันธ์เล็กๆน้อยๆกับ มิเร มาระยะนึงอีกด้วย ชุนจึงรีบเดินทางไปที่บริษัทไดน่าแชร์ทันที เขาเข้าไปคุยกับ ฮิโรชิ แต่เขาจะบอกว่าไม่รู้เรื่องอะไรมากต้องไปถามนักเต้นในสังกัดที่เพิ่งไปเที่ยวกับมิเรมาเมื่อคืน ชุนจึงขึ้นไปชั้นบนเพื่อจะสอบถามนักเต้นคนนึงที่กำลังนั่งเศร้าอยู่ในห้องซ้อม แต่ก็ต้องตกใจว่าเป็น ฮารูกะ เอง ซึ่งฮารูกะเองก็ตกใจเช่นกันที่พบ ชุนที่นี่ด้วย หลังจากที่ทั้งคู่เล่าความเป็นมาเป็นไปกันหมดแล้ว ฮารูกะจะขอร้องให้ชุนช่วยสืบความจริงให้เพราะเธอเชื่อว่า มิเร ไม่ได้ตกลงมาตายเองแน่นอน ชุนเองก็รู้ว่าฮารูกะกำลังจะเข้าแข่งขัน Princess League จึงอยากให้ฮารูกะไปซ้อมให้เต็มที่เพื่อเอาชัยชนะมาฝากมิเรที่ตายไปด้วย ส่วนเขาจะลองสืบหาความจริงเกี่ยวกับเรื่องนี้เอง

The Show must go on .ทางด้าน ฮารูกะ ก็ต้องสู้ต่อเธอยังคงเดินหน้าโปรโมทตามที่ต่างๆรวมทั้งซ้อมอย่างหนักเหมือนทุกๆวัน เมื่อซ้อมและทำเควสยอ่อยต่างๆจนพอใจแล้วก้กลับห้องเพื่อพักผ่อนได้เลย จากนั้นฮารูกะจะโทรเรียกชุนให้มาพบหน้าบริษัทในตอนกลางคืนเพื่อช่วยกันหาเบาะแสเพิ่มเติมต่อ

ด้าน อากิยาม่า ชุน หลังจากได้รับโทรศัพท์จากฮารูกะที่เรียกออกไปหาก็ออกไปที่หน้าบริษัทไดน่าแชร์ทันที ระหว่างออกจากห้องมาตามทางจะพบชายใส่ชุดทหารครึ่งท่อนนนสลบอยู่ จึงช่วยขึ้นมาจะพบว่าเขาชื่อ ไซโง ไดจิโร่ ที่เป็นครูฝึกพิเศษนั้นเอง ซึ่งทุกครั้งที่ผ่านการทดสอบของเขาก็จะได้ท่าการต่อสู้ใหม่ๆมาใช้อีกด้วย ที่หน้าบริษัทจะพบฮารูกะรออยู่ ทั้งคู่จะเข้าไปหาเบาะแสเพิ่มในห้องทำงานของมิเร ซึ่งหลังจากสำรวจดูแล้ว ชุน จะแปลกใจกับเซฟในห้องที่มีลูกกุญแจแบบแปลกเหมือนจะใช้กุญแจที่เป็นรุปร่างแท่งๆแทนกุญแจแบบปกติ ฮารูกะจึงนึกขึ้นได้เลยเอาปากกาที่มิเรให้มาลองให้ชุนไขดู ปรากฏว่าสามารถเปิดได้จริงๆ ด้านในเซฟจะพบบันทึกของมิเร ที่บอกถึงความเกี่ยวโยงกับบริษัท Osaka Geinou อยู่ด้วย แต่ฮารูกะก็ยังไม่ยอมเปิดซองดูบันทึกที่มืเรเคยให้เธอดูเลยแม้แต่นิดเดียว ในขณะนั้นชุนจะได้เสียงดีงขึ้นจึงรีบออกไปดูด้านนอกจะพบ ผู้จัดการ ฮิโรชิ ตกลงไปด้านล่างอีกคนแล้ว ชุนจึงรีบลงไปตามจับคนร้ายทันที หลังจากโดดจับจนได้ก็จะพบว่าเป็น โอคิตะ  ครูฝึกสอนการเต้นที่ถูกไล้ออกไปนั่นเอง มันพยายามปฏิเสธว่าไม่รู้เรื่องแต่ในมือก็ควักมีดออกมาสู้กับ ชุน หลังจากชุนอัดมันจนหมอบแล้ว ในขณะที่เขากำลังแจ้งตำรวจ ชายร่างใหญ่ก็ออกมาเอาปืนจ่อเพื่อไม่ให้ชุนโทรแจ้งความ

ทำให้ชุนต้องเข้าไปสู้กับมันต่อ หลังจากพยายามสู้อย่างเต็มที่แล้วแต่ดูเหมือนจะทำอะไรมันไม่ได้เลย มันจึงรีบพา โอคิตะ หนีไป แต่ชุนก็ได้ยินชื่อที่โอคิตะเรียกชายร่างใหญ่คนนั้นออกมาตอนกำลังหนีว่า “ Kamon Kanai “

บทที่ 4 第四章 夢のまた夢

อากิยาม่า เอาเรื่องทั้งหมดไปปรึกษาตำรวจที่ดูแลคดีนี้ จนฮารูกะเข้ามาบอกว่าอากาของผู้จัดการ ฮิโรชิ ปลอดภัยดีแล้ว ** จากนี้จะสามารถสลับตัวละครที่ใช้เดินเรื่องได้แล้ว ด้วยการคุยกับอากิยาม่าที่ห้องหรือตามห้องเซฟต่างๆ **

ทางด้าน ฮารูกะ …เข้าไปที่บริษัทคุยกับ ยามาระ รองประธานคนเดียวที่เหลืออยู่ตอนนี้เพื่อพาเดินทางไปเข้าแข่งขัน Princess League รอบที่ 2 ต่อทันที เมื่อมาถึงสตูดิโอถ่ายทำรายการก็จะพบทั้ง 2 สาว T – Set และ นาไก ผู้จัดการของเธอมาดูถูกอีกเหมือนเดิม แต่ฮารูกะ ไม่เคยตอบโต้เพราะสมาธิเธอพุ่งไปที่เรื่องการแข่งขันอย่างเดียว การต่อสู้กับ 2 สาว T – Set ในรอบที่ 2 ผลออกมาที่ ฮารูกะ ชนะอย่างท่วมท้นเหมือนครั้งแรก สร้างความเจ็บใจให้ทีมของ T – Set อย่างมาก หลังจากแข่งเสร็จไปหาอากิยาม่าที่บริษัทไดน่าแชร์ ทั้งหมดจะคุยกันถึงเรื่องที่ชุนสืบมาได้ให้ ยามาระ ฟัง ซึ่งเธอจะตกใจมากที่  โอคิตะ ไปเกี่ยวของด้วย จากนั้นสายของชุนจะโทรมาบอกให้ไปที่บาร์คริสตัล ชุนจึงรีบออกจากห้องไปทันที ..

อากิยาม่า ชุน ..เดินทางมาที่บาร์ คริสตัล เพื่อถามหาตัว เน็นเบ็น ชายที่รอบรู้ทุกเรื่องในวงการบันเทิงที่เหมือนเป็นตำนานล่องหนอยู่ แต่เจ้าของบาร์จะบอกว่าจะนัดให้พบอีกทีทำให้ชุนต้องกลับออกมาก่อน ตอนนี้จะยังไม่มีจุดหมายขึ้นมาให้ในแผนที่ เข้าไปทำเควสย่อยรูป ? ตรงหน้าบริษัทไดน่าแชร์ เพื่อวิ่งตามจับพวกนักข่าว 3 คนที่ลอบเข้ามาแอบถ่ายรูป เมื่อจบเควสเจ้าของบาร์ถึงจะโทรนัดให้ไปหาที่ลานกว้างด้านซ้ายของเมือง แต่เมื่อไปแล้วจะพบเจ้าของบาร์ยกพวกมามากมาย จน ชุน ต้องอัดพวกมันจนหมอบมันถึงจะยอมพาไปหา เน็นเบ็น ชุน จึงโทรตามฮารูกะมาร่วมรับฟังข้อมูลด้วยทันที

ทางด้าน ฮารูกะ..เดินทางมาที่บาร์คริสตัลตามที่ชุนโทรมาตาม เจ้าของบาร์จะพาเข้าไปพบ เน็นเบ็น ซึ่งจริงๆก็อยู่ในห้องลับหลังบาร์นั่นเอง เน็นเบ็น นักข่าว ปาปารัซซี่ในตำนาน ด้านมืดในวงการบันเทิง ไม่มีอะไรที่รอดสายตาเขาไปได้แม้ไฝในบางส่วนของพวกดาราสาวๆ เขาให้ข่าวมาว่า เรื่องการฆาตกรรม มิเร นั้นคนที่น่าเกี่ยวของที่สุดก็ไม่พ้น คนของบริษัท Osaka geinou ที่เคยขัดแย้งเรื่องผลประโยชน์กันมาตลอดนั่นแหละ  หลังคุยจบ ชุนจะแยกตัวกลับไป ก่อนที่ยามาระจะโทรมาบอกให้ฮารูกะรีบกลับไปพักผ่อนก่อนจะลงแข่งรอบชิงในวันพรุ่งนี้ ..

