Chapter 1-เริ่มเกมตัวเอก Isaac Clarke (ไอแซค คลาก) จะถูกแฟนสาวของเค้า Nicole Brennan (นิโคล เบรนแนม ) ติดต่อเข้ามาหา แต่เนื่องจากสถานที่อยู่ห่างไกลกัน ทำให้เวลาเดินไม่ตรงกัน ซึ่งตอนนั้น ไอแซค กำลังนอนอยู่พอดี นิโคลจึงขอโทษไอแซคที่รบกวนเค้าตอนที่กำลังนอนอยู่ แต่ไอแซคไม่ได้ว่าอะไร นิโคลจึงเล่าถึงความประทับใจที่มีต่อยานอิชิมูระ และขอบคุณไอแซคที่ให้เธอมาทำงานที่ยานลำนี้ แต่การสนทนาของทั้งคู่นั้นได้กลายเป็นภาพบันทึกของเหตุการณ์ในอดีตไปแล้ว เมื่อ ไอแซค ตื่นขึ้นมาพบกับความจริงว่า เค้ากำลังถูกเจ้าหน้าที่คนหนึ่ง(Edgars Foster ) ของศูนย์แพทย์ซักถามเรื่องการตายของนิโคล และเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นบนยานอิชิมูระเมื่อ 3 ปีที่แล้ว ซึ่งแม้ว่าเหตุการณ์ในครั้งนั้นจะจบลงไปแล้ว แต่ภาพหลอนนั้น ยังคงติดตามไอแซคมาตลอดจนถึงปัจจุบัน
-เมื่อ ไอแซค ตื่นขึ้นมาอีกครั้ง เค้าพบกับชายผิวคล้ำคนหนึ่ง( Franco Delille ตัวเอกจาก Dead Space Ignition) กำลังพยายามปลุกเค้าให้ตื่น เค้าติดต่อไปหาผู้หญิงคนหนึ่งที่ชื่อ เดียน่า เค้าบอกเธอว่าเจอตัว ไอแซค แล้ว จากนั้นฟรานโก้ จะพยายามช่วยพยุงไอแซคขึ้นมา แต่เอเลี่ยนที่ชื่อ Infector ได้ฆ่าเค้าเสียก่อน และทำให้เค้ากลายป็น Necromorphs ก่อนที่ไอแซคจะถูกฟรานโก้ ที่กลายเป็น Necromorphs สังหาร ไอแซคให้หัวชนกับ ฟรานโก้ จนเค้าล้มไป แล้วไอแซคก็พยายามลุกขึ้นมาเพื่อเอาชีวิตรอดจากที่นี่ให้ได้ เดียน่า ติดต่อหา ฟรานโก้ อีกครั้ง แต่ไม่ได้รับการตอบกลับ เธอจึงเข้าใจสถานการณ์ได้ทันที ว่าไอแซคนั้นกำลังอยู่ในอันตราย เธอจึงบอกให้เค้ารีบหนีทันที

-เมื่อไอแซคลุกขึ้นมาแล้ว เราจะพบว่าแขนของเค้าถูกมัดไว้ ตอนนี้ให้เราวิ่งหนีอย่างเดียว หนีไปเรื่อยๆ และออกห่างพวก Necromorphs ให้ได้มากที่สุด โดยเส้นทางการวิ่งมี ดังนี้ครับ
-ออกจากห้องมา ให้วิ่งชิดผนังทางซ้ายมือ เมื่อวิ่งมาได้สัก 5 ก้าว จะพบ Necromorphs ดักหน้าเรา ให้วิ่งฉีกไปทางขวา แล้ววิ่งตรงไปเรื่อยๆตามทาง จะพบ Infector และ Necromorphs วิ่งมาทางห้องขวามือ ให้เราวิ่งแทรงกลางช่องว่างระหว่าง Infector กับ Necromorphs ไปทางประตู Outer Hall ตรงไปเรื่อยๆ ตามช่องทางเดินอย่าหยุดเด็ดขาด

-เมื่อหลุดออกมาจากช่องทางเดินจะพบ Necromorphs 2 ตัว ดักอยู่ทั้งทางด้านหน้า และ ทางขวามือ ให้เราวิ่งไปทางซ้ายมือ ไปตามทางเรื่อยๆ จะพบ Necromorphs โดดมาจากซ้ายมือ ไม่ต้องสนใจวิ่งต่อไปจนพบกับประตูใหญ่ที่เปิดอยู่ เมื่อวิ่งผ่านประตู To Secure Area ไปแล้ว ไอแซค จะโดน Necromorphs เข้ามาชาร์ทอย่างจัง ให้เรารีบกดปุ่ม E รัวๆ เพื่อถีบมันออกไป มันจะกระเด็นไปโดนประตูหนีบตายพอดี

-เมื่อรอดมาได้ ให้เดินต่อมาเรื่อยๆจนพบกับประตูบานนึงที่เราสามารถเปิดได้ ข้างประตูจะมีที่เซฟด้วย ให้เราเซฟเกมเสีย แล้วเข้าประตูไป เมื่อเดินเข้ามาเราจะพบกับทหาร 2 คน เมื่อเค้าเห็นไอแซค ทั้งคู่จะพยายามโจมตีไอแซคทันที แต่ยังไม่ทันได้ทำอะไรก็โดน Necromorphs ฆ่าเสียก่อน จากนั้นให้เราเดินมาตามทางที่มีแสงไฟมาเรื่อยๆ จนขึ้นบันไดมาอีกชั้นหนึ่ง แล้วเข้าประตูห้อง Observation Room