ทางด้าน อากิยาม่า ชุน ..ออกจากห้องไปที่รถแท็กซี่ (เลือกบรรทัดสุดท้าย)  เพื่อเดินทางไปยัง บริษัท Osaka geinou ชุนจะเข้าไปพบกับประธานบริษัท  Osaka geinou นาโอกิ คัทซึยะ ผู้ทรงอธิพลด้านบริษัทบันเทิงที่มีเพียบพร้อมทั้งเงินทุนและกำลังคนมากมาย ซึ่งเขาพยายามดึงตัวไอดอลที่มีฝีมือทั้งหมดมาอยู่กับบริษัทของเขา ชุนพยายามถามถึงเรื่องการตายของมิเร ว่า คัทซึยะ รู้อะไรบ้าง แต่มันก็ได้แค่เซ็นเช็คเงินสดให้ไปเพื่อช่วยเหลืองานศพเท่านั้น ทำให้ชุนถึงกับโมโห เขาไม่ยอมรับเงินและบอกว่าเขาจะติดตามเรื่องนี้ให้ถึงที่สุดด้วย ดูเหมือน ชุน จะเปิดสงครามกับกลุ่มบริษัท Osaka geinou แบบตรงไปตรงไปซะแล้ว …

ทางด้าน ฮารูกะ..เข้าไปที่บริษัทไดน่าแชร์เพื่อซ้อมใหญ่ครั้งสุดท้ายกับ Christine และ ยามาระ เพื่อเตรียมเข้าแข่งรอบชิง เมื่อซ้อมเสร็จแล้ว สำรวจบอร์ดรับงานเลือกเข้าแข่ง Princess League รอบ สุดท้าย ได้เลย ฮารูกะขึ้นเวทีด้วยความมั่นใจเต็มร้อย นอกจากเพื่อตัวเธอเองแล้วทั้งหมดยังเพื่อ มิเร ที่เปรียบเสมือนแม่คนที่ 2 ของเธออีกด้วย การแข่งขันระหว่าง T – Set และ ฮารูกะ เป็นไปด้วยความดุเดือด แต่ด้วยชื่อเสียงความดี และชุดสวยๆที่มิเรซื้อให้ก่อนตาย คะแนนก็เทไปที่ฮารูกะไปตั้งแต่ก่อนจะเต้นแล้ว ผลการต่อสู้ .. Princess League 2012 ได้แก่ ซาวามูระ ฮารูกะ พิธีกรประกาสผลออกมา ท่ามกลางเสียงโห่ร้องยินดีของแฟนๆเพลง แต่ฮารูกะกลับพูดอะไรไม่ออกได้แต่รองไห้ออกมาด้วยความดีใจ .. หลังจบการแข่งขัน 2 สาว T – Set จะมาชื่นชมด้วย ฮารูกะเองก็ขอบคุณกลุ่ม T – Set ที่สู้อย่างสมศักดิ์ศรี จนทำให้ทั้ง T – Set และ ฮารูกะ ต่างก็หัวเราะออกมา แม้ นาไก ผู้ขัดการของ T – Set ที่แอบฟังอยู่ก็อดยิ้มไปด้วยไม่ได้ …

 ..ที่ห้องพักของ อากิยาม่า ชุน  ตำรวจนักสืบ เซริซาว่า เข้ามาขอพบ เพื่อสอบถามเรื่องคดีของ มาจิม่า ในฐานะที่ชุนเคยเกี่ยวของมาด้วย และดูเหมือนคดีของมาจิม่าจะเชื่อมโยงไปถึงชายชื่อ โอคิตะ อีกด้วย หลังจาก เซริซาว่า กลับออกไปแล้ว กลุ่มยากูซ่าก็เข้ามาทวงหนี้อีกครั้ง ทำให้ชุนต้องซัดพวกมันลงไปหมอบกันอีกรอบก่อนจะบอกว่าถ้ามีจะไปให้เอง ถ้ามาอีกครั้งคราวหน้าเอาตายแน่ จากนั้น ออกจากห้องไปที่รถแท็กซี่ (เลือกบรรทัดสุดท้าย)  เพื่อเดินทางไปยัง สุสานรถเก่าที่เป็นรังของพวกของ Kamon Kanai ที่ชุนไปสืบได้มา พอเข้ามาพวกคนงานก็เข้ามาต้อนรับมากมาย ลุยเข้าไปด้านในจนถึงอาคารสุดทางจะพบ โอคิตะ โดนตัดแขนนอนบาดเจ็บอยู่ มันขอร้องให้ชุนช่วยเพราะมันถูกพวกยากูซ่าบังคับให้ทำ ซึ่งชุนเองไม่ยอมยกโทษให้มันที่ทำกับมิเรแน่นอน จากนั้นเข้าไปในโกดังลุยเข้าไปด้านในจนพบกับ Kamon Kanai ที่ออกมาบอกความจริงว่าเป้าหมายที่แท้จริงก็คือ ซาวามูระ ฮารูกะ ต่างหากก่อนที่มันจะหนีไปแล้วส่งลูกน้องมากมายมารุม ชุน  หลังจากจัดการพวกมัยจนหมดแล้วชุนจะรีบโทรไปหา ฮารูกะ ทันที แต่ก็สายไปเสียแล้ว ยามาระ บอกว่า ฮารูกะ ถูกกลุ่มชายแปลกหน้ามาจับตัวไปแล้ว ทำให้ ชุน เจ็บใจและเป็นห่วงฮารูกะเป็นอย่างมาก

ฮารูกะถูกกลุ่มยากูว่าจับตัวไปในขณะที่ คาม่อน ตามมาที่หลังจากที่ต้านชุนเอาไว้ที่โกดังร้าง และการเข้ามาของ นาโอกิ คัทซึยะ ประธานบริษัท  Osaka geinou ที่ออกมาเปิดตัวว่าอยู่เบื้องหลังเหตุการ์ณทั้งหมด ฮารูกะมองด้วยความแค้นถึงชายที่สั่งฆ่ามิเร ซึ่งฮารูกะเธออาจจะนึกในใจเล่นๆก็เป็นได้ว่า ใครที่จับตัวเธอเป็นตัวประกันส่วนใหญ่จะเป็นคนที่ไม่รักชีวิตตัวเองแล้วแน่นอน ….

ชุน อากิยาม่า ..เรียกเดินทางไปยังบริษัทไดน่าแชร์เพื่อคุยกับคริสติน่า และยามาระ ถึงเรื่องการหาทางไปช่วยฮารูกะ ขณะนั่นเอง คัทซึยะ ประธาร Osaka Geinou ก็เข้ามาพร้อมกับอุ้มฮารูกะเข้ามาด้วย ทำเอาทุกคนต่างก็งงในพฤติกรรมของมัน คัทซึยะ จะบอกกับชุนว่าพวก คาม่อน ลูกน้องของเขาถูกว่าจ้างให้ทำแบบนั้นโดยคนเองไม่ได้รับรู้ล่วงหน้า โดนคนที่จ้างกลุ่มยากูซ่านั้นก็คือ มาจิม่า โกโร่ นั่นเอง แถมมันยังบอกอีกว่า ที่มิเรถูกฆ่านั้นเพราะไปรู้เห็นความลับบางอย่างเรื่องธุระกิจของ มาจิม่า และ ที่มันสั่งให้จับตัวฮารูกะไปก็เพื่อล่อให้ คาซึมะ คิริว ออกมาแต่ด้วยเหตุผลอะไรนั้นมันไม่อาจรู้ได้ ในขณะที่ชุนฟังแล้วก็นิ่งเงียบ สำหรับเขาการพูดจาของโจรในคราบนักธุระกิจที่ใช้วงการบังเทิงบังหน้าอย่าง คัทซึยะ ไม่ได้ทำให้เขาเชื่อเลยซักนิดเดียว แต่ที่กำลังห่วงคือฮารูกะ หลังจากคัทซึยะส่งฮารูกะเสร็จแล้ว ชุนจะรีบเข้าไปดูอาการเธอทันที จนทุกอย่างปลอดภัยแล้วชุนจึงมาปรึกษากับ คริสติน่า และ ยามาระ นอกห้อง ..ในขณะที่ ฮารูกะ ก็รุ้สึกตัวขึ้นมาจากเสียงโทรศัพท์ของเธอ เมื่อรับสายปรากฏว่าเป็น คัทซึยะ ที่โทรเข้ามา มันคุยกับฮารูกะเพื่อบอกเธอถึงเรื่องเหตุผลที่เธอถูก มาจิม่าสั่งให่จับตัวไปเพราะความลับบางอย่างในบันทึกของมิเร และ ต้องการจะดึงเอาคิริวให้ออกมาเคลื่อนไหวนั่นเอง และตอนนี้ มาจิม่ากำลังอยู่ที่โตเกียว ฮารูกะไม่ได้คิดซักนิดว่า ทำไมคัทซึยะถึงมาบอกเรื่องนี้กับเธอ แต่หลังจากฟื้นขึ้นไปแล้วเธอจึงให้ยามาระใช้ปากกาที่มิเรให้เธอไปเปิดเซฟเอาบันทึกของมิเรที่ให้เธอมา แต่ฮารูกะกลับไปขอตัวไปอ่านจดหมายที่บ้านยอมเปิดอ่านพร้อมๆกับทุกคน ก่อนที่เธอจะรบออกจากบริษัทไปทันที

 

ชุน รู้สึกแปลกกับเรื่องที่เกิดขึ้นทั้งหมดโดยเฉพาะพฤติกรรมแปลกๆของฮารูกะเขาจึงรีบตามเธอไปทันที ..ทางด้านฮารูกะเธอไม่อยากให้ทุกคนลำบากถ้าจดหมายของมิเรยังอยู่ที่นี่ เธอจึงตัดสินใจมาขึ้นรถไฟเพื่อเดินทางไปหามาจิม่าที่โตเกียวเพื่อถามเรื่องทั้งหมดด้วยตัวเเอง แต่ขณะที่กำลังขึ้นรถไฟก็จะพบกับพวกของ คาม่อน ที่นำลูกน้องเข้ามาล้อมฮารูกะเอาไว้เพื่อจะแย่งเอาจดหมายมา ขณะนั้นโชคดีที่ ชุน  ตามมาทัน การต่อสู้จึงเกิดขึ้น ชุนต้องจัดการกับ คาม่อน และลูกน้องของมันมากมาย โดยเน้นไปที่จัดการ คาม่อน ให้ได้ก็พอ เมื่อจัดการพวกมันได้แล้ว ชุน จะเข้าไปเอาจดหมายกลับคืนมาได้โดยพวกมันยังไม่ทันได้แกะอ่าน ชุนชวนฮารูกะนั่งแท็กซี่ไปที่โตเกียวต่อเพื่อความปลอดภัย

..ขณะที่ทาง คาม่อน ก็กลับไปรายงานความผิดพลาดกับประธาน คัทซึยะ นายของมัน ซึ่ง คัทซึยะ เองก็ไม่ได้ว่าอะไร แถมยังจุดบุหรี่ให้คาม่อนสูบอีกด้วย ก่อนจะแสดงออกให้เห็นถูกความโหดเหี้ยมของมันด้วยการจับ คาม่อน ล็อคแล้วเอาบุหรี่จี้ตามันเพื่อเป็นการลงโทษที่ทำงานพลาด

..ในรถขณะเดินทาง ฮารูกะ มีโอกาศได้เกิดจดหมายที่มิเรฝากเอาไว้ซักที ในข้อความในจดหมายระบุสถานที่ที่ให้ไปพบโดยลงท้ายชื่อคนส่งว่า  “ มาจิม่า โกโร่ “ …….

                                            Chapter 4  第四部・品田辰雄

                                           

บทที่ 1 第一章 捨てた栄光

 

ในการแข่งขันเบสบอลในแมชท์ชิงแชมป์ที่ Tokyo Dome ที่กำลังตัดสินแพ้ชนะด้วยฝีมือของ ทัตซึโอะ ชินาดะ ดาวเด่นของทีม Nagoya Wyverns กับ สุดยอด pitcher จากทีมโตเกียว ยูกิ ซาวาดะ เมื่อบอลลูกสุดท้ายที่ต้องตัดสิน ซาวาดะ ส่งสัญาณบางอย่างออกไปให้ ชิมาดะก่อนขว้างเต็มแรงในขณะที่ ชินาดะ ไม่สนอะไรทั้งนั้นนอกจากหวดสุดแรงเกิดจนบอล โฮมรัน ในที่สุด ทัตซึโอะดีใจสุดๆในขณะวิ่งผ่านโฮมต่างๆก่อนได้ชัยชนะ ในขณะที่ ซาวาดะคู่แข่งก็ได้แต่ก้มหน้ายอมรับความผ่ายแพ้ ในสนามดังระงมไปด้วยเสียงโฮ่ร้องกึกก้องดีใจของคนดู ..จนทุกอย่างแทนที่ด้วยเสียงเคาะประตูอย่างหนักจน ทัตซึโอะ ต้องตื่นจากความฝัน จากเหตุการ์ณเมื่อ 15 ปีก่อน …

 

เมือง Kineicho , Nagoya

 

ลุงหมอ อุโนะอดีตแพทย์ประจำทีม ทีม Nagoya Wyverns เคาะประตูแบบถวายชีวิตเพื่อให้คนขี้เกียจอย่าง ทัตซึโอะ ลุกจากที่นอนไปทำงานเหมือนคนอื่นๆเขาเพื่อจะได้มีเงินพอใช้หนี้ที่ยืมไปบ้าง …. ใช่แล้วครับ ทัตซึโอะ ชินาดะ คนเดียวกับ พิชเชอร์ฝีมือดีของทีม นาโงย่า นั่นแหละ แต่จนแล้วจนรอดก็ไม่ทำให้ ทัตซึโอะ ลุกจากที่นอนได้ง่ายเหมือนทุกๆวันนั่นแหละ จนคุณ โคอิชิ ทาคาซูกิ มาถึงที่หน้าประตู ทำให้ลุง อูโนะ ต้องถึงกับหนีไปเลย ทาคาซูกิ ไขประตูเข้ามาอย่าง่ายดายพอกับที่จะปลุกเจ้า  ทัตซึโอะ ลุกจากที่นอนได้นั่นแหละ คงอาจเป็นเพราะเจ้าหนี้ เจ้านาย อย่างคุณ ทาคาซูกิ นั่นแหละที่ ทัตซึโอะ พร้อมจะทำตามอย่างไม่มีเงื่อนไข คุณ ทาคาซูกิ รีบไล่ ทัตซึโอะ ให้ไปทำงานที่ได้รับมอบหมายให้ได้แล้ว ไม่งั้นจะโดนดี (ที่ทัตซึโอะยำเกรงนั้น ไม่แน่ใจเพราะความเป็นเจ้าหนี้ของ ทาคาซูกิ หรือ พฤติกรรมเบี่ยงเบนของเขากันแน่ก็ไม่ทราบได้ ..) ทัตซึโอะ นั้นมีประวัติไม่ดีที่ทุกคนเชื่อกันว่าเขาล้มบอลในรายการแข่งเบสบอลจนทำให้ถูกตัดสินห้ามยุ่งเกี่ยวกับเบสบอลตลอดชีวิต ทำให้ตลอด 15 ปีที่ผ่านมา ทัตซึโอะ ต้องลำบากและยอมทำงานรับจ้างทุกอย่างเท่าที่จะหาได้โดยไม่เคยเกี่ยงเลยว่าเป็นงานอะไร แต่งานที่เขาทำหลักๆคือกาทวงหนี้ และด้วยความที่เขาเป็นคนจิตใจดีจึงยอมที่จะให้ลูกหนี้จ่ายหนี้แบบมีเท่าไหร์ให้เท่านั้นไปซะทุกครั้ง ระหว่างทางที่เดินไปที่คลับก็เจอลูกหนี้มากมายที่ขอผัดผ่อนไปก่อนซึ่งชิมาดะก็ยอมให้ แม้กระทั้งป้าแก่ๆคนนึงจ่ายหนี้เป็นยาชูกำลัง ชิมาดะเองก็ยอมที่จะรับมา (ใจดีซะจริง)

เมื่อเดินทางมาถึงคลับ ชิมาดะจะเข้าไปตามหา มิรูกุ แต่ยังไม่พบ จากนั้นไปที่ตึกต่อไปเพื่อทวงหนี้กับพวกร.ป.ภ แต่ก็เกิดมีปากเสียงขึ้นมาจนเกิดการต่อสู้ขึ้น ฝีมือของชิมาดะเองก็มีไม่น้อย เขาอาจจะไม่ช่ำชองการต่อสู้แบบนักเลงโต แต่ก็มีกำลังแขนที่มากกว่าคนทั่วไปมากนัก และจะหนักขึ้นเมื่อเขาถืออาวุธเข้าต่อสู้ ซึ่งทำให้ชิมาดะพิเศษกว่าตัวละครอื่นตรงที่มีกระบองที่ไม่มีวันหักติดตัวด้วย ซึ่งทำให้เขาได้เปรียบคู่ต่อสู้อย่างมาก เพื่อทดแทนการสู้แบบมือเปล่าของเขาที่ไม่ค่อยได้เรื่องอะไรมาก หลังจากจัดการพวก ร.ป.ภ จนหมอบแล้ว หัวหน้าของ ร.ป.ภ จะออกมาและนำตัว โทริยาม่า คนที่ติดหนี้ที่หลบอยู่ออกมา ซึ่งเขาเองก็ไม่มีอะไรจะจ่ายให้นอกจากไม้เบสบอลเก่าของทีม Nagoya Wyverns ที่เขาเก็บรักษาไว้อย่างดี ซึ่งชิมาดะเองก็ตกลงที่จะรับไม้เบสบอลนั้นแทนเงินเช่นเดิม ทำให้โทริยาม่าดีใจมากๆ แต่หัวหน้า ร.ป.ภ กลับถูกเจ้าของตึกไล่ออกแทน จากนั้นกลับไปที่คลับก็จะพบ มิรูกุจังซึ่ง ชิมาดะก็เริ่มงานถ่ายรูปโป๊เพื่อนำไปโปรโมททันที แต่ชิมาดะเองก็ชม มิรูกุ ตลอดว่ายังสวยอยู่ ทำให้มิรูกุดีใจและหอมไปหนึ่งฟอด นั่นเป็นนิสัยที่ดีอย่างหนึ่งของชิมาดะคือปากหวานและจริงใจ

 

เสร็จงานแล้วระหว่างทางกลับบ้านก้ดันเจอลุงหมออูโนะจนได้ แกก็แบมือทวงเงินทันทีเหมือนกัน เมื่อไม่มีเงินจ่ายชิมาดะก็ต้องไปทำงานกับลุงเพื่อขัดดอกเอา จนสุดท้ายก็เหลืองเงินค่าจ้างไม่กี่เยน แต่เงินไม่กี่เยนนั้น ก็ถูกทาคาซูกิ ที่ตามกลิ่นเงินมา เอาไปจนหมดเพื่อใช้หนี้ในส่วนของเขา ในขณะที่เงินที่เหลือแค่ 217 เยนนั้นไม่พอซื้อข้าวกินแน่ๆ ชิมาดะก็เหลือบไปเห็นประกาศชิงรางวัลที่สนามซ้อมเบสบอลจึงคิดขึ้นได้ว่าน่าจะลองไปหาเงินค่าข้าวที่นั่นดู

[ ระหว่างทางจะมีโทรศัพทจากลูกค้าของมิกูรุจังโทรมาเลือกตอบ บรรทัดแรก (ชื่อคลับ) และ บรรทัดที่ 2 (ชื่อมิกูรุ) ก็เป็นอันจบ ]  

แถมระหว่างทางก็ดันเจอนักเลงมาไถ่เงินอีก ชิมาดะคงไม่ยอมเสียเงินอีกแน่จึงเข้าไปสู้กับพวกมันจนหมอบแต่ก็ทำให้ได้เงินมาอีกจนครบ 300 เยนพอดีกับค่าผ่านประตูเข้าซ้อมเบสบอลพอดี เมื่อเข้ามาในสนามซ้อมเบสบอลแล้วก็ทำการเข้าตีลูกได้เลย

การตีเบสบอล

เป้าในการตีเบสบอลนั้นจะแบ่งออกเป็น 4 กรอบ บน ล่าง ซ้าย ขวา และแต่ละกรอบก็จะมีปุ่มต่างๆกำหนดอยู่ โดยต้องรอจังหวะให้ลูกที่ขว้างมากำลังจะถึงจะมีแสงค่อยๆเข้ามา เมื่อถึงพอดีแล้วจะเป็นแสงกระพริบโดยต้องดูว่าแสงกระพริบที่กรอบไหนก้ให้กดปุ่มให้ตรงกับกรอบนั้นๆก็จะเป็นการตีลูกในแบบ โฮมรัน ได้ แต่ถ้าตีในขณะที่แสงไม่ได้กระพริบก็จะเป็นแบบตีธรรมาดา แต่ถ้าแสงที่เข้ามาที่กรอบเป้าหมายไปแล้วถึงตีก็จะเป็นลูกฟาลว์ไปทันที ( ซึ่งจริงๆแล้วกรอบเป้าทั้ง 4 นั้นสามารถขยับเลื่อนไปมา เพื่อเข้าหาลูกที่พุ่งเข้ามาได้ แต่จากประสบการ์ณของผมแล้ว ให้เป้าอยู่นิ่งๆและรอให้ลูกเข้ามาหาจะตีได้ง่ายกว่ามาก ) ซึ่งผู้เล่นจำเป็นต้องตีให้ชำนาญและคุ้นเคยกับมันให้มากที่สุดเพราะการตีเบสบอลเป็น Another Story ของชิมาดะเลย

เมื่อตีจนได้โฮมรันจนได้แล้ว ชิมาดะจะรีบไปขึ้นเงินกับป้าเจ้าของร้านทันที แต่..ป้าจะบอกว่าเงินรางวัลของการตีโฮมรันเป็นตั๋วเข้าชมเบสบอลที่โตเกียวโดม …ไม่ได้เงินมากินข้าวอยู่ดี แต่สุดท้าย ทาคาซูกิ ที่ตามกลิ่นเงินมาก็มาเก็บตั๋วไปขัดดอกอีกตามเคย กรรมเวรของ ชิมาดะ แท้ๆ …แต่ขณะที่อยู่นอกถนน Humiya Ushijima เพื่อนเก่าที่เคยร่วมทีม

Nagoya Wyverns กันมาก็โทรมาตามให้ชิมาดะไปกินข้าวที่ร้านที่เขาเป็นพ่อครัวอยู่ ชิมาดะจึงรีบไปที่ร้านของ Ushijima ทันที แต่ก็ถูกเพื่อนกวนประสาทล้อเลียนอยู่นานกว่าจะได้กิน แต่แล้วก็มีคนมาตามให้ไปหานร้านก็จะพบหัวหน้า ร.ป.ภ ที่ถูกไล่ออกเพราะชิมาดะเมื่อตอนเช้ามาแก้แค้น ชิมาดะจึงต้องจัดการมันซะ สรุปแล้ววันนี้ไม่ได้กินข้าวแน่แล้ว ชิมาดะจึงกลับห้องพักดีกว่า  