-ห้องนี้ไม่มีอะไร (แต่จะมีบันทึกวีดีโอของผู้ป่วยให้เราดูด้วย) ให้เราเดินต่อไปตามทางจนพบประตู เข้าประตูไป แล้วเดินมาตามทางเดินเรื่อยๆ จนพบประตูอีกบาน เมื่อเราเข้าประตูมาจะพบกับเจ้าหน้าที่คนที่เคยซักถามเราในตอนแรก ตอนนี้เค้าจะเสียสติไปแล้ว ให้เราพยายามเดินห่างๆเค้า แต่ยังไม่วายโดนเค้าคว้าตัวมาได้
-ไอแซคโดนเจ้าหน้าที่เอามีดจ่อคออยู่ ชายคนนี้บอกว่า นาย....นายคือผู้ป่วยหมายเลข 4 ฮะฮะ ฉันจำได้ ฉันได้รับคำสั่งจาก Tiedemann ให้กำจัดหนูทดลองทุกตัวที่นี่ ตอนนี้... เราจะกำจัดเพิ่มอีกตัวใช่ไหม? แต่ไอแซคพยายามเกลี้ยกล่อมให้เค้าช่วยตัดแขนเสื้อที่มัดแขนของไอแซคออก แล้วพวกเราช่วยกันหาทางออกไปจากที่นี่ดีกว่า แต่เค้าดูเหมือนจะไม่รับรู้อะไรทั้งสิ้น จึงเอามีดฟันไปที่ท้องไอแซค ไอแซคตกใจมาก แต่เมื่อรู้สึกตัวอีกทีกลับไม่รู้สึกเจ็บปวด กลายเป็นว่าชายคนนั้นใช้มีดฟันไปที่เชือกทีมัดแขนของไอแซคนั้นเอง ชายคนนั้นบอกให้พลังของไอแซคเป็นสีแดงแล้วตอนนี้ ให้ไอแซคเข้าไปเอาไฟฉายเละยาเพิ่มพลังในตู้นิรภัยเสีย เพราะตอนนี้สำหรับเค้าแล้วของเรานั้นไม่จำเป็นอีกต่อไป
-เมื่อเราเก็บยาเติมพลังได้ เกมจะสอนการใช้ยาเติมพลังด้วยปุ่มลัดให้ โดยให้เรากดปุ่ม Q เพื่อใช้ยา จากนั้นเก็บไฟฉาย เมื่อหันกลับมา ชายคนนั้นพูดว่า “พวกเราทุกคนจะต้องตาย เพื่อชดใช้สิ่งที่เราทำกับนาย ไอแซค” ว่าแล้วเค้าก็ใช้มีดปาดคอตัวเอง โดยที่ไอแซค ไม่สามารถช่วยอะไรได้

-เมื่อจบเหตุการณ์ให้เราเดินมาเข้าประตูทางขวามือ จะพบลิฟต์ที่จะพาเราไปยัง ห้อง To Patient Rec Room ก่อนที่จะได้ทันขึ้นลิฟต์ เดียน่าจะติดต่อมาอีกครั้ง ไอแซคถามเธอว่าทำไมถึงช่วยเค้า แล้วเกิดอะไรขึ้นที่นี่ / Daina (เดียน่า) บอกไอแซคว่าเธอรู้เรื่องที่ไอแซคป่วยจนเห็นภาพหลอนมาตลอด และถ้าเค้าสามารถมาหาเธอได้ เธอจะช่วยพาเค้าไปยังที่ปลอดภัย ไอแซคไม่มีทางเลือก หากอยากมีชีวิตรอดคงต้องทำตามที่ เดียน่าบอก เมื่อคุยจบก็ให้ขึ้นลิฟต์มายังชั้นต่อไป
-เมื่อออกจากลิฟต์มา เราจะพบว่าที่นี่มืดมาก แล้วเกมจะสอนให้เราใช้ระบบนำทาง ให้เราใช้ไฟฉายที่ได้มา และใช้ระบบนำทางเพื่อไปยังจุดหมายต่อไป (ตอนที่เราเดินออกมาจากห้องมืดๆ จนพบเหล็กติดล้อสำหรับช่วยเดิน เดินมาทางขวามือเราจะมีบันทึก Audio Log ตกอยู่ด้านหลังเตียงนอน ให้เก็บด้วยครับ)

-ให้เราเดินมาเรื่อยๆ จนพบกับห้องอาบน้ำ เมื่อไอแซคเดินพ้นออกมาจากห้องอาบน้ำ เค้าจะพบภาพหลอน จากนั้นเดินมาทางขวามือ จะพบช่องลม ให้เราเข้าไปในช่องลมแล้วคลานไปตามทางเรื่อยๆ จนพบพื้นที่ผุ แล้วไอแซคจะตกลงมายังห้องทดลองห้องหนึ่ง
-ในห้องนี้จะเป็นห้องปิดตาย เพราะมีกระจกหนาขวาทางอยู่ไม่สามารถออกไปได้ ให้เราไปสำรวจแผงวงจรใกล้ๆกับเตียงที่มีศพลอยอยู่ ไอแซคจะลองแฮคระบบดู ทำให้ระบบเตียงนอนนี้ถูกปิด พร้อมทั้งยังได้ Kinesis มาใช้อีก จากนั้นลองสังเกตุที่เตียงที่ศพลอยอยู่ จะมีแทงเหล็กวางอยู่ที่พื้น ให้เราใช้ Kinesis ยกมันขึ้น แล้วยิงไปที่กระจกบานใสๆ จะสามารถทำลายกระจกได้ แต่นั้นทำให้พวก Necromorphs ได้ยินเสียงกระจกแตก จึงมุ่งเข้ามาโจมตีเรา ให้เราใช้ Kinesis ดึงแทงเหล็กมายิงใส่ Necromorphs จะทำให้กำจัดมันไม่ยากครับ กำจัดหมดแล้วให้เดินออกจากห้องนี้ แล้วไปขึ้นลิฟต์ไป To Surgery Observation Area

-เมื่อออกจากลิฟต์มาแล้ว เราจะอยู่ในห้องเยี่ยมชมการทดลอง พวก Necromorphs จะโผล่มาอีก แต่บริเวณห้องนี้ก็จะมีแท่งเหล็กวางอยู่ตามพื้นเช่นกัน ให้ใช้แท่งเหล็กกำจัดศัตรูให้หมด สำรวจเก็บไอเทมตามตู้สีเหลืองๆ (กล่องไหน หรือตู้ไหนที่มีไฟสีขาวปรากฏอยู่ด้านหน้า แปลว่าเปิดได้ แต่ถ้าเป็นสีแดงแปลว่าเปิดไม่ได้ครับ) แล้วเข้าประตูอยู่ทางขวามือ ที่มีไฟสว่าง
-เมื่อเข้ามาแล้ว เราจะอยู่ในทางเดินของแผนกผู้ป่วย บริเวณนี้จะมีศพอยู่เยอะ เกมจะสอนการใช้มือชก และการกระทืบศพ เกือบทำให้ไอเทมหลุดออกมาจากศพ จากนั้นเดินเข้าประตูห้อง Intensive Care ที่อยู่ปลายทางสุดไป