….  ระหว่างเข้าไปในซอยที่ห้องพักชิมาดะจะพบชายที่สวมหน้ากากคนนึง นำเงินมาเสนอให้เขา 200 ล้านแลกกับการที่เขายอมให้ข้อมูลเกี่ยวกับการล้มบอลของ ทีม Nagoya Wyverns เมื่อ 15 ปีก่อนว่าใครเป็นต้นเหตุของการพนันล้มบอลที่อื้ฉาวในครั้งนั้น ชิมาดะโมโหขึ้นมาทันทีเพราะคิดว่าชายที่สวมหน้ากากพยายามจะพูดจากวบโมโหถึงเรื่องในอดีตของเขาที่ไม่อยากนึกถึง แต่ชิมาดะก็ต้องหยุดชะวักด้วยความสนใจเมื่อ รางวัลที่ได้นอกจากเงินแล้วยังได้กลับคืนสู่วงการเบสบอลอีกครั้งด้วย …

บทที่ 2 第二章 過去への挑戦

เช้าวันต่อมา ชิมาดะ ถึงกับนอนไม่หลับทั้งคืนเพราะข้อเสนอที่เขาได้รับมาจากชายลึกลับคนนึง จนชายสวมหน้ากากเข้ามาหาถึงห้องอีกครั้ง เขามายื่นข้อเสนอเหมือนเดิมที่บอกไปเมื่อคืน 200 ล้านเยนแลกกับข้อมูลของตัวการของการล้มบอลของทีม Nagoya Wyverns แต่ชิมาดะกลับปฏิเสธไปเพราะตอนนั้นนอกจากเขาไม่รู้ว่าใครเป็นคนรัยเงินค่าล้มบอลมาเท่านั้น เขาเองยังไม่ยอมเอาด้วยจนตีโฮมรันใส่ในครั้งนั้นไปจนกลายเป็นโฮมรันร้อยล้านที่ทำให้ฝ่ายที่พนันฝั่งตรงข้ามสุญเงินไปหลายพันล้าน และถึงแม้เขาจะไม่มีส่วนร่วใกับเรื่องนี้แต่ก็ต้องโดนอธิพลของแก็งค์ยากูซ่าที่สนับสนุนทีมที่ไล่เขาออกจากทีมและหมดสิทธิ์ยุ่งเกี่ยวกับเบสบอลอีกตลอดชีวิต ซึ่งไม่ว่าใครก็ตามที่ทำถ้าเขารู้เขาเองก็สาบานว่าจะไม่เอาไว้แน่ๆเหมือนกัน แต่ เฮีย ทาคาซูกิ ที่แอบฟังอยู่ได้ยินเรื่องทั้งหมดจึงตาลุกวาว เขารีบออกมาบอกให้ชิมาดะยอมรับข้อเสนอไม่งั้นก็จ่ายเงินที่เป็นหนี้ทั้งหมดมา รวมทั้งเงินที่จะถ่ายตัว มิรูกุ ที่เขาเฝ้าเก็บมานานก็จะศูนย์ไปหมดอีกด้วย ทำให้ชิมาดะไม่มีทางเลือกจึงต้องยอมรับงาน

ในคืนนั้นเมื่อออกจากห้องพักจะพบชายคนนึงมาขิท้าแข่งกับชิมาดะในการตีเบสบอล จากนั้นก็ต้องตีโฮมรันให้ได้ก็จะชนะ ซึ่งเป็นการเรียนรู้ Another Story ของชิมาดะซึ่งก็คือการแข่งตีเบสบอลนั่นเอง ซึ่งเมื่อสำรวจคุยกับป้าเจ้าของร้านตีเบสบอลแล้วก็จะมี ทั้งเควสหลักและเควสย่อยในเรื่องของเบสบอลให้ทำด้วย ซึ่งก็จะเป็นการแข่งตีกับผู้คนต่างๆมากมาย โดยทั้ง Mission หลัก และ Mission ย่อยนั้นสามารถเอาใหม่ได้ทุกครั้งเมื่อทำพลาด  ซี่งหลังจากจบ Mission ก็จะได้ทั้งเงิน ไอเทม และค่าประสบการ์ณด้วย และสามารถเอาค่าประสบการ์ณไปอัพเลเวลและความชำนาญด้านการตีเบสบอลให้เพิ่มขึ้นได้อีกด้วย  … จากนั้นเดินไปที่จุดหมายในแผนที่ชิมาดะจะมองการแถลงข่าวของอดีตโค๊ชของทีม Nagoya Wyverns ที่ออกมายกย่องทีมโตเกียวจนออกนอกหน้า ซึ่งแม้แต่ชาวเมืองที่ยืนดูข่าวอยู่ยังดูถูกทีม Nagoya Wyverns ให้ชิมาดะได้ยินเลย ทำเอาชิมาดะยอมไม่ได้ที่จะเถียงออกไปจนเกิดการต่อสู้ขึ้นแต่ชิมาดะก็ไม่ได้ตอบโต้อะไร ก็คงเพราะตัวเขาเองก็มีส่วนทำให้มทีม Nagoya Wyverns ของเขาตกต่ำด้วยเหมือนกัน จึงยอมให้พวกมันซ้อมจนหน้าแหกไปเหมือนกัน …จากนั้นมิกูรุจะโทรมาให้ชิมาดะไปหาที่คลับ เมื่อทั้งคู่ได้พบกันต่างก้พูดคุยกันอย่างมีความสุขที่บานดาดฟ้าตึกจน มิกูรุ ถูกเรียกตัวไปทำงานต่อ ทำให้ชิมาดะคิดว่าต้องทำทุกวิธีที่จะหาเงินมาช่วยไถ่ตัวมิกูรุให้เร็วที่สุดให้ได้ ในขณะที่ เฮีย ทาคาซูกิ ก็แอบฟังอยู่ห่างๆ โดยที่ชิมาดะไม่รู้

 

ระหว่างเดินทางกลับห้องพัก ชิมาดะ จะพบกับชายประหลาดคนนึงที่แต่งตัวเหมือนพวกขุนนางกำลังถูกพวกนักเลงรุมแกล้งอยู่ จริงๆแล้วชิมาดะก็ไม่อยากจะช่วยเจ้าบ้านี่หรอกแต่มันกลับชี้มาที่ชิมาดะแล้วบอกพวกนักเลงว่าเป็นพวกเดียวกับมันจนพวกนักเลงหันมาหาชิมาดะแทน หลังจากอัดพวกนักเลงจนหมอบได้แล้ว ชายคนนั้นจะแนะนำตัวว่าชื่อ อายาโนะ โคจิ เลโอะ เป็นเชื้อสายขุนนางเขาบอกว่าจะสอนวิชาการต่อสู้ให้เป็นการตอบแทน ซึ่งชิมาดะไม่ด่าไปก็บุญแล้ว แต่ถ้าเข้าไปคุยกับมันที่ใต้สะพานลอยในสวนสาธารณะด้านขวาบนของเมือง เลือกตอบ บรรทัดที่ 2 เพื่อพูดคุยแล้วพามันไปเที่ยวที่ต่างๆตามที่มันต้องการให้ถูกต้อง จากนั้นเลือกบรรทัดแรกก็จะสามารถสู้กับมันได้ เห็นมันบ้าๆแบบนี้มันเชี่ยวชาญการใช้อาวุธมากๆ หลังจากชนะมันแล้วก็จะได้ท่าการใช้อาวุธต่างๆจากมันด้วย เมื่อฝึกซ้อมจนพอใจแล้วก็กลับห้องพักผ่อนได้เลย …

ตอนเช้า เฮีย ทาคาซูกิ เข้ามาหาตามปกติเขาจะพบชิมาดะไปให้ลุงหมออูโนะจับเส้นให้ร่างกายกลับมาใช้งานได้ปกติจากการที่ชิมาดะขี้เกียจฝึกซ้อมมานานเพื่อเตรียมทำงานใหญ่ ระหว่างทางที่ไปหาที่คลีนิคของหมออูโนะ จะพบว่ามีอุบัติเหตุแปลกๆเกิดกับชิมาดะตลอดทาง ทั้งรถจะชนเหล็กหล่นมาใส่ ทำให้ชิมาดะเริ่มแปลกใจขึ้นมาแล้ว หลังจากไปหา คลีนิคของหมออูโนะแต่กลับไม่พบหมอ จากนั้นออกไปสอบถามตามจุดเช่าหนังโบ๊ที่ขึ้นมาในแผนที่ให้หมดจนพบตัวหมดอูโนะ เมื่อกลับมาที่คลีนิคเขาจะลงมือนวดจับเส้นให้ ซึ่งจริงๆแกก็ไม่อยากทำให้ชิมาดะหรอกถ้าไม่เกรงใจ เฮีย ทาคาซูกิ เมื่อนวดจนกล้ามเนื้อกลับมาเหมือนเดิมแล้วไปขึ้นแท็กซี่ (เลือกข้อสุดท้าย )  เดินทางมาที่ภัตตาคาร ของ  มานาเบะ เค็นจิ เพื่อนรวมทีมของชิมาดะอีกคนเพื่อสอบถามเรื่องเมื่อ 15 ปีก่อน แต่ก็ไม่ได้อะไรมากนัก

จากนั้นกลับไปคุยกับหมออูโนะที่คลีนิค แต่จะพบว่ามีคนแอบฟังแล้ววิ่งหนีไป ชิมาดะวิ่งตามไปจนถึงจุดที่มันหยุดรออยู่ จนเศษเหล็กมากมายหล่นมาจากตึกที่กำลังก่อสร้างแต่ชิมาดะก็หลบจนพ้น แต่ในที่เกิดเหตุจะพบกับ ซาไก อัทซึชิ  อดีตคนในทีมเดียวกับชิมาดะที่ทำงานก่อสร้างอยู่พอดี ซาไกจึงเรียกชิมาดะตามเข้าไปคุยด้านในตึกก่อสร้าง แต่จู่ๆซาไกก็จะเข้ามาสู้กับชิมาดะเพื่อจับตัวเขา จนชิมาดะไม่มีทางเลือกที่ต้องจัดการซาไก ซึ่งซาไกจะบอกว่า จากเหตุการ์ณล้มบอลเมื่อ 15 ปีก่อนที่ชิมาดะทรยศเพื่อนๆและไม่ยอมล้มบอลแต่กับตีโฮมรันจนทีมชนะไปส่งผลให้กลุ่มยากูว่าที่อยู่เบื้องหลังเรื่องนี้นั้นเสียเงินไปมหาศาล จนทำให้พวกมันตั้งค่าหัวชิมาดะ ทำให้คนทีมที่ต้องตกต่ำตกงานเพราะสิ่งที่ชิมาดะทำไป จึงพยายามตามเก็บชิมาดะเพื่อเงินรางวัลกัน ซาไกพูดถ่วงเวลาจนมีคนทำเศษหล่นมาจากโกดังอีก ชิมาดะหลบได้แต่ซาไกก็กรรมสนองโดนเหล็กทับจนตายไปเอง ซึ่งถึงตรงนี้ชิมาดะก็รู้ความจริงมากขึ้นอย่างน้อยตอนนี้ก็มีคนพยายามจะฆ่าเขามากมายเลยล่ะ

บทที่ 3 第三章 真実の対価

15 ปีก่อน ..ชิมาดะ ถูกตำรวจเรียกเข้าไปสอบสวนถึงเรื่องการล้มบอลที่มีกลุ่มยากูซ่าอยู่เบื้องหลัง จนสุดท้ายเขาถูกกล่าวหาว่าล้มบอลด้วยเงิน 200 ล้านเยน โดยการว่าจ้างของกลุ่มยากูซ่า แต่ปัญหาคือ ชิมาดะรู้ดีถึงการว่าจ้างให้ทีมล้มบอลแต่เขาไม่รู้ว่าจ้างมาจากใครและใคาเป็นคนรับเงินและที่สำคัญที่สุดเขาไปได้รับเงินนั่นแม้แต่เยนเดียว ..