-เมื่อเราเข้าประตูมา เราจะได้ยินเสียงชายคนหนึ่งร้องขอความช่วยเหลือ เมื่อเดินตามเสียงเข้าไปในห้องผ่าตัด เราจะพบชายคนหนึ่งถูกทิ้งไว้ในขณะที่กำลังผ่าตัดยังไม่เสร็จ ให้เราพยายามแฮคระบบคอมที่อยู่หัวเตียง เพื่อช่วยเค้าอย่างเร่งด่วน แต่ดูเหมือนตัวประกอบก็ยังเป็นตัวประกอบอยู่วันยังค่ำ เมื่อ Necromorphs บุกเข้ามาสังหารชายคนนี้เสียก่อนที่ไอแซคจะช่วยทัน แต่ตอนนี้ไอแซคได้ปืน Plama cutter มาแล้ว ให้เรายิงกำจัด Necromorphs ให้หมด (พยายามยิงตัดแขนของมันนะครับ จะทำให้เรากำจัดมันง่ายยิ่งขึ้น และถ้าใครที่เล่นเก่งแล้ว ให้ยิงตัดแขน 1 ข้าง แล้วใช้ Kinesis หยิบขึ้นแขนแหล่มๆที่เราพึ่งตัดมาตะกี้ มายิงใส่ศัตรูได้เลยครับ จะช่วยเซฟกระสุนได้มากเลย ในกรณีที่เล่นระดับยากกว่านี้) สำรวจเก็บไอเทมภายในบริเวณนี้ แล้วเข้าประตูที่มี Necromorphs ถูกมัดอยู่บนเตียง

-เดียน่า จะติดต่อมาอีกครั้ง เพื่อเตือนเราว่า การยิงที่แขนแหล่มๆของ Necromorphs จะเป็นช่วยให้ฆ่าพวกมันได้ง่ายขึ้น แต่ไอแซคของเรานั้นบอกว่ารู้เรื่องนี้อยู่แล้วหล่ะ เพราะ ได้ฝึกยิงมาเป็นพันๆครั้งแล้ว จากนั้นก็เข้าประตูด้านใน แล้วเข้าประตู Intensive Care Waiting Area
-เมื่อเข้ามาแล้ว ให้เดินมาทางขวามือ ไปเรื่อยๆ เมื่อแสงไฟมืดลง คราวนี้เราจะพบกับการตอนรับของกลุ่ม Necromorphs ให้เรากำจัดให้หมด (แนะนำว่าให้เราเข้าไปยืนรอยิงศัตรูอยู่ในห้องทางขวามือ ที่มีศพนอนอยู่บนเตียงซ้าย/ขวา และมีเงินวางอยู่บนโต๊ะ) เมื่อไฟจะติดอีกครั้ง ประตูทางไปต่อก็จะเปิด
** 1. (โดยประตูไปต่อของเราจะอยู่ทางซ้ายมือ ของเส้นทางที่มีเปลวเฟลิงปิดทางไว้ แต่แนะนำให้เดินไปสำรวจเก็บไอเทมที่อยู่บริเวณพื้นที่ทางขวามือเสียก่อน)
**2. (ตรงที่มีเปลวไฟปิดทางไว้ จะมีกล่องสีเขียวๆอยู่ฝั่งตรงข้าม ให้เรายิงทำลายกล่อง จะพบAudio Log อยู่ด้านหลังกล่อง ให้ใช้ Kinesis หยิบไอเทม Audio Log มาได้)

-เมื่อเดินเข้ามาเรื่อยๆ เราจะพบศพของทหาร ซึ่งวิทยุของทหารจะดังขึ้นมา โดยเนื้อความของบทสนทนานั้นจะบอกเราเป็นนัยๆว่า ให้ยิงที่แขนที่เป็นใบมีดแหล่มๆของศัตรูนะ จากนั้นเดินออกจากห้องมาไปตามทางเรื่อยๆจนพบประตู Upper Lobby
-เมื่อเข้ามาแล้วจะพบว่า บริเวณนี้มีเสียงสัญญาณเตือนภัยดังอยู่ตลอด ไอแซคจะพบชายคนหนึ่งซึ่งเค้าบอกให้ไอแซครีบตามเค้ามา เพราะ มีคนกำลังตามล่าพวกเรา ให้เรารีบวิ่งตามชายคนนั้นไปด้านล่าง (แนะนำว่ายังไม่ต้องให้วิ่งตามครับเก็บไอเทมบนนี้ แล้ว ให้วิ่งลงมาทางซ้ายแทน เพื่อเก็บกระสุนปืน และยาเติมพลังก่อน ) จะพบว่าเรามาช้าไป เพราะประตูเหล็กกั้นได้ปิดทาง และแยกเรากับชายคนนั้น ชายคนนั้นบอกว่าเค้าคือ ผู้ป่วยหมายเลข 5 (ชายคนนี้คือ Nolan Stross คนเดียวกับชายที่อยู่ในบันทึกวีดีโอห้อง Observation Room และเป็นหนึ่งในตัวละครจาก Dead Space : Aftermath)