ตอนเช้า เฮีย ทาคาซูกิ เข้ามาหาตามปกติเขาจะพบชิมาดะไปหาโยชิจิม่าที่ร้านอาหารเพื่อหาข้อมูลต่อ แต่จู่ มิรูกุ ก็โทรมาบอกว่าเธอถูกยากูซ่าจับตัวไปและให้ชิมาดะมาหาที่โกดังท่าเรือแห่งหนึ่ง ทั้งคู่จึงรีบออกไปช่วยทันทีแต่ระหว่างทางหมดอูโนะก็โทรมาบอกว่าเขาก็โดนทำร้ายจนบาดเจ็บ ทำให้ชิมาดะต้องแวะไปดูอาการของหมอก่อน เฮีย ทาคาซูกิ จะบอกให้ชิมาดะรีบไปช่วย มิรูกุ ก่อนส่วนที่นี่เขาจะดูแลหมออูโนะแทน จากนั้นไปขึ้นแท็กซี่ไปที่ท่าเรือ 66 ( เลือกข้อสุดท้าย) เมื่อมาถึงแล้วลุยเข้าไปด้านในจะพบ มิรูกุถูกจับมันอยู่ แต่ขณะที่ชิมาดะกำลังเข้าไปช่วยแต่เขาก็ต้องตกใจว่านี่เป็นแค่แผนลวง ซึ่งทั้ง โยชิจิม่า , เค็นจิ  และ ซาไก รวมทั้งมิรูกุร่วมกันทำ ทั้งหมดไม่มีทางเลือกที่ต้องจับตัวชิมาดะมาฆ่าตามคำสั่งของกลุ่มยากูซ่าที่ตามกดดันบังคับให้พวกเขาทำ ในขณะที่โยชิจิม่ากำลังจะลงมืดเชือดแต่ก็สู้ตาของชิมาดะที่มองมาไม่ไหว จนกลุ่มยากูซ่าที่ซุ่มอยู่ไม่ทันใจจึงออกมาใช้ปืนจ่อมาที่ชิมาดะ เฮีย ทาคาซูกิ ก็ขับรถโพล์คลิฟต์เข้ามาช่วยเอาไว้ได้ทัน ทั้งคู่จึงต้องช่วยกันจัดการพวกยากูซ่าและพัวหน้าของมันให้หมด จากนั้น ชิมาดะจะเสียใจที่ทุกคนจะมารุมจับตัวเขาไปขายไม่เว้นแม้แต่เพื่อนๆของเขา ชิมาดะยื่นมือให้ ทาคาซูกิ จับเขาไปขายซะจะได้จบเรื่องกันไป จนเฮีย ทาคาซูกิ ต้องยอมรับออกมาว่าเขาเองเป็นแฟนประจำของ ทีม Nagoya Wyverns และเขาก็เคยดีใจสุดขีดเมื่อเอาลูกเบสบอลไปให้ชิมาดะเซ้นชื่อให้ในสมันอดีต ทำเอาชิมาดะถึงกับตกใจ จากนั้นโทรศัพท์ของหัวหน้ายากูว่าที่นอนสลบอยู่ก็ดังขึ้น แต่คนที่เข้าไปรับสายคือ เค็นจิ เขาบอกที่ปลายสายไปว่างานจะสำเร็จไม่ต้องห่วง ก่อนที่เขาจำควักมีดออกมาและเข้ามาโจมตีใส่ชิมาดะ ทำให้ชิมาดะไม่มีทางเลือกที่ต้องจัดการเพื่อนของเขาไปอีกคน ชิมาดะรีบไปฟังเสียงจากในโทรศัพท์ ซึ่งเขาต้องตกใจเมื่อเจ้าของเสียงคุ้นเคยนั้นคือ คุณ ฟูจิตะ อดีตโค๊ชของทีม Nagoya Wyverns นั่นเอง ….

บทที่ 4 第四章 儚き花道

เช้าวันต่อมา ออกมาเดินในเมืองไปจนว่าชายที่สวนหน้ากากจะโทรนัดให้ไปเจอกันที่ห้อง ชายสวมหน้ากากจะบอกถึงความลับที่ชิมาดะไม่เคยรับรู้ว่า กลุ่มยากูซ่าที่มีเอี่ยวกับเรื่องการพนันเบสบอลจนเกิดคดีล้มบอล 200 ล้านนั่นก็คือ สมาคม โทโจ นั่นเอง แต่ไม่ใช่ทุกคนของสมาคมจะรับรู้แต่มีใส้ศึก คนทรยศที่แฝงตัวอยู่ในสมาคมโทโจได้ทำเรื่องนี้ขึ้นโดยอ้างชื่อของสมาคม ชิมาดะแปลกใจว่าทำไมชายสวมหน้ากากถึงรู้เรื่องนี้ดีมาก ชายสวมหน้ากากจึงถอดแว่นและที่ปิดปากออกเผยให้เห็นในหน้า ไดโกะ โดจิม่า ประธานรุ่นที่ 6 ของสมาคมโทโจที่ว่ากันว่าหายสาปสูญไปนั่นเอง ไดโกะกล่าวเสียใจกับเรื่องที่เกิดขึ้นและบอกให้ชิมาดะตามไปที่เมืองคามูโร่โจกับเขาเพราะเท่าที่ได้ข่าวสารมานั้น มาจิม่า โกโร่ หัวหน้ากลุ่มมาจิม่านั้นน่าจะเกี่ยวข้องกับเรื่องนี้ด้วย ยังไม่ทันที่ไดโกะจะก้าวพ้นประตูหมัดของชิมาดะก็กระแทกเขาหน้าจนกระเด็นออกนอกห้องไปเลย ..15ปีที่เขาสูญเสียทุกอย่าง ทั้งอนาคต ความฝันชื่อเสียง มิตรภาพ ที่ต้องจบสิ้นลงในสิ่งที่เขาไม่ได้ทำ แต่แค่ขอโทษแค่นี้หรือ ?

ชิมาดะตะโกนด้วยความโกระใส่ไดโกะก่อนที่จะท้าประลองกับไดโกะเพื่อให้หายความอึดอัดใจ ทัตซึโอะ ชิมาดะ VS ไดโกะ โดจิม่าหลังจบการต่อสู้หมัดที่รุนแรงที่สุดก้ทำได้แค่ให้ไดโกะเข่าแตะพื้นเท่านั้น แต่นั่นไม่ใช่สิ่งที่ชิมาดะต้องการ เขารู้ดีว่า ไดโกะนั้นไม่มีส่วนเกี่ยวข้องและต้องรับผิดชอบในฐานะหัวหน้าองค์กรแต่ที่ต่อยออกไปก็แค่อยากระบายความอัดดั้นที่สุมอกมาตลอด 15 ปีก็เท่านั้นเอง หลังจากได้อักไดโกะไปแล้วชิมาดะก็โล่งใจและพร้อมที่จะเดินทางไปเมืองคามูโรโจวกับไดโกะเพื่อแก้ไขสิ่งที่ผิดต่อไป …จากนั้นไม่นาน เฮีย ทาคาซูกิ ก็เข้ามาหาชิมาดะที่บ้านแต่กลับพบแค่ห้องที่ถูกเก็บอย่างเรียบร้อยและเงินมากมายที่เขาทิ้งไว้ให้เพื่อใช้หนี้ทั้งหมดที่ติดเฮีย ทาคาซูกิไว้ …

ที่สถานีรถไฟ ขณะที่ทั้งคู่กำลังออกเดินทาง ชิมาดะก็เห็นข่าวในหน้าหนังสือพิมพ์ว่า สุดยอด pitcher จากทีมโตเกียว ยูกิ ซาวาดะ จะมาทำพิธีเปิดใน Concert ที่โตเกียวโดมด้วย เขาจึงรีบตรงไปที่สนามของ  ทีม Nagoya Wyverns เหมือนเขาจะรู้ว่า ซาวาดะ ต้องรำลึกอดีตอยู่ที่นี่ และทั้งคู่ก็มาเจอกันอีกครั้งที่สนามแห่งเดิมจริงๆ ซาวาดะ เองก็เจ็บปวดกับทีมของตัวเองที่มีส่วนผัวพันกับเรื่องคดีล้มบอล ซึ่งในวันนั้นในอดีตเขาแค่ทำตามที่โค๊ชบอกแต่ก็อดชื่นชม ชิมาดะที่ไม่ยอมล้มบอลจนตัวเองต้องซวยไปอย่างที่เห็น แต่ก็เหมือนเดิมกลุ่มยากูซ่าที่ใช้ให้ ซาวาดะเป็นตัวล่อก็ออกมาสั่งให้ฆ่าชิมาดะทันที แต่ก่อนที่จะยิงซาวาดะก็ให้สัญญาณมือให้ชิมาดะหลบจนลูกปืนไปโดนพวกยากูซ่าที่กำลังจะยิงชิมาดะจนตายไป แต่พวกที่เหลือมันก็จะออกมากันหมด ทั้ง 2 คนจึงต้องช่วยกันจัดการพวกยากูซ่าจนหมด แต่เขาทั้ง 2 ก็ไม่ได้สู้กันด้วยฝีมือจริงๆซะที นี่จึงเป็นโอกาศดีที่จะได้ตัดสินกันแบบแฟร์ๆซะที ผลกาต่อสู้จบลงที่ชิมาดะตีโฮมรันจากลูกที่ ซาวาดะขว้างมาได้สำเร็จอย่างขาวสะอาดจนซาวาดะเองก็ยอมรับความพ่ายแพ้อย่างสบายใจจริงๆเสียที