-ไอแซคติดต่อหา เดียน่า อีกครั้ง เพื่อแจ้งว่าเส้นทางที่เดียน่าให้มานั้นตอนนี้ถูกปิดไปแล้ว เดียน่าจึงต่อว่าไอแซคว่าเป็นเพราะ ไอแซคมาช้าเกินไป ทำให้หนีออกจากโรงพยาบาลไม่ทันประตูปิดล็อค ไอแซคโมโหจึงบอกว่าเค้าไม่ได้ต้องการความช่วยเหลือจากเธอหรอก แต่พูดยังไม่ทันขาดคำ ฝูง Necromorphs ก็ กรูกันเข้ามาจากทุกทิศ ให้เอาตัวชิดประตูบานใหญ่ๆที่ถูกปิดตายไว้ ศัตรูจะมาจากฝั่งตรงข้ามทั้งหมด ให้เรายิงกำจัดไปเรื่อยๆจนกว่าเสียงสัญญาณเตือนภัยจะดับลง
-ไอแซคจะขอโทษเดียน่ากับเรื่องที่เกิดขึ้น ตอนนี้เค้าต้องการความช่วยเหลือจากเดียน่าจริงๆ เดียน่าจึงบอกว่า พวกเราไม่ใช่ศัตรูกัน Tiedemann ต่างหากที่เป็นศัตรูของพวกเรา ตอนนี้เธอเจอเส้นทางใหม่แล้ว ไอแซคยินดีที่ได้ยินเช่นนั้น ตอนนี้ไอแซคสงสัยว่าพวก Necromorphs นั้น เกิดขึ้นมาใน Sprawl แห่งนี้ได้อย่างไร แต่ยังไม่ทันที่เดียน่าจะบอกอะไร Tiedemann นั้นก็ส่งคลื่อนรบกวนการติดต่อของทั้งคู่เสียก่อน จากนั้นให้เข้าประตู Administration.ไป สำรวจที่โต๊ะเคาเตอร์ เราจะได้แผ่นข้อมูล และ Power Node มา จากนั้นก็ให้เดินเข้าประตูบานใหญ่ไป เดินไปตามทางเรื่อยๆ จนพบประตูห้อง Triage Room

**(หากเราลืมเก็บ Audio Log ที่บริเวณ Intensive Care Waiting Area ให้วิ่งกลับขึ้นมาบนชั้น 2 ที่เราพบผู้ป่วยหมายเลข 5 ในตอนแรก จะมีประตูบานใหญ่อยู่ตรงข้ามกับประตูที่เราเดินเข้ามาบริเวณนี้ในครั้งแรก เดินเข้าประตูบานใหญ่นี้ไปจะพบ Audio Log อยู่ด้านในครับ)

-ภายในห้องนี้ เราจะพบว่ามีหลายเตียงที่ติดตั้งระบบ Stasis ไว้ ให้เราไปสำรวจบริเวณแผงวงจรที่มีแสงไฟส่องใส่ ไอแซคจะแกะแผงวงจรออกมา เพื่อแฮคระบบ โดยระบบการแฮคมี ดังนี้ครับ
*การแฮคระบบคอมพิวเตอร์ เป็นเหมือนมินิเกมของภาคนี้ครับ ไม่ยุ่งยากเลย วิธีคือ
1. เมื่อเปิดแผงวงจรออกมาเพื่อระบบแฮค เราจะพบหน้าจอคอมพิวเตอร์เล็กๆอยู่ด้านในใกล้ๆแผงวงจร โดยหน้าจอนี้จะโชว์ภาพกราฟฟิคเป็นแผ่นวงกลม ซึ่งขวามือด้านล่างจะหมายถึงจำนวนจำนวนอีกกี่ครั้งที่เราต้องแฮคให้สำเร็จ และ ที่อยู่ด้านบนแผ่นวงกลม จะเป็นหลอดจับเวลา โดยเมื่อเราเลื่อน Mouseเป็นวงกลม จะพบว่ามีแสงจากจุดศูนย์กลางของ แผ่นวงกลม ฉายไปยังมุมต่างๆ ของแผ่นวงกลมนี้ ตามที่เราหมุน
2. ให้เราหมุนแสงนี้ไปรอบๆ เพื่อหาว่ามุมใดของแผ่นวงกลมนี้มีแสงสีขาวสว่างที่สุด เมื่อพบแล้วให้กดปุ่ม Mouse 1 เพื่อ แฮคระบบเข้าไป แต่ให้ระวังแสงสีแดงไว้ เพราะ จะทำให้ไฟช็อตเรา แล้วทำให้เสียเวลาแฮคด้วย เมื่อแฮคผ่านไปเรื่อยๆ ก็จะผ่านครับ
-เมื่อแฮคสำเร็จ ไอแซคจะเปิดระบบ Stasis ที่อยู่กลางห้อง พร้อมกับได้รับปลอกแขน Stasis มาด้วย โดยเจ้า Stasis นี้จะช่วยให้เราชะลอการเคลื่อนไหวของวัตถุต่างๆ ให้ช้าลงได้ (แต่พลังงานของ Stasis นั้นมีจำกัด โดยสามารถเพิ่มขึ้นได้เมื่อเราพบตู้เติมพลัง Stasis หรือใช้ไอเทมฟื้นฟูที่ชื่อ Stasis Pack ) โดยตอนนี้จะมีหนูทดลองคือ Necromorphs 1 ตัว ที่พึ่งวิ่งตีลีตาเหลือกเข้ามา ให้เราฝึกใช้ Stasis กำจัดมัน
(ต้องใช้ Stasis ชะลอมันด้วยจะดีมากครับ เพราะ เจ้าศัตรูตัวนี้สามารถโจมตีเราทีเดียวตายได้ครับ )-จากนั้นเดินต่อไปยังประตูเราจะพบว่ามันถูกปิดอยู่ ให้เรา สำรวจที่จอมอนิเตอร์ที่อยู่กลางห้องเพื่อเปิดประตู แต่ว่าประตูจะปิดเร็วมาก ดังนั้น ให้เราใช้ Stasis ชะลอประตูไว้ แล้วรีบวิ่งผ่านไป จากนั้น เข้าประตูทางขวามือมา

- เมื่อเข้ามาแล้วเราจะพบ แพทย์ถูกของเหลวบางอย่างสาดใส่จนตาย เมื่อเดินเข้าไปด้านในเราจะพบศัตรูตัวใหม่ของเกม Puker ซึ่งเป็นมอนสเตอร์ที่สามารถโจมตีระยะไกลได้ แถมของเหลวที่มันพ่นใส่เราจะทำให้เราเดินช้าลงด้วย แต่มันมีจุดอ่อนตรงที่มันจะพ่นของเหลวเป็นเส้นตรง ให้เรากำจัดมันเสียโดยพยายามยิงห่างๆมัน เพราะ ตอนมันตาย อ้วกของมันอาจจะโดนเราได้ครับ (ไม่แนะนำให้ยิงหัวขาด เพราะ มันก็พ่นของหลวได้อยู่ดี) + (อีกเทคนิคหนึ่งที่แนะนำคือ รอให้มันพ่นอ้วกแบบระยะไกลใส่เรา ซึ่งอ้วกนี้จะมีลักษณะเป็นก้อนกลมๆ เราสามารถใช้ Kinesis หยิบอ้วกของมันมาแล้วปาใส่มันคืนได้ โดยตอนที่มันกำลังจะพ่นอ้วกระยะไกล มันจะส่งเสียงลากยาวๆ เมื่อกำลังเบ่งอะไรสักอย่าง)
-เดินเข้ามาสำรวจบริเวณบนโต๊ะที่มีตู้เก็บไอเทม ขนาบซ้ายขวา เราจะพบ Power Node อยู่บนโต๊ะนี้ จากนั้นสำรวจเก็บไอเทมที่เหลือ แล้วเดินเข้ามาด้านใน เพื่อลงลิฟต์ Elevator to Patient Care แล้วเราจะได้ยินเสียงเพลงที่แฟนๆ Dead Space หลายคนคิดถึงมาตลอด

-เมื่อประตูลิฟต์เปิดออก ให้เราเดินสำรวจเคาเตอร์ทางขวามือ ด้านในของเคาเตอร์จะมีแผ่นข้อมูล Audio Log และบนโต๊ะจะมี Power Node จากนั้นเก็บไอเทมรอบๆบริเวณนี้ แล้วเดินไปทาง Patient Room East Wing แล้วต่อด้วย Critical Needs Patient Room

**หากว่าเราได้ทำการโหลดไฟล์ .DAT สำหรับเปิดห้องลับ Conduit Room มาแล้ว เมื่อประตูลิฟต์เปิดออก ให้เราวิ่งมาทางซ้ายมือ จะพบห้อง Conduit Room ที่ไม่ได้ล็อค ข้างในจะมีไอเทมต่างๆ และ Audio Log ให้ครับ โดยห้อง Conduit Room จะมีทั้งหมด 4 ห้อง ด่าน 1 / ด่าน 2 / ด่าน 4 และด่าน 9 (ปกติห้อง Conduit Room นั้น คนที่เล่น Dead Space 2 PC ไม่สามารถเปิดได้ เพราะ จำเป็นต้องมีเซฟเกม Dead Space : Ignition ซึ่งเกมนี้มีเฉพาะใน PS3 กับ Xbox360 ครับ)
ลองเข้าดูข้อมูลห้อง Conduit Room ของ PC ได้ที่นี่ครับ
http://forums.steampowered.com/forums/showthread.php?t=1768237
-ไอแซคยังไม่ทันได้สำรวจอะไร จู่ๆกระจกหน้าต่างก็เกิดระเบิดขึ้น ส่งผมให้เกิดแรงลมดูดมหาศาล ดูดเอาทุกสิ่งที่อยู่ในห้องไปหมด (ไม่เว้นแม้แต่ Necromorphs ผู้โชคร้าย ที่อุตส่าห์แกล้งตายรอเหยื่ออยู่นาน ) ให้เรายิงปุ่มสวิตซ์สีแดงใหญ่ๆที่อยู่เหนือช่องกระจกที่แตก จะเป็นการเปิดระบบชัตเตอร์ป้องกันลมดูดครับ จากนั้นก็เดินเข้าประตูที่อยู่ทางซ้ายมือ ( ก่อนเราจะเข้าห้องนี้ เราสามารยิง Necromorphs ที่แกล้งตาย เพื่อเก็บไอเทมจากตัวมันได้ครับ)

-เมื่อเดินเข้ามาทางขวามือ เราจะพบศพ Necromorphs นอนอยู่ที่พื้น ซึ่งเกมนี้มักมีพวก Necromorphs หัวใส แกล้งทำเป็นตายเพื่อล่อเราเข้าไปใกล้อยู่ ผมมีวิธีดีๆมาแนะนำ เวลาเจอศพ Necromorphs ครับ.
พวกศัตรูที่แกล้งนอนตาย เราสามารถเช็กได้ ดังนี้ครับ
1. ทดสอบยิงดู โดยใช้ปืนที่มีกระสุนเยอะที่สุด (แต่เปลืองกระสุนเล็กน้อย)
2. หาวัตถุที่สามารถใช้ Kinesis หยิบได้ แล้วใช้มันยิงใส่ศพ
**3. ใช้ Kinesis ดึงศพ Necromorphs มาหาเรา ถ้าดึงไม่ได้ แปลว่ามันยังไม่ตายครับ (ง่ายสุดครับ)
-จากนั้นสำรวจตู้สีฟ้าๆ ที่อยู่ช่องทางเดินขวามือ ตู้นี่จะให้ Power Node กับเราแทบทุกครั้ง ดังนั้น เวลาเดินทางไปไหนก็ให้สังเกตหาตู้สีฟ้าๆแบบนี้ตลอดนะครับ จากนั้นเดินมายังช่องทางซ้ายมือ เราจะพบกับตู้ขายของ (ตู้ Store item ) ซึ่งตู้นี้จะเป็นตู้บริการอัพเกรดชุด /ซื้อทั้งปืนและไอเทมที่สำคัญ /ฝากของที่ไม่จำเป็น รวมไปถึงการขายของด้วย (ตอนนี้ไอเทมที่มีขายจะยังไม่เยอะ เราสามารถเพิ่มไอเทมได้ ด้วยการเก็บแผ่นข้อมูลที่เรียกว่า Schematic เพื่อนำมาอัพเดทสินค้าต่างๆภายในตู้ขายของของเราครับ)