.. ในห้องทำงานของ ฟูชิตะ อดีตโค้ชของทีม Nagoya Wyverns ที่ตอนนี้ได้ดีจนใหญ่โตทางธุระกิจแต่ก็พยายามจะเก็บหลักฐานการรับเงินล้มบอลให้หมดโดยเร็วที่สุด โดยไม่สนใจเลยว่ามันต้องทำงานร่วมกันกลุ่มไหนบ้าง เขากำลังจะรับเอกสารบางอย่างกับชายลึกลับที่สวมเสื้อโค๊ทเดินเอาเข้ามาให้เซ็น ก่อนที่ชายลึกลับมันจะชักปืนขึ้นยิงใส่จน ฟูชิตะ ตายคาโต๊ะทำงาน ก่อนที่มันจะทิ้งกระดุมของยากูซ่ากลุ่มอื่นเอาไว้เพื่อกลบเกลื่อนหลักฐาน …

最終部

บทที่ 1 第一章 伝説の帰還

เมือง คามุโร่โจ , โตเกียว

คาซูม่า คิริว กลับคืนสู่ เมือง คามูโร่โจ ถิ่นเดิมอีกครั้ง พอมาถึงเขาจะเห็นการเปลี่ยนแปลงมากมายที่เกิดขึ้นแต่บางอย่างก็ยังเหมือนเดิม เขาเดินกลับไปดูที่บาร์ New Serena และ บาร์ Star dust แต่ก็ไม่พบใครเลย คิริวเริ่มสังเกตุว่ามีคนตามมาตลอดทาง เมื่อเขาไปสอบถามกับบาร์ต่างๆก็จะได้จุดหมายออกมา เมื่อไปถึงที่จุดเป้าหมายปรากฏว่าจะไม่พบใครเลย แต่คนที่แอบตามมาจะออกมาคุย คิริวต้องสู้กับมันจนชนะ ซึ่งก็จะพบว่าเป็น บาบะ ที่กำลังมาบอกข่าวของพวกไทงะ จากนั้นทั้งคู่จะเดินทางมาที่ บาร์ New Serena คุยกับมาม่าซังที่ไม่ได้เจอกันนานก่อนที่บาบะจะสรุปเหตุการ์ณทั้งหมดที่เขาและไทงะได้รับรู้มาให้คิริวฟัง …

 

ทางด้านไทงะกับตำรวจนักสืบ คุโรซาว่า กำลังมาซุ่มดูรถของ นาโอกิ คัทซึยะ ที่กำลังเข้าไปยังตึก Kamurocho Hills ที่ทำงานของมัน จากนั้นไทงะจะเดินทางมายังสวนสาธารณะทางฝั่งซ้ายบน เพื่อลงท่อระบายน้ำเข้าไปที่แหล่งบันเทิงใต้ดิน เพื่อเข้าพบ ไซ เจ้าแห่งข่าวสาร เมื่อเข้าไปคุยกับเขาแล้วไซจะพาเข้าไปที่ลานประลอง จะพบกับ ไอซาว่า ที่เข้ามาประลองฝึกปรือที่นี่อย่างบ้าคลั่ง ไทงะ ต้องรีบขึ้นไปห้ามเขาก่อนที่เขาจะฆ่าคู่ต่อสู้ไปเสียก่อน จากนั้น ไทงะจะเข้าประลองกับไอซาว่า เพื่อหยุดความแค้นของเขาลง เมื่อไซเห็นความลูกผู้ชายของทั้งคู่จึงให้ข้อมูลสำคัญกับไทงะไป

บทที่ 2 第二章 封じられた過去

ดาเตะ ตำรวจนักสิบแห่งคามูโร่โจ นำทีมตำรวจเข้ามาตรวจสอบห้องของ โค้ช ฟูชิตะ ที่โดนฆาตกรรมจนพบกระดุมของยากูซ่ากลุ่ม Osaka Gainou ของอาโอยาม่า ทำให้ไม่มีทางเลือกเมื่อหลักฐานทั้งหมดพุ่งเป้าไปที่อาโอยาม่าแทบทั้งหมด ..ทางฝ่าย วาตาเสะ มาซารุ แห่งกลุ่มสหภาพโอมิ เมื่อทราบข่าวของมาโยาม่าแล้วจึงนำกองทัพของ กลุ่มสหภาพโอมิทั้งหมดมุ่งสู่เมืองคามูโร่โจทันที …

   ที่ห้องทำงานของ นาโอกิ คัทซึยะ  เขาพยายามยื่นขอเสนอให้ ชุน ยอมให้ฮารูกะมาเซ็นสัญญากับเขาร่วมวงกับ T – Set ด้วยเงินจำนวนมาก กลับไม่สนใจและบอกว่าทั้งหมดนั้นเขาไม่มีอำนาจตัดสินใจ ทั้งหมดนั้นแล้วแต่ฮารูกะเองว่าจะตกลงใจอย่างไร  ….จากนั้นชุนจะกลับมานอนพักที่สำนักงานเงินกู้สกายไพแนนท์ของเขา แต่ก็ไม่ได้ทันสังเกตว่ามีชายคนนึงมารออยู่ในห้องอยู่แล้ว ทัตซึโอะ ชินาดะ เข้ามาขอกู้เงินจำนวนนึงด้วยน้ำตาเพื่อเอาไปไว้ใช้ไถ่ตัว มิรูกุ คนรักของเขา เพราะได้ยินมาว่าเจ้าของสกายไพแนนท์เป็นคนดี  (ไม่ได้สนใจเป้าหมายที่ตัวเองต้องทำเลย) ซึ่งชุนฟังก็ถึงกับยิ้มแต่เขาบอกว่าจะให้เงินแต่ตอนนี้ตามเขาไปทำธุระก่อน ตามขาวที่ชุนได้มาสมาคมการค้าของที่นี่ก็มีเอี่ยวเรื่องของสมาคมโทโจด้วย เขาจึงต้องออกไปตามหาที่ตั้งของที่พักของประธานหอการค้า [ ตอนนี้สามารถสลับตัวละครที่ใช้ในการเล่นได้ระหว่าง อากิยาม่า และ ชิมาดะ ] เมื่อออกมาที่ถนนในเมืองเข้าไปซื้อของกินมา 1 ถุงที่ร้านไหนก็ได้ที่ขึ้นจุดเป้าหมายมา 

จากนั้นจะไม่มีจุดหมายขึ้นมา ให้เดินไปที่จุดทางด้านบนซ้ายของตึก Kamurocho Hills จะพบขอทานคนนึงอยู่ เมื่อให้ไอเทมที่ซ้อมากับเขาไป แล้วเดินไปมาซักพักรอจนเขาโทรมาก็จะรู้ตึกโรงแรมที่พักของ ประธานหอการค้าแห่งคามูโร่โจ เมื่อไปที่หน้าตึกจะพบบอดี้การ์ดมากมายเข้ามาขัดขวาง จัดการพวกมันให้หมด แล้วเข้าไปด้านในตึกจะพบประธานหอการค้ากำลังจะเก็บเงินหนี จนชุน ต้องเข้ามาพูดคุยเพื่อขอกำลังหนุนจากเขาเพื่อแลกกับชีวิตที่ต้องเสียไปเมื่อขัดใจคนอย่าง อากิยาม่า ชุน จนมันยอมตกลงและให้ดูรูปและเล่าเรื่องความสัมพันธ์ระหว่างมาจิม่าและมิเรที่เป็นเพื่อซี้กันตั้วแต่เด็ก เขาย่อมไม่มีทางสั่งฆ่าเธอได้แน่นอน …

บทที่ 3  第三章 生き残る者

คิริวที่อยู่ที่บาร์ New Serena และ ไทงะที่อยู่ที่ศูนย์ข้อมูลของไซต่างก็เห็นการถ่ายทอดสดจากตึก Kamurocho Hills ในการแถลงข่าวของ นาโอกิ คัทซึยะ ถึงเรื่องงาน Concert ของฮารูกะและ T – Set ที่โตเกียวโดม เมื่อคิริวและไทงะรู้ที่อยู่ของอาโอยาม่าแล้วทั้งคู่จะรีบไปที่ตึกนั้นทันที [ สามารถเลือกตัวละครที่ใช้เล่นได้ระหว่าง คิริว และ ไทงะ ] จากนั้นก็มุ่งหน้าไปที่หน้าตึก Kamurocho Hills ทางขวาบนของแผนที่แล้วลุยเข้าไปด้านในตึกได้เลย เข้าไปจนถึงถึงห้องทำงานชั้นบนสุดจะพบกับ อาโอยาม่า ที่รออยู่ จากนั้น ไทงะ และ วาตาเสะ ก็จะตามมาด้วย ทุกคนต่างก้อยากจะหาคำตอมจากหลักฐานมากมายที่พุ่งเข้ามาหาอาโอยาม่าจนแทบปฎิเสธไม่ได้  ทั้ง 4 คนจะขึ้นไปที่ชั้นดาดฟ้า คิริว , ไทงะ , วาตาเสะ และ อาโอยาม่านั้นเป้าหมายอาจจะไม่ต่างกัน แต่ต่างฝ่ายก็อยากจะจบเรื่องนี้ลงด้วยตัวเองมากกว่าที่จะให้จบลงด้วยมือคนอื่น ทั้ง 4 จึงประลองกันในแบบลูกผู้ชายตัวต่อตัวไปเลย …

 คาซึม่า คิริว VS. วาตาเสะ มาซารุ เคลียปัญหาคาใจในเรื่อง ที่คิริวคิดว่าสหภาพโอมิมีส่วนในการหายตัวไปของไดโกะ

ซาเอจิม่า ไทงะ VS. นาโอกิ คัทซึยะ เคลียปัญหาคาใจในเรื่องที่ไทงะคืดว่า คัทซึยะ จับตัวมาจิม่าเพื่อนของเขาไป

คาซึม่า คิริว VS ซาเอจิม่า ไทงะ  ..นี่เรื่องของฉัน ปัญหาของฉัน นายหลีกไปซะ ! ทั้งคู่น่าจะคิดเหมือนกันแบบนี้

หลังจากการต่อสู้ของเหล่าลูกผู้ชายจบลง ชายคนนึงเดินออกมาพร้อมยิงปืนเข้าใส่ทั้งคิริวและมาจิมาจนบาดเจ็บ ตำรวจนักสืบแห่งโอซาก้า คาซูฮิโกะ เซริซาว่า หรือ คุโรซังไดโจ พี่ชายร่วมสาบานของ วาตาเสะ มาซารุ ประธานสหภาพโอมิ นั่นเอง  เซริซาว่า นั้นไม่ได้เดินในเส้นทางของยากูซ่าแต่ก็หากินกับผลประโยชน์ของยากูซ่ามาตลอดโดยใช้อำนาจของตำรวจเป็นตัวช่วยมาตลอด จากนั้นมันจะเริ่มยิงทีละคนโดยเริ่มจาก วาตาเสะ น้องของมันก่อนเลย ในขณะที่วาตาเสะกำลังยืนงง คัทซึยะ ก็เข้ามาเอาตัวเองขวางกระสุนไว้จนโดนยิงเสียเอง ขณะที่คิริวและไทงะก็กำลังจะเข้ามาขวางเอาไว้ ซึ่ง เซริซาว่า มันกะยิงทิ้งทั้งหมด แต่ชายคนนึงก็เข้ามาจ่อปืนจากด้านหลังช่วยทุกคนไว้ได้ทัน ไดโกะ โดจิม่า ประธานสมาคมโทโจ ปรากฏตัวขึ้นจนทำให้คิริวงงกับเรื่องที่เกิดขึ้น

ไดโกะแฉให้ทุกคนฟังว่า  เซริซาว่า นั้นยุยงปลุกปั่นทุกคนด้วยความล่วงจนมั่วกันไปหมด ตั้งแต่เรื่องการชิงอำนาจและลักพาตัวของไดโกะโดยมาจิม่า เพื่อดึงตัวคิริวให้มาช่วยไดโกะ และไทงะเพื่อมาช่วยมาจิม่า , ปั้นเรื่องความชั่วร้ายให้สหภาพโอมิของ วาตาเสะ ให้ไดโกะและสมาคมออกมาต่อต้าน ออกข่าวลวงว่า  คัทซึยะ เป็นคนบงการฆ่ามิเร ผู้ชักนำฮารูกะเข้าวงการ เพื่อดึงตัวฮารูกะเข้ามาในเหตุการ์ณ เพื่อใช้เป็นตัวประกันเอาไว้ต่อรองให้ทุกคนทำตามที่มันวางแผนเอาไว้ และเมื่อทุกคนมารวมตัวกันและฆ่ากันเองจนหมด มันและกองกำลังของคามอนที่สนับสนุนมันก็จะได้อำนาจทั้งหมดไปอย่างสบาย  หลังคุยจบ เซริซาว่า จะดวลปืนกับ ไดโกะ จน เซริซาว่า บาดเจ็บล้มลง ในขณะที่ไดโกะกำลังเข้าไปจัดการกับมัน แต่ คามอน คาไน ก็ตลบหลังเข้ามายิงใส่ไดโกะที่ไม่ทันระวังตัวจนล้มลงไป คิริวตะโกนด้วยความแค้นเพราะเขาบาดเจ็บและอยู่อีกตึกที่ไกลออกไปจนโดดไปช่วยไม่ถึง ส่วนคาม่อนพาตัว เซริซาว่า ที่บาดเจ็บหลบหนีไปก่อนที่ เซริซาว่า จะกันไปบอกกับคิริวว่าถ้ายังไม่หยุดยุ่งกับเรื่องของมันเป้าหมายต่อไปจะเป็น ซาวามูระ ฮารูกะ …

บทที่ 4 第四章 絆の交差点

ที่บริษัท ไดน่าแชร์ นาไกนำทีมของ 2 สาวไมจังและอาซึกะจังในนาม T – Set เข้าร่วมเป็นคอรัสให้ฮารูกะตามกฎอย่างเต็มใจ พร้อมเปิดตัว Single ใหม่ Princess Sleep ใน Concert Dream Line ที่จะใช้กับงานนี้เป็นงานแรกอีกด้วย ในขณะที่ทุกคนกำลังเริ่มซ้อมเต้น บาบะก็เข้ามาขอพบฮารูกะให้ไปคุยกับเขาหน่อยในตอนที่ไปที่เมืองคามูโร่โจ จากนั้นออกเดินทางไปคุยกับเขาที่สวนสาธารณะในเมืองคามูโร่โจ   บาบะ จะเล่าเรื่องราวของคิริวให้ฟัง คุยจบแล้วเดินไปเข้าสตูดิโอทางขวาล่างของเมืองเพื่อซ้อมเต้นต่อ ..

ที่โรงพยาบาลแห่งหนึ่ง วาตาเสะ เฝ้าดูอาการของ คัทซึยะ ที่ใช้ตัวบังกระสุนให้เขาจนบาดเจ็บสาหัส แต่โชคยังดีที่พ้นขีดอันตรายแล้ว ในตอนที่วาตาเสะเดินออกจากโรงพยาบาลเขาจะสวนทางกับ ชิมาดะ ที่เดินผ่านเข้าไปเยี่ยมคนไข้ในห้องที่หน้าห้องติดป้ายชื่อว่า ไดโกะ โดจิม่า …

ที่บาร์ New Serena ขณะที่คิริวนอนบาดเจ็บอยู่ที่เคีาเตอร์ ส่วนนักสืบดาเตะ  ชุน , ไทงะ และ ชิมาดะ ต่างก็มานั่งคุยถกกันถึงเรื่องข้อมูลที่ได้มา รูปถ่ายของเพื่อนสมัยเด็ก 3 คน มิเร , มาจิม่า และ คัทซึยะ ที่รักกันอย่างแนบแน่นจนทำให้ชุนคิดได้ว่า มาจิม่า นั้นไม่เกี่ยวกับเรื่องนี้แน่นอน แต่ตอนนี้เขาหายตัวไปไหน จนคิริวตื่นขึ้นมาและเข้ามาร่วมวงสนทนาด้วยซึ่งชุนจะแนะนำให้รู้จักกับ ชิมาดะ และทั้งหมดก็จะปรึกษากันถึงเรื่องการคุ้มกันฮารูกะที่กำลังจะเปิด Concert ขึ้นที่โตเกียวโดม ซึ่งประเด็นที่  เซริซาว่า พุ่งเป้าหมายไปที่ฮารูกะนั้นคิริวก็ยังไม่เข้าใจเหมือนกัน ..

บนห้องทำงานของกลุ่ม มาจิม่า เซริซาว่า นั่งชมวิวอย่างสบายอารมณ์ก่อนที่จะให้ลูกน้องพาตัว มาจิม่า ที่ถูกพวกมันจับเอาไว้เข้ามาเพื่อรับคำสั่งจากมัน ….

  最終章 夢、叶えし後  บทส่งท้าย ……..

ที่บาร์ New Serena หลังจากทุกคนปรึกษากันจบ รักใครชอบใครอยากใช้ใครลุยเลือกได้เลย นี้เป็นจุด Check Point สุดท้ายของเกมแล้ว มีอะไรต้องทำก็ออกจากบาร์ไปทำเสียก่อนได้เลย และเมื่อพร้อมแล้วคุยกับ อากิยาม่า แล้วเลือกตกลงได้เลย

…ทั้งหมดจะดูข่าวด่วนที่รายงานสดเข้ามาจากตึกมิลลิเนี่ยม ทาวเวอร์ ถึงแขกรับเชิญพิเศษในงานโปรโมท Concert Dream Line  ก็คือ มาจิม่า โกโร่ เมื่อเห็นข่าวนี้ทุกคนจะมุ่งไปที่ตึก มิลลิเนี่ยม ทาวเวอร์ ทันที แต่เมื่อถึงหน้าตึกก็เป็นกับดักจริงๆเมื่อกลุ่มยากูซ่ามากมายที่เข้ามาปิดล้อมพื้นที่เอาไว้จนหมด ทั้ง 4 จึงวางแผนกันว่าจะให้ ไทงะและ ชิมาดะฝ่าดงศัตรูแยกเข้าไปทางท่อระบายน้ำเพื่อหาทางไปที่เวที Concert ส่วนคิริวและชุนจะต้านศัตรูที่นี่เอาไว้ทั้งเอง หลังจากไทงะและ ชิมาดะแยกตัวไปแล้ว คิริวและชุนก็ต้องร่วมกันจัดการพวกยากูซ่าให้หมด [เลือกได้ว่าจะบังคับ คิริว หรือ อากิยาม่า ในการต่อสู้ ] จัดการพวกศัตรูที่ออกมามากมายให้หมดแล้ว คามอน คาไน หัวหน้ากลุ่มจะออกมา จัดการมันให้ได้แล้วเมื่อพลังหมดมันจะหนีไป …

ทางฝ่าย ไทงะ และ ชิมาดะ ต้องลุยเข้าไปตามท่อระบายน้ำที่เต็มไปด้วยฝูงยากูซ่าเช่นกัน [เลือกได้ว่าจะบังคับ ไทงะ หรือ ชิมาดะ ในการต่อสู้ ]เมื่อทั้งคู่ลุยเข้าไปได้จนถึงทางแยกสุดทางแล้ว ไทงะ จะบอกให้ชิมาดะไปจัดการบาบะที่กำลังลอบสังหารฮารูกะเสียก่อน เพราะเขารู้แน่นอนว่ายังไงมือสังหารก็ไม่พ้นบาบะแน่นอน ส่วน ไทงะ จะแยกตัวขึ้นไปบนตึกมิลลิเนี่ยม ทาวเวอร์เพื่อช่วย มาจิม่า เพื่อนของเขา

Concert Dream Line เปิดตัวด้วยบทเพลงแรกของฮารูกะและ 2 สาว T – Set ที่มาร่วมร้องคอรัส ในขณะที่มือปืนก็พร้อมอยู่ที่จุดปฎิบัติการ์ณของมันแล้วเช่นกัน …

บนยอดตึก Millennium Tower ไทงะขึ้นไปพบกับ เซริซาว่า ซึ่งมันจะนำตัว มาจิม่า ที่มันจับมัดไว้ออกมา พร้อมทั้งให้ไทงะดูคลิป Concert ของฮารูกะจากมือถือว่าถ้าทั้งคู่ไม่สู้กันให้ตายไปข้างนึง ก็จะเห็นภาพสยองของฮารูกะเลือดท่วมจอจากฝีมือมือปืนของมันแน่นอน จนมาจิม่า ต้องจำใจสู้ และบอกถึงเหตุผลที่มาจิม่าไม่ยอมเคลื่อนไหวและทำไม คุโรซาว่า ถึงพุ่งเป้าไปที่ฮารูกะ ไทงะ และ มาจิม่า จำต้องสู้กันให้ตายไปข้างตามคำสั่ง คุโรซาว่า โดยมีฮารูกะเป็นตัวประกัน ซาเอจิม่า ไทงะ VS มาจิม่า โกโร่  ..หลังจากไทงะอัดมาจิม่าจนได้แล้ว แต่ไทงะกลับไม่ยอมลงมือฆ่ามาจิม่าต่อ ทำให้คุโรซาว่าหงุดหงิดมากจนสั่งให้มือปืนยิงฮารูกะทันที แต่ไทงะจะโยนมือถือกลับไปให้ คุโรซาว่า ดูและหน้าจอที่ว่างเปล่า …

. ทางด้าน บาบะ ที่เปลี่ยนใจเก็บปืนไม่ยอมสังหารฮารูกะตามคำสั่งคุโรซาว่า และนั่งฟังเพลงอย่างสบายใจ ก่อนที่จะกำลังเดินออกไป แต่เมื่อชิมาดะเข้ามาถึง เขาคงไม่ยอมปล่อยบาบะให้ไปง่ายๆแน่นอน สำหรับชิมาดะถูกผิดยังไงไม่รู้แต่ทำไม่ได้เรื่องมาก็ขออัดซักหมัดก็พอ ทัตซึโอะ ชินาดะ  VS ชิเคกิ บาบะ หลังจากอัดบาบะลงได้ ทั้งคู่ก็จะนั่งดู Concert กันอย่างสบักสะบอมแต่มีความสุข จนเฮีย ทากาซูกิจะโทรมาหาชิมาดะ แล้วบอกว่าเขาเอาเงินที่ให้มาไปไภ่ตัว มิกูรุ ให้แล้ว ส่วนนายก็ยังเป็นนหี้ชั้นต่อไปน๊ะชิมาดะ ทำเอาชิมาดะร้องไห้โฮออกมาเลย ..