-ให้เราทำการอัพเกรดชุดเกราะของเราเป็น Engineering Suite เสีย ตอนนี้เท่ากับว่าไอแซคได้ความสามารถขั้นพื้นฐานทั้งหมดกลับคืนมาแล้ว เมื่อหมดธุระกับห้องนี้ก็ให้ออกประตู To Emergency Arrival Area ไปครับ
***(หากใครมีเซฟ Dead Space ภาคแรกอยู่ในเครื่อง จะจบเกมหรือไม่จบก็ได้ คาดว่าจะได้รับ Refurbished Plama Cutter ซึ่งเป็นพลาสมาคัทเตอร์ แบบภาคแรก ซึ่งสเตตัสจะเท่ากับพลาสม่าคัทเตอร์ของภาค 2 ที่เราถืออยู่ตอนนี้ทุกประการ)

** หากว่าคุณจบเกมแล้วอย่างน้อย 1 รอบ ในระดับความยากใดก็ได้ เมื่อเข้ามาห้องที่มี Store กับ Necromorphs ที่นอนเกล้งตายอยู่ เมื่อเราเดินสำรวจบริเวณม้านั่งที่อยู่หน้าตู้ใส่ Power Node เราจะได้รับ Schematic : Engineering Elite Suite ซึ่งเมื่อนำแผ่นข้อมูลนี้ไปอัพเดทสินค้ากับเครื่อง Store เราจะได้รับ Elite Engineering Suite ซึ่งเป็นชุดที่มีความสามารถและพลังป้องกันดีกว่า Engineering Suite ตัวเดิมครับ ส่วน Elite Suite อื่นๆนั้น สามารถหาได้จากการเก็บ Schematic ที่อยู่ด่านหลังๆครับ

-บริเวณนี้จะไม่มีอากาศหายใจ แต่เนื่องจากชุดของไอแซคมีระบบอากาศสำรอง ทำให้เราสามารถมีชีวิตอยู่ได้ แต่ระวังอย่าให้เกจอากาศหมด ไม่เช่นนั้นตายสถานเดียว ให้เดินไปเรื่อยๆจนเจอประตู Emergency Arrival Area เพื่อออกจากบริเวณนี้ไปครับ
**(ตอนที่เราเดินเข้ามาพบรอยแตกของผนังในห้องสุญญากาศนี้ ให้สังเกตด้านนอกดีๆ จะพบวัถุลอยอยู่ ให้ใช้ Kinesis หยิบเข้ามา จะรู้ว่ามันคือ Power Node นั้นเอง!!)

-บริเวณนี้จะเป็นพื้นที่ค่อนข้างกว้าง เมื่อไอแซคเดินสำรวจบริเวณใกล้ๆกับรถไฟฟ้าที่มีเปลวเพลิงลุกไหม้ ก็จะพบกับ Necromorphs ขนาดใหญ่ ออกมาโจมตีเราให้เราใช้ Stasis ชะลอความเร็วของมัน จากนั้นก็ยิงต่อมสีเหลืองๆ ที่แขนทั้ง 2 ข้าง เมื่อเราจัดแขนมันหมด มันจะยื่นลิ้นแหลมๆออกมา ให้เรายิงต่อมสีเหลืองที่ลิ้นของมันจนกว่ามันจะตายครับ โดยเมื่อเราชนะ จะได้รับ Gold Semiconductor ที่สามารถนำไปขายได้ในราคา 3000
คำแนะนำ
1. ตอนที่เข้ามาห้องนี้ สังเกตซ้ายมือจะมีตู้เติม stasis อยู่ด้วย ให้ใช้มันให้เป็นประโยชน์ครับ
2.บริเวณนี้จะมีกล่องสีเขียวๆ วางอยู่ตามพื้น เราสามารถทำลายเพื่อเก็บกระสุนที่อยู่ข้างในได้ครับ
3. บริเวณนี้จะมีเสาขนาดใหญ่อยู่กลางฉาก 1 ต้น ให้เราล่อให้มันเดินมาติด เพื่อเป็นการชะลอความเร็วในการเดินของมัน จะช่วยให้เราเว้นระยะห่างจากมันได้มากขึ้นครับ ส่วนเสาต้นอื่นๆ มันจะใช้ท่ากระโดดพุ่งชนจนพังได้ครับ

-เมื่อไอแซคกำจัดมันได้ เค้าจะติดต่อเดียน่าอีกครั้ง เพื่อแจ้งว่าเค้าออกมาจากพื้นที่โรงพยาบาลได้แล้ว/ เดียน่าบอกว่าไอแซคต้องเดินทางไปขึ้นรถไฟฟ้าที่อยู่ถัดจากพื้นที่อพาร์ทเม้นที่อยู่ใกล้ๆนี้ /ไอแซคถามต่ออีกว่า เค้ามาอยู่ที่เมืองแห่งนี้นานรึยัง / เดียน่าบอกว่า 3 ปีแล้ว หลังจากที่ Tiedemann พบตัวไอแซคอยู่ภายในยานอวกาศใกล้ๆกับดาว Aegis 7 พวก Tiedemann จึงจับตัวไอแซคมารักษาและกักขังไว้เพื่อศึกษา /ไอแซคถามต่อว่าทำไมเค้าถึงจำเรื่องราวในอดีตไม่ได้ /เดียน่าเล่าว่าเป็นเพราะ Marker นั้นทำการบันทึกสัญญาณบางอย่างลงในสมองของไอแซค ตราบเท่าใดที่ไอแซคตื่นอยู่ สัญญาณนั้นก็จะยิ่งลุกลามภายในสมองของไอแซคมากขึ้นเรื่อยๆ จนสุดท้ายมันอาจจะทำให้ไอแซคตายได้ และ Tiedemann ได้ใช้ยาทำการควบคุมความทรงจำของไอแซค (คาดว่าเพื่อลดสัญญาณในสมองของไอแซค ป้องกันไอแซคตาย จะได้ศึกษาไอแซคต่อ) เมื่อฟังเรื่องราวจบแล้วก็ให้เข้าประตู Vehicle Maintenance Bay
-เดินต่อมาเรื่อยๆจนพบช่องลม ที่ถูกแผ่นเหล็กปิดไว้ ให้เราใช้ Kinesis ดึงมันออกมา โดยหากเราพบสัญลักษณ์ทรง 5 แหล่มสีฟ้าแบบนี้ที่ใด แปลว่าเราใช้ Kinesis กับสิ่งนี้ได้ครับ จากนั้นเข้าช่องลมแล้วคลานออกมา เราจะพบว่าห้องนี้จะมีตู้ขายของ และตู้ Bench ที่ใช้อัพเกรดปืน/ Stasis /Kinesis และขีดพลังชีวิต โดยการอัพเกรดแต่ละครั้งจำเป็นต้องใช้ไอเทมที่มีชื่อว่า Power Node ใส่ในช่องอัพเกรด ไล่ช่องจากซ้ายไปขวา แปลว่าต้องมีการบริหารจัดการที่ดีถึงจะอัพเกรดได้ประโยชน์สูงสุด เมื่อเสร็จธุระแล้วก็ให้เดินออกประตูที่อยู่ตรงกลางห้องไป (ควรพก Power Node ติดตัวไอย่างน้อย 1 ชิ้น)

จบ Chapter 1
Chapter 2-เมื่อเข้ามาแล้ว เราจะได้ยินประกาศจากโทรทัศน์ เรื่องการอพยพ ซึ่งผู้ประกาศนั้น คือ Tiedemann นั่นเอง โดยบริเวณช่องทางเดินอัตโนมัตินี้จะมีกล่องเขียวเก็บไอเทมซ่อนอยู่ใต้กระเป๋าที่วางซ้อนกัน / จะ Stasis Pack อยู่ทางซ้ายมือใกล้ๆเครื่องขายน้ำ / มีเงิน 100 อยู่ทางขวามือของช่องทางเดินอัตโนมัติ

-เมื่อเก็บของหมดแล้วให้เดินมาประตูที่อยู่ด้านในสุด ตรงหน้าเรา โดยประตูนี้จะต้องใช้ Power Node เปิดเข้าไป ดังนั้น เราควรพก Power Node ติดตัวไอย่างน้อย 1 ชิ้น ทุกครั้ง โดยข้างในมีไอเทมสำคัญๆอย่าง
1.Schematic : Power Node ที่ช่วยให้ตู้ขายของ ขาย Power Node ให้กับเรา
2. Ruby Semiconductor ที่สามารถนำไปขายได้เงินถึง 10,000
3. มีแผ่นข้อมูลของเหตุการณ์หลังยาน อิชิมูระขาดการติดต่อ ด้วย

ถ้าเก็บของเสร็จแล้วก็ให้เข้าประตู Titan Heights Apartments
-เมื่อเราเข้ามาจะพบเหตุการณ์ที่ Necromorphs โจมตีผู้คน ให้กำจัดพวกศัตรูให้หมด (ที่พื้นทางซ้ายมือเราจะมี Power Node ให้เก็บด้วย) จากนั้นลงลิฟต์ไปชั้นถัดไป

-เมื่อออกจากลิฟต์ ไอแซคจะพบ ผู้ป่วยหมายเลข 5 อีกครั้ง เค้าจะบอกเราว่า ทั้งเค้าและไอแซคต่างถูกวางยาด้วยกันทั้งคู่ แต่ไม่ทันจะบอกรายละเอียดอะไรได้มากนัก Necromorphs ที่ชื่อว่า Leaper ก็เข้าจู่โจมไอแซคเสียก่อน ซึ่งมันเป็นศัตรูที่มีความเร็วสูงมาก อีกทั้งยังสามารถกระโดดไกล รวมไปถึงวิ่งบนผนังได้ให้เราใช้ Stasis ช่วยในการกำจัดมัน และ พยายามยิงตัดแขนทั้ง 2 ข้างของมันนะครับ จะทำให้มันตายง่ายขึ้นมาก ผลจากการโจมตีของ Leaper ทำให้ทั้งคู่ต้องแยกกันอีกครั้ง จากนั้นหันหลังกลับจากหน้าต่าง เดินไปตามทางเรื่อยๆจนพบประตู แล้วเข้าไป
-เมื่อเข้ามาแล้วเราจะพบเหตุการณ์ที่ชายคนหนึ่งกำลังจะช่วยแม่ของเค้า แต่ถูกชายอีกคนห้ามไว้ ไอแซคกำลังจะเดินเข้าไปหา แต่ถูก Necromorphs ขวางเสียก่อน กำจัดมันแล้วสำรวจไอเทมทั้งหมด แล้วเดินไปยังประตูที่ชาย 2 คนนี้หนีไป (ประตู Laundry)
-บริเวณนี้จะเป็นห้องซักรีด ขณะที่ไอแซคเดินสำรวจไปเรื่อยๆ ไฟก็ดับลง พวก Necromorphs โจมตีไอแซคอีกครั้ง กำจัดมันให้หมด รอจนกว่าไฟฟ้าจะกลับมา แล้วเข้าประตู Terrace จากนั้นต่อด้วย Titan Heights East Wing (แนะนำให้ตั้งรับแถวๆ ประตูที่เราพึ่งเข้ามา หรือประตูที่อยู่ตรงข้ามก็ได้ครับ เพราะ ตรงนี้จะไม่มีช่องลมอยู่ใกล้ๆเรานัก ช่วยป้องกันไม่ให้พวก Necromorphs ประชิดตัวเราเร็วเกินไป )
-เมื่อเข้ามาแล้วเราจะได้ยินเสียงชายคนหนึ่งที่ขังตัวเองอยู่ในห้อง ไม่ต้องไปสนใจ ให้เดินไปตามทางจนสุดเพื่อเก็บแผ่นข้อมูลก่อน จากนั้นค่อยลงลิฟต์ไปชั้นถัดไป
-ขณะที่ลงลิฟต์ไอแซคบอกเดียน่าว่า พวก Necromorphs มีอยู่ทุกที่เลย แบบนี้ทั่วทั้ง Sprawl (ชื่อเมืองที่เราอยู่ตอนนี้) คงมีแต่เชื้อไวรัสเต็มไปหมด เรื่องพวกนี้มันเกิดขึ้นได้ยังไง ในเมื่อผมทำลาย marker ไปแล้ว /เดียน่าจึงบอกว่า Tiedemann นั้นสร้าง marker ขึ้นมาใหม่ เพราะ Tiedemann ต้องการพลังอำนาจของ Marker ตอนนี้ไอแซคยังไม่ต้องสนใจ แต่ให้รีบมุ่งหน้ามาขึ้นรถรางก่อน เพื่อมายัง Cassini Tower Tram Station
-เมื่อประตูเปิดออก ให้เดินสำรวจหาไอเทมให้หมด จากนั้นมาเข้าประตู Galilie Transit Station ไอแซคจะพบเหตุการณ์ที่ยานชนกันกลางอากาศ จากนั้นเดินต่อมาตามทางเรื่อยๆ จะพบว่าประตูล็อคทุกด้าน แล้วกลุ่ม Exploder ออกมาโจมตีเรา ซึ่งมันจะเป็นศัตรูที่มีแขนข้างหนึ่งจะเป็นระเบิด ดังนั้นห้ามมันเข้าใกล้เราเด็ดขาด แต่เราสามารถยิงตัดแขนมัน แล้วใช้ Kinesis หยิบระเบิดมายิงใส่พวกมันได้นะครับ เมื่อกำจัดหมดแล้วประตูทางซ้ายมือเราจะทำงานอีกครั้ง ให้เข้าประตู GalilieTransit Station ไป
(ตอนที่เราเดินเข้ามาเจอช่องทางเดินอัตโนมัติครั้งแรก ให้สังเกตซ้ายมือของช่องทางเดิน จะมี Gold Semiconductor วางอยู่ในมุมมืด ให้ใช้ Kinesis หยิบมาเสีย)