ทางด้าน คุโรซาว่า เห็นแผนล้มเหลวก็เตรียมจะเก็บทั้งไทงะและมาจิม่าด้วยตัวเอง …แต่ คัทซึยะ ที่ลากสังขารไดโกะออกมาจากโรงพยาบาลก้งัดปืนขึ้นมายิงใส่ เซริซาว่า จนล้มกองกับพื้นจนสามารถจับตัวมันเอาไว้ได้ เหตุที่ไม่ฆ่ามันซะก็เพราะเอาไว้ยืนยันความถูกต้องให้กับกลุ่มโทโจและของ คัทซึยะ เองด้วย

ทางด้านฮารูกะหลังจากจบครึ่งแรกของ Concert ก็พบว่าตอนนี้เท้าของเธอเริ่มบาดเจ็บจน 2 สาว T – Set ต้องมาช่วยดูอาการกันใหญ่ ฮารูกะเห็นคิริวที่กำลังออกในข่าวทีวี ภาพของคิริวกำลังสู้กับยากูซ่าจำนวนมากที่หน้าตึกมิลลิเนี่ยม ทาวเวอร์ ทำให้เธอเงียบไป…ก่อนที่จะเริ่มคิดบางอย่างได้ขึ้นมาทันที

ที่หน้าตึก Millennium Tower คิริวและชุนผ่านศึกหนักกับยากูซ่าจำนวนมากมาได้ แต่ก็ยังไม่วายมองขึ้นไปบนยอดตึกเพราะเป็นห่วงเหตุการ์ณที่เกิดขึ้นด้านบน ในขณะที่ คามอน ที่ยังรอดอยู่ก็เดินเข้ามาแล้วหมายที่จะเอาเรียกลูกน้องของมันจำนวนมากเข้ามายำคิริวและชุนอีกรอบ ในขณะที่ไดโกะตืดต่อมาหาคิริวให้รู้ว่าเขายังปลอดภัย และ ให้รีบไปที่สมาคมโทโจที่ตอนนี้ลูกน้องแจ้งมาว่าที่นั่นมีคนบุกเข้าไปหวังจะทำลายทุกคนที่นั่น ชุน จึงบอกให้คิริวรีบไปที่นั่นโดยด่วน ส่วนเขาจะต้านพวกที่นี่เอาไว้เอง ทำให้คิริวรีบเดินทางไปทันที ส่วนชุนก็เข้าไปสู้กับคามอนและพวกมันตามลำพัง อากิยามะ ชุน VS คามอน คาไน

 

หลังจากชุนจัดการมันแบะลูกน้องลงได้แล้ว คามอนก็ยังหยิ่งพยองว่ายังเหลือลูกน้องอีกมากมายที่กำลังดาหน้าเข้ามาปิดล้อมกระทืบชุนให้ตายได้สบาย  …แต่รอยยิ้มของมันก็ต้องหมดลง เมื่อกลุ่มที่ก้าวเท้ากันเข้ามานั้นไม่ใช่พวกของมัน แต่เป็นการรวมพลของกลุ่ม ยามาคาซ่า ของ ผู้เฒ่า ทาดาชิ มาดาราเมะ , กลุ่มสหภาพโอมิ ของ วาตาเสะ และ กลุ่มสมาคมการค้าของเมืองคามูโร่โจ ทั้งหมดออกมาพร้อมกับแล้วล้อม คามอน เอาไว้ จนมันยอมคุกเข้ายอมแพ้ในที่สุด … และทั้งหมดยอมก้มลงขอโทษต่อ ชุน ในเรื่องที่เกิดขึ้นจนทำให้มิเรต้องตาย ซึ่ง ชุนก็ยอมยกโทษให้ด้วยใจลูกผู้ชาย

คิริวรีบเดินทางมาจนถึงคฤหาสถ์ของสมาคมโทโจ ที่เต็มไปด้วยคนบาดเจ็บมากมายนอนกันให้เกลื่อน เมื่อเข้าไปจนถึงด้านในก็จะพบหับหนอนบ่อนใส้ตัวโตของโทโจ ไอซาว่า นั่นเอง ไอซาว่าแฝงตัวว่าจงรักภัคดีที่ทุกคนมักจะเห็นเขาเป็นลุกน้องที่สื่อสัตย์ต่อไดโกะและสมาคมโทโจมาตลอด แต่ตลอดเวลาที่ผ่านมา ไอซ่าว่าในคราบของลูกน้องที่ทำงานให้โทโจด้วยความเข้มแข็ง ก็สมคบคิดกับ คุโรซาว่าตำรวจนักสิบจอบฉ้อฉล และใช้ชื่อของสมาคมโทโจแอบลักลอบให้ทุนสนับสนุนทีมกีฬาเบสบอลอย่าง ทีม Nagoya Wyverns เพื่อให้ล้มบอลหวังฟันกำไรหลายหมื่นล้านจากการชนะพนัน จนโดนชิมาดะตีโฮมรันไปจนเสียเงินไปหลายหมื่นล้าน เป้าหมายใหม่ที่ใหญ่กว่าก็คือ รวมมือกับคุโรซาว่า ยุยงกลุ่ใต่างๆให้เป็นศัตรูกันจนตีกันตายหวังอำนาจทั้งหมดตกเป็นของตน จนสุดท้ายคิริวที่บาดเจ็บสาหัสอยู่ต้องเข้าไปสู้กับมันเพื่อปกป้องศักดิ์ศรีของโทโจที่ไม่เคยเป็นของเขามาซักครั้ง คาซูมะ คิริว VS ไอซาว่า …

 

คิริวต่อสู้กับไอซาว่า ไปพร้อมกับฮารูกะที่กำลังสู้กับอาการบาดเจ็บที่ข้อเท้าของเธอเพื่อเล่นเพลงสุดท้าย  ให้กับทุกคนฟัง Princess Sleep ถูกขับกล่อมออกมาด้วยไพเราะและกินใจไปพร้อมกับๆการห่ำหั่นกันอย่างเอาเป็นเอาตายของคิริวและไอซาว่า ดำเนินไปจนเริ่มเพลงจนจบเพลง จากในบ้านอัดกระแทกออกไปนอกบ้านจบลงด้วยไอซาว่าที่สลบลงแทบเท้าคิริวไปพร้อมกับการจบลงของการขับกล่อมของฮารูกะ หลังจากจัดการไอซาว่าลงได้แล้ว คิริวเองก็มีบาดแผลถูกยิงมาก่อนจึงเริ่มหมดแรงจนล้มสลบลงไปเช่นกัน …..

หลังจบเพลงสุดท้ายของ Concert ฮารูกะหันไปโค้งขอบคุณ 2 สาว T – Set ก่อนจะพูดเปิดใจบางอย่างกับแฟนเพลงของเธอ เธอขอบคุณแฟนๆเพลงที่ช่วยเติมฝันของเธอให้เป็นความจริง และสนับสนุนเธอมาตลอด ฮารูกะ บอกว่าเธอไม่สบายใจและเข้าไม่ได้กับธุรกิจบันเทิงที่แข่งขันกันแบบเอาเป็นเอาตาย ทำให้เธอเห็นถึงความเป็นมายาของมันมากกว่าความเป็นจริง เธอได้เล่นถึงเรื่องการต่อสู้ของเหล่าลูกผู้ชายทุกคนที่กำลังต่อสู้อยู่รายรอบตัวเธอ เพื่อปกป้องความฝันของเธอ และไม่ว่าวันพรุ่งนี้จะเป็นยังไงวันนี้เธอก็ทำตามฝันและพิสูจน์ความสามารถของเธฮให้ทุกคนได้เห็นได้แล้ว และสุดท้าย …เธอไม่อาจก้าวไปตามความฝันโดยทิ้งผู้ชายคนนี้เอาไว้ข้างหลังได้อีกแล้ว เธอบอกว่าเธอจะตัดสินใจกลับไปหาเขา คาซูม่า คิริว ผู้ชายที่เป็นทุกอย่างของเธอตลอดมา …

..บนถนนของเมืองคามูโรโจ ในคืนที่แสนหนาวเหน็บ คิริวพยายามประครองร่างของตัวเองเดินไปตามทางด้วยร่างกายที่บาดเจ็บสาหัสจนแทบทรงตัวไม่อยู่ ในขณะที่สิตกำลังเลื่อนรางเพราะเสียเลือดมากจนล้มลงสลบลงบนถนนอย่างเดียวดาย ….. เสียงฮารูกะค่อยดังขึ้นเข้ามาโสตประสาทของคิริวปลุกให้สติของคิริวกลับคืนมา เห็นใบหน้าของฮารูกะอีกครั้ง.. น้ำตา ..ยากูซ่า และความหนาวเหน็บบนถนนเมืองคามูโร่โจที่แสนเงียบเหงาในยามค่ำคืน …

------------------------------------------ THE END -----------------------------------------

หลังจบจะได้

Hard Mode - โหมดยาก

Premium New game - เริ่มต้นใหม่อีกรอบด้วยทุกอย่างที่ได้หลังจบรอบแรก

Premium Adventure – ใช้ชีวิตเดินเล่น เก็บความลับ ในเกมหลังจบเกมไปแล้ว

Ultimate Battle – โหมดต่อสู้กับกลุ่มศัตรูตามเวลาที่กำหนด

 -------------------------------------------------------------------------------------------------