**หากว่าเราได้ทำการโหลดไฟล์ .DAT สำหรับเปิดห้องลับ Conduit Room มาแล้ว เมื่อผ่านประตู Cassini Tower Tram Station ให้เราวิ่งมาตามทางยาวๆ ที่มี Necromorphs นอนแกล้งตาย และ Leaper โจมตีเรา ที่สุดปลายทางจะพบห้อง Conduit Room ที่ไม่ได้ล็อค ข้างในจะมีไอเทมต่างๆ รวมไปถึงไอเทมสำคัญๆอย่าง Audio Log และ Schematic : Hacker Suit ให้ครับ โดยห้อง Conduit Room จะมีทั้งหมด 4 ห้อง ด่าน 1 / ด่าน 2 / ด่าน 4 และด่าน 9
(ปกติห้อง Conduit Room นั้น คนที่เล่น Dead Space 2 PC ไม่สามารถเปิดได้ เพราะ จำเป็นต้องมีเซฟเกม Dead Space : Ignition ซึ่งเกมนี้มีเฉพาะใน PS3 กับ Xbox360 ครับ)

-เมื่อเข้ามาถึงไอแซคจะพบภาพหลอนอีกครั้ง เดินมาเรื่อยๆไอแซคจะพบคนๆหนึ่งที่เรารู้จักกันเป็นอย่างดี แต่แล้วคนคนั้นก็หายไป พร้อมกับเสียงของขบวนรถไฟสายด่วยมรณะที่วิ่งไปอย่างไม่มีหยุด
-เมื่อจบเหตุการณ์ภาพหลอน ให้หันกลับมามองที่รถไฟที่ยังจอดอยู่ที่ชานชาลา Infector ซึ่งเป็นศัตรูที่สามารถทำให้ศพมนุษย์กลายเป็น Necromorphs ได้ โดยมันจะโผล่ออกมาจู่โจมศพที่อยู่ข้างในรถไฟฟ้าอย่างรวดเร็ว และเปลี่ยนศพให้กลายเป็น Necromorphs ให้กำจัดพวกมันให้หมด โดยเน้นที่ Infector ก่อน เพื่อป้องกันการเพิ่มจำนวนของ Necromorphs จากนั้นก็เดินสำรวจเก็บไอเทมรอบๆ (ตรงรางรถไฟฟ้าที่มีรถไฟฟ้าที่ไฟลุกไหม้วิ่งผ่านไปตะกี้ก็มีไอเทม Schematic : Stasis Pack ด้วยนะครับ ให้ใช้ Kinesis เก็บเอา) แล้วขึ้นรถไฟฟ้าไป

-เมื่อเข้ามาแล้วก็ให้เดินมาทางซ้ายมือ ไปตามห้องโดยสารเรื่อยๆ จนพบแผงวงจร ให้เราทำการแฮคมันเสีย แล้วรถไฟฟ้าจะทำงานอีกครั้ง พร้อมกับพวก Necromorphs ที่โผล่ออกมาขอบคุณเราที่ช่วยให้รถฟ้าเคลื่อนไหวอีกครั้ง จัดการพวกมันให้หมด แล้ววิ่งไปจนกว่าจะถึงหัวขบวนรถ (บริเวณทั้งซ้าย/ขวามือของเราจะมีเสาที่สามารถชกพังได้ เราจะได้แท่งเหล็กมาไว้ยิงใส่ Necromorphs ฟรีๆครับ)
-เมื่อวิ่งมาเรื่อยๆ ไอแซคจะพบว่า ขบวนรถไฟฟ้านั้นขาดออกจากกัน เมื่อมองซ้ายมองขวาแล้วก็ไม่เห็นจะมีทางอื่น จึงต้องเสี่ยงใช้ไอพ่นที่เท้าบินไปยังขบวนรถที่อยู่ข้างหน้า ตอนบินนี้จะมีเศษประตูเหล็กปลิวมาชนเราได้ ให้เราหลบไปทางขวาก่อน และ หลบไปทางซ้ายมือตามลำดับ เมื่อบินมาใกล้ในระดับหนึ่ง จะมีปุ่มให้กดขึ้นมาเพื่อที่ไอแซคจะจับเสาแล้วดึงตัวเข้ามายังด้านในขบวนรถไฟฟ้า จากนั้นก็มุ่งหน้าไปยังหัวขบวน
ไม่มีความคิดเห็น